ทีมชาติไทย กลับขึ้นสู่เบอร์ 1 ของอาเซียน ในการประกาศแรงกิ้งฟีฟ่าวันที่ 2 มิ.ย.นี้ แน่นอน หลังจากทำคะแนนแซง ฟิลิปปินส์ ที่ห้าวเป้งขึ้นตำแหน่งนี้มา 2 เดือนหลัง ขณะเดียวกันหากคว้าแชมป์ คิงส์ คัพ ครั้งที่ 44 ได้ จะยึดบังลังก์ดังกล่าวไปอีกนานหลายเดือน

ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การกุมบังเหียนของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง โดยพวกเขาเตรียมลงบู๊ในศึก คิงส์ คัพ ครั้งที่ 44 ซึ่งมี 3 ชาติที่ตอบรับ ไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน, สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และซีเรีย โดยจะฟาดแข้งกันแบบน็อคเอ้าท์ เพื่อหาสองทีมเข้าชิงกัน ระหว่างวันที่ 3 กับ 5 มิ.ย.นี้

จากกรณีที่มีจดหมายรับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่ส่งมายังสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อแจ้งรับรองการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 44 เป็นการแข่งขันแบบ International "A" Competition ที่จะมีผลต่อการจัดอันดับโลกฟีฟ่า หรือ ฟีฟ่า แรงกิ้ง

อย่างไรก็ตามการประกาศแรงกิ้งในครั้งต่อไปของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า จะมีขึ้นในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ ซึ่งถือว่าก่อนการแข่งขัน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 44 ทำให้มีแฟนบอลหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า อันดับโลกของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

ซึ่งมีข้อมูลในเชิงลึกออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า การประกาศอันดับโลกวันที่ 2 มิ.ย.นี้ แรงกิ้งของไทยจะกลับมาเป็นเบอร์ 1 ของอาเซียน ด้วยคะแนน 302 คะแนน แทนที่ของ ฟิลิปปินส์ ที่จะลดเหลือ 299 คะแนน โดยพวกเขายึดบัลลังก์ไปใน 2 เดือนล่าสุดอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์กันว่า หากผลงานใน คิงส์ คัพ ครังที่ 44 ของทีมชาติไทย สามารถคว้าแชมป์ได้เป็นหนที่ 13 ต่อจากปี 1976, 1979, 1980, 1981, 1982, 1984, 1989, 1990, 1992, 2000, 2006, 2007 จะทำให้พวกเขายึดเบอร์ 1 1อาเซียนไปอีกหลายเดือนทีเดียว

ส่วนเรื่องที่หลายคนกังวลใจเกี่ยวกับการซ้อมของทีมชาติไทย หลังจากที่พวกเขาได้พักโรงแรมดุสิตธานี ในช่วงของ คิงส์ คัพ ครั้งนี้ มีการยืนยันออกมาจากทีมแล้วว่า จะเดินทางไปซ้อมที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน กันตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์นี้ เพื่อให้เกิดความเคยชินอย่างมากที่สุด