"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ช "ช้างศึก" ปลุกใจพลพรรค โดยมองว่า เวิลด์ คัพ ควอลิฟายด์ เอเชีย รอบ 12 ทีมหนนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญและเหนือกว่าทุกรายการที่ผ่านมาในรอบ 3 ปีซึ่งมีเป้าหมายในการหยิบ 1 ถึง 3 แต้ม กลับออกมาจากรังซาอุดิอาระเบีย ให้ได้ ส่วนการพบกับ ญี่ปุ่น ในเกมที่สอง ยอมรับว่า "ซามูไร บลู" เหนือชั้นกว่ามาก และไม่อยากให้นักเตะตกหลุมพลางที่สื่อแดนปลาดิบเปรียบเปรยเหมือนกับผู้เล่นตัวเก่งของพวกเขา ทั้ง ยูกิ นากาโตโมะ, เคซึเกะ ฮอนดะ, ชินจิ โอกาซากิ

ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ชุดใหญ่  ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปเก็บตัวยังประเทศกาตาร์ ในวันที่ 21 ส.ค. เพื่อสร้างความพร้อมแล้วบินไปเล่นในเกมแรก กลุ่ม บี ของศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กับ ซาอุดิอาระเบีย วันที่ 1 ก.ย.นี้ ก่อนกลับมาเล่นนัดสอง พบ ญี่ปุ่น วันที่ 6 ก.ย.

 "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ได้ออกมากล่าวก่อนที่นักเตะทั้ง 23 คน จะมารายงานตัววันที่ 21 ก.ย.นี้ เวลา 11.00 น. ที่โรงแรม ดิ เอเมอรัลด์ จากนั้นเวลา 21.15 น. จะเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อไปเก็บตัวยังประเทศกาตาร์ ด้วยเที่ยวบิน คิวอาร์ 833

  "ผมพูดได้เลยว่าเวลานี้เราไปแบบฟูลทีม และเราจะเล่นตามระบบที่คุ้นเคย ที่ได้ทำการซ้อมและลงแข่งมานาน 3 ปีเต็ม ที่ผ่านมาเราเคยได้สัมผัสแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ, แชมป์ซีเกมส์, อันดับ 4 เอเชียน เกมส์ รวมทั้งการไปเล่นปรีโอลิมปิก แต่ผมขอให้ทุกคนรู้ว่านี่คือเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของนักเตะอาชีพ"

 "เพราะฟุตบอลโลก หนนี้ ทั้งตัวผมและนักเตะในทีมทุกคน ต่างทำงานกันมาอย่างหนัก รวมทั้งมีความตั้งใจที่อยากจะผ่านเข้ามาในรอบ 12 ทีมสุดท้าย จนเราสามารถฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ ซึ่งเป้าหมายการไปซาอุดิอาระเบียครั้งนี้ ผมหวังจะพาทีมเก็บ 1 คะแนน หรือสร้างเซอร์ไพรส์เอา 3 แต้มกลับออกมาให้ได้"

พร้อมกันนี้ "ซิโก้" ยังพูดถึงประเด็นในเกมที่สอง ซึ่งจะเปิดบ้านพบ ญี่ปุ่น วันที่ 6 ก.ย.นี้ หลังจากสื่อแดนปลาดิบต่างยก 3 คีย์แมนทีมชาติไทย เทียบเท่ากับนักเตะชั้นนำของซามูไรบลู ทั้ง ธีราทร บุญมาทัน-ยูกิ นากาโตโมะ, ชนาธิป สรงกระสินธ์-เคซึเกะ ฮอนดะ และ ธีรศิลป์ แดงดา-ชินจิ โอกาซากิ ว่า

 "ถือว่า ญี่ปุ่น ให้เกียรติทีมชาติไทยอย่างมาก ในการเปรียบเทียบนักเตะของเรากับผู้เล้นของเขาที่ค้าแข้งในลีกระดับโลก แต่เราคงจะไม่หลงกลหรือตกหลุมพรางเป็นอันขาด เพราะเราต้องยอมรับว่านักเตะของเขาดีกว่ามากมาย หรืออาจจะพูดได้ว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดในเอเชีย"

 "ฉะนั้นแม้ว่าเราจะเล่นในบ้านตัวเอง เพื่อเจอกับ ญี่ปุ่น ในวันที่ 6 ก.ย.นี้ ก็ตาม แต่เราคงจะต้องถ่อมตัวเอง เพราะชื่อชั้นของเราอาจจะยังไม่ถึงพวกเขามากนัก ที่มีทั้ง เทคนิค, ระบบแท็กติก รวมทั้งประสบการณ์ที่สูงกว่า แต่เราจะขอสู้ให้ถึงที่สุดตลอด 90 นาที"