อีกไม่กี่อึดใจ เกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง ของกลุ่ม บี ระหว่าง ทีมชาติไทย ซึ่งจะเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน พบ ญี่ปุ่น จะระเบิดเพลงแข้งในวันที่ 6 ก.ย.นี้

 2 คีย์แมนที่เป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทย จนได้รับการขนานนามให้เป็น 2 พี่น้องตระกูล "ธี" ในนามทีมชาติไทย และสโมสร เอสซีจี เมืองทองฯ อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน มีสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเกี่ยวกับการลงสนามเกมนี้

 "เทพมุ้ย" เคยลงฟาดแข้งกับ 2 เพลงแข้งญี่ปุ่นในชุดนี้มาแล้ว อีกคน "กัปตันอุ้ม" มีความฝันอันยิ่งใหญ่ ที่อยากจะไปค้าแข้งใน เจ ลีก ซึ่งเป็นเวทีที่เขาอยากจะได้ประสบการณ์ ทำให้ 2 ดาวเตะจาก "กิเลนผยอง" ได้เปิดใจก่อนเกมนี้ออกมาให้แฟนบอลได้รับชมกัน

 "เทพมุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา : "เราจะวัดมาตรฐานกับญี่ปุ่น"

        ย้อนกลับไปในเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เมื่อวันที่ 6 ก.พ.2008 ซึ่ง ญี่ปุ่น เปิดบ้านสอนเชิง ทีมชาติไทย ไป 4-1 ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นยะเยือก ชนิดที่มีหิมะตกลงมาตลอด 90 นาที ภายในสนาม ไซตามะ สเตเดี้ยม

        ดาวรุ่งวัย 19 ย่าง 20 ปีเวลานั้น ถูก "อ.หรั่ง" ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน กุนซือทีมชาติไทยเวลานั้น ดันขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ ซึ่งเป็นกองหน้าที่หลายคนมองว่า จะเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของทีม ต่อจาก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน และ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ ธีรศิลป์ แดงดา

        ในเกมที่แพ้ ญี่ปุ่น 1-4 กองหน้าดาวรุ่งอย่าง "เทพมุ้ย" ไม่ได้ถูกส่งลงสนาม อาจเป็นเพราะว่าประสบการณ์ของเขาน่าจะยังน้อยเกินไป กระทั่งในวันที่ 14 มิ.ย.2008 หรือเกือบ 4 เดือนต่อมา ธีรศิลป์ แดงดา ถูกส่งลงสนามให้จับคู่กับ "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี ในการล่าตาข่าย

        อย่างไรก็ตาม เกมนั้น ทีมชาติไทย ต้องแพ้คาบ้านไป 0-3 ซึ่ง ธีรศิลป์ ได้ลงดวลเพลงแข้งกับ 2 จาก 23 แข้งญี่ปุ่นที่เดินทางมาเล่นในเกมที่สอง ของฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ในวันที่ 6 ก.ย.นี้ อย่าง ชินจิ คางาวะ ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 18 ปี และ มาโคโตะ ฮาเซเบะ กองกลางดาวรุ่งตัวตัดเกมในเวลานั้น

        ธีรศิลป์ ย้อนความหลังว่า "ในช่วงนั้นลีกบ้านเรายังไม่เป็นมืออาชีพเท่าทีควร อีกทั้งนักเตะของญี่ปุ่นมีมาตรฐานในการเล่น และหลายคนยกชุดมาจากฟุตบอลโลก 2006 ไม่ว่าจะเป็น มาร์คัส ตูลิโอ ทานากะ, ยูจิ นากาซาว่า, คาซูฮิโตะ เอ็นโดะ และ ซุนซูเกะ นากามูระ"

        "แม้กระทั่งในเวลานี้ความห่างของ ญี่ปุ่น กับทีมชาติไทย ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม แต่ผมยังเชื่อว่าจะเป็นการวัดมาตรฐานของทีมเรา ว่าจะอยู่ในขั้นไหนกับพวกเขาหลังจากไม่เจอกันมานาน ซึ่งผมมั่นใจว่าฟุตบอลสมัยใหม่ ไม่น่าจะห่างกันมากแน่นอน"

 "กัปตันอุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน : "ทีมเวิร์คเท่านั้นที่เราจะใช้ต่อกร"

        เด็กหนุ่มจาก จ.นนทบุรี ผู้มีพรสวรรค์ ที่บนฟากฟ้าประทานเท้าซ้ายอันฉมังมาให้กับเจ้าตัว แม้ว่าลีลาการเล่นในสนามของ ธีราทร บุญมาทัน สมัยเด็กจะถูกมองว่าเขาเป็นแบ็กซ้ายที่ดุดัน จนได้รับใบเหลืองและแดงอยู่บ่อยครั้ง จากการลงสนามที่เต็มไปด้วยอารมณ์ร้อน

        ทว่าด้วยพรสวรรค์ที่มีอยู่ในตัวเอง และไม่เคยคิดว่าเก่งเกินอายุ แถมยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาก้าวขึ้นมาติดทีมชาติไทย ระดับเยาวชนทุกชุด และช็อตที่ตราตรึงให้กับแฟนบอลสยามประเทศก็คือ ตอนอยู่กับ บุรีรัมย์ฯ ที่เขายิง 2 ประตูใส่ กัมบะ โอซาก้า ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2015 นัดแรกเกิดขึ้นวันที่ 18 มี.ค.2015 บุกไปเสมอ 1-1 และกลับมาเล่นในรังแพ้ 1-2 วันที่ 7 มิ.ย.2015 ก่อนพาทีมคว้า 20 แชมป์ใน 6 ปีครึ่ง

        ก่อนจะย้ายมาเล่นให้กับ เอสซีจี เมืองทองฯ เพื่อไล่ล่า 3 แชมป์ในปีนี้ อย่างไรก็ตามกับบทบาททีมชาติไทยนั้น เจ้าตัวได้รับเกียรติอย่างสูงในชีวิตการค้าแข้ง เมื่อ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย เลือกให้เป็นกัปตันทีม "ช้างศึก" ชุดใหญ่ ก่อนจะพาทีมทะลุมาถึงรอบ 12 ทีมสุดท้าย เวิลด์ คัพ 2018 ควอลิฟายด์ เอเชีย ด้วยการเป็นแชมป์ กลุ่ม เอฟ

        อีกทั้งดาวเตะรายนี้เคยได้รับความสนใจจากทีมในเจ ลีก มากมาย ที่ต้องการซ้ายธรรมชาติของเขาไปเสริมทีม และเขาเองก็ชื่นชอบในวงการลูกหนังของแดนปลาดิบมานานนม ก่อนที่จะมาเจอกับทัพ "ซามูไร บลูส์" โดยเจ้าตัวได้เปิดใจในเรื่องดังกล่าวว่า

        "ผมเองก็ติดตาม เจ ลีก มาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะผมสนใจฟอร์มการเล่นของ ยามางูชิ โฮจาตุ กองกลางเชิงรับจาก เซเรโซ่ โอซาก้า ซึ่งมีการเล่นที่คล้ายคลึงกับ มาโคโตะ ฮาเซเบะ นั่นคือ การเคลื่อนที่และตัดเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

        "อย่างไรก็ตามผมเองยังเคยเจอ ทาคาชิ อูซามิ ในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยเล่นกับ กัมบะ โอซาก้า ซึ่งเขาเป็นนักเตะที่เก่งเช่นกัน โดยมาตรฐานของญี่ปุ่นเหนือกว่าเราอยู่แล้ว เพราะเขาเล่นอยู่ในเวทียุโรปหลายคน แต่ทีมชาติไทยจะใช้ทีมเวิร์ค การออกบอลสั้นที่รวดเร็ว ในการต่อกรกับพวกเขา"