"จิ้งจอกสยามโมเดล" !! "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แม่ทัพ "ช้างศึก" เตรียมให้ทีมงานสเก้าท์ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ทำการวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อน ของทีมเพื่อนร่วมกลุ่มในรอบ 12 ทีมสุดท้าย หลังจากการจับสลากเสร็จสิ้นลงในวันที่ 12 เม.ย.นี้ เนื่องจากว่าที่แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ รังสรรค์ผลงานให้เห็นมาแล้วในแต่ละเกมของลีกผู้ดี รวมทั้งจะหารือกับ เคลาดิโอ รานิเอรี่ กุนซือชาวอิตาเลียน ถึงการใช้แท็กติกเกมในบ้าน-นอกบ้าน กระทั่งพาทีมจะเข้าป้ายแชมป์เข้าไปทุกขณะ เพื่อมาประยุกต์ใช้กับขุนพลจากฝั่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา พร้อมกันนี้ยังได้รับการชื่นชมและอวยพรจาก "เจ้าคุณธงชัย" ให้ฝ่าฟันในรอบที่ 3 ของโซนเอเชีย ให้ได้ หลังจากติดตามผลงานของทีมมาอย่างยาวยาวนาน

"ซิโก้" ไปร่วมงาน "เลสเตอร์" รับแชมป์ลีก

        ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทัพของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งเตรียมตัวจะลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย เพื่อคัดเอา 4 ทีมในการผ่านเข้าไปเล่นที่ประเทศรัฐเซีย

        จากการที่ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นแอมบาสเดอร์ เลสเตอร์ อะคาเดมี่ ในประเทศไทย และเคยไปศึกษาดูงานที่รัง "จิ้งจอกสยาม" มาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าตัวว่า ในรอบ 12 ทีมสุดท้าย จะมีการดึงระบบการทำงานส่วนใดของว่าที่แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาประยุกต์ใช้บ้าง

        เรื่องนี้เจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจผ่านทางรายการ เจาะบอลไทย บาย ซิโก้ ซึ่งจะแพร่ภาพออกอากาศวันอาทิตย์ เวลา 20.00 น. ทางช่อง ที สปอร์ต ว่า "ในตอนที่ผมไปดูงานครั้งแรก ยังคิดว่าหาก เลสเตอร์ ซิตี้ ได้เป็น 1 ใน 4 ทีมไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นหน้า ถือว่าเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จไม่น้อย ทว่ามาถึงจุดนี้พวกเขากำลังขยับเข้าใจแชมป์ทำให้ผมถือว่าเป็นเรื่องที่น่ามหัสจรรย์ ซึ่งช่วยสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศอย่างยิ่ง"

        "และในตอนแรกที่ผมคุยกับ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เขาหวังที่จะดึง เคลาดิโอ รานิเอรี่ เข้ามาเพื่อทำให้ทีมไม่ตกชั้น กระทั่งมาถึงวันนี้เขากำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์ของลีกที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการต่อยอดขวัญกำลังใจให้กับทีมชาติไทย ที่เป็นทีมเล็กในรอบ 12 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก ครั้งนี้ และเมื่อถึงวันรับถ้วยแชมป์ผมเองจะเดินทางไปที่สนามอย่างแน่นอน"

      ให้สเก้าท์ "จิ้งจอก"วิเคราะห์คู่แข่งรอบสาม

        "ซิโก้" ยังกล่าวต่อว่า "การที่เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่มีสตาร์ชื่อดัง แต่พวกเขากลับมีทีมสเก้าท์นักเตะที่ยอดเยี่ยม ด้วยการใช้โปรแกรมเซาะหาผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก ด้วยงบที่สามารถซื้อได้เข้ามาเสริมทีม อีกทั้งยังโดดเด่นในเรื่องของการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา วิเคราะห์เกมคู่ต่อสู้ทั้งในและนอกบ้าน เพื่อเน้น 3 แต้มทุกนัด นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาครองจ่าฝูงอยู่ในเวลานี้ เสมือนกับทีมชาติไทย ที่ก้าวมาเล่นในรอบสามได้อย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน"

        "เมื่อการจับสลากแบ่งสายในรอบ 12 ทีม ออกมาในวันที่ 12 เม.ย.นี้ ผมจะติดต่อไปที่ทีมงานเลสเตอร์ ซิตี้ อีกคครั้ง เพื่อให้เขาได้ใช้โปรแกรมการวิเคราะห์คู่แข่ง จุดดี จุดด้อย ของแต่ละทีมในกลุ่มเดียวกันกลับมาให้เรา รวมทั้งผมจะคุยกับ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ถึงเรื่องของแท็กติกต่างๆยามเล่นในและนอกบ้าน เพื่อเน้นผลการแข่งขันแบบที่พวกเขาเป็นอยู่ แม้ว่าปีหน้าจะต้องรักษาฟอร์มการเล่นให้ได้ตลอด เพราะซีซั่นต่อไปอาจจะเป็นฤดูกาลที่เหนื่อยของสโมสรแห่งนี้ก็ตาม"

     "เจ้าคุณธงชัย"อวยพรก่อนซัดรอบ 12 ทีม

        นอกจากนี้ "ซิโก้" ยังได้เปิดเผยในเกี่ยวกับงานเลี้ยงวันเกิดย้อนหลังวัย 58 ปีของ วิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ คิงส์ เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ รางน้ำ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวได้มีโอกาสได้สนทนา พระพรหมมังคลาจารย์ (ธงชัย ธมฺมธโช) หรือ “เจ้าคุณธงชัย” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ที่ทัพ “จิ้งจอกสยาม”มักจะได้การพรมน้ำมนต์ เพื่อเป็นศิริมิ่งขวัญให้กับทีม จนเป็นข่าวที่ฮือฮาไปทั่วโลก

        "ในงานเลี้ยงวันเกิดย้อนหลังของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ผมได้มีโอกาสสนทนากับ เจ้าคุณธงชัย ซึ่งท่านได้ติดตามทีมชาติไทยมาโดยตลอด และได้มีการชื่นชมพร้อมกับอวยพรในการเข้าไปเล่นในรอบ 12 ทีมสุดท้าย ทำให้ช่วยสร้างแรงผลักดันในการเล่นให้กับทีมอย่างแน่นอน"

        เกี่ยวกับเรื่องที่มีการพูดถึงเรื่องที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีแผนที่จะทบทวนเรื่องการอัญเชิญตรา ตราพระมหามงกุฏ ซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยมาติดบนหน้าอกเสื้ออีกครั้ง หลังได้พูดคุยกับตัวแทนของสมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อหาแนวทางนำตราพระมหามงกุฎคืนสู่เสื้อของทีมชาติไทยอีกครั้ง ทางกุนซือของทัพ "ช้างศึก" ได้เปิดเผยว่า

        "เวลานี้สัญลักษณ์บนหน้าอกเสื้อของทีมชาติไทย ถือว่าเป็นสิ่งที่มีพลังอย่างมาก ขณะที่ตราพระมหามงกุฎก็เป็นสิ่งที่รัชกาลที่ 6 ประทานมาให้ ถ้าหากว่าจะมีการติดอกเสื้อก็ถือเป็นการเทิดทูนพระมหากษัตริย์ ถ้ารวมกันได้จะเรียกได้ว่าแลดูยิ่งใหญ่ สำหรับตนแล้วก็ยังเคยเป็นอดีตผู้เล่นทีมชาติไทย ซึ่งเป้าหมายทุกนัดที่ลงคุมทีมก็อยากจะให้นักเตะได้มีความภาคกูมิใจในการรับใช้ทีม"