ทีมชาติไทย อาจตกรอบ ในฟุตซอลชิงแชมป์โลกที่โคลอมเบีย จนพลาดสร้างประวัติศาสตร์ทะลุรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ในทัวร์นาเมนต์นี้ มีสิ่งดีๆเกิดขึ้นหลายอย่าง ที่ทีมไทยชุดนี้ได้ฝากเอาไว้ให้เด็กรุ่นหลัง เพจ Futsal Addict ได้รวบรวมเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับการผจญภัยของทีมช้างศึกที่เมเดยินใน ครั้งนี้ โดยทางเรานำมาแตกประเด็น ให้แฟนๆชาวไทย ได้รู้ว่า มีอะไรบ้างที่เราควรภูมิใจกับทัวร์นาเมนต์นี้

1.ชนะ 2 เกมในรอบแรก ครั้งแรก ตั้งแต่ ไทยได้ไปเล่นฟุตซอลชิงแชมป์โลกครั้งแรกที่กัวเตมาลา เราไม่เคยชนะถึง 2 แมตช์ในรอบแรกมาก่อน ครั้งแรกที่กัวเตมาลา เราแพ้รวด 3 เกม  ครั้งต่อมา ไต้หวัน 2004 ไทยชนะหนึ่งแมตช์ แพ้สอง (ชนะออสเตรเลีย) จากนั้น ที่บราซิลปี 2008 ไทยชนะหนึ่งแมตช์ แพ้สามแมตช์ (ชนะสหรัฐ)  ส่วนครั้งที่แล้วที่ไทยเป็นเจ้าภาพเอง ไทยชนะหนึ่งแมตช์ แพ้สองแมตช์ (ชนะคอสตาริก้า) ดังนั้น การที่ไทยชนะได้ 2 นัดในฟุตซอลชิงแชมป์โลกครั้งนี้ (ชนะคิวบา , อียิปต์) เป็นการแสดงให้เห็นว่ามาตรฐานของเรา ดีขึ้นไปกว่าเดิมอีกหนึ่งขั้นแล้วจริงๆ

2.เข้ารอบแบบไม่ต้องเทียบคะแนนกับกลุ่มอื่นครั้งแรก ในฟุตซอลชิงแชมป์โลกคราวที่แล้ว เราจบด้วยการเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม A เข้ารอบมาด้วยการเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุด แต่คราวนี้ เราผ่านมาได้ด้วยการเป็นอันดับ 2 ไม่ต้องไปลุ้นลูกได้เสียกับอันดับ 3 กลุ่มอื่นให้วุ่นวายอีก

3. วิวัฒน์ ไทยเจริญ และ อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ยิงประตูในฟุตซอลโลกได้เป็นครั้งแรก อภิ วัฒน์ แจ่มเจริญ เคยเล่นฟุตซอลชิงแชมป์โลกในปี 2012 มาแล้วแต่ครั้งนั้น เขายิงประตูไม่ได้  มาในฟุตซอลโลกครั้งนี้ เขามีชื่อบนสกอร์บอร์ดได้สำเร็จ เช่นเดียวกับวิวัฒน์ ไทยเจริญ การเล่นฟุตซอลโลกครั้งแรกของเขา สามารถมีชื่อเป็นคนยิงประตูได้ทันที

4. ศุภวุฒิ เถื่อนกลางทำแฮตทริคแรกของไทย ทีมชาติไทยในอดีต ไม่เคยมีใครยิงแฮตทริกได้ในฟุตซอลชิงแชมป์โลกมาก่อน แต่ศุภวุฒิทำได้ ในเกมชนะคิวบา 8-5

5. กฤษดา วงษ์แก้ว ก็ทำแฮตทริกได้ พอมีคนยิงแฮตทริกได้  เรา ก็มีคนซัดแฮตทริกคนที่สองทันที ในเกมล่าสุดกับอาเซอร์ไบจานนี่เอง โดย "กัปตันช้าง" กฤษฎา วงษ์แก้ว ยิงแฮตทริกได้สำเร็จ และหนึ่งในนั้นคือลูกโหม่ง ที่ไม่ค่อยเกิดกันบ่อยๆ บนเวทีฟุตซอลเสียด้วย

6. จิราวัฒน์  ยิงประตูทุกนัดในการลงสนาม จิ ราวัฒน์ สอนวิเชียร สวมหัวใจสิงห์ ลงเล่นทั้งๆที่สภาพจิตใจอ่อนล้าเต็มที่ แต่ในทัวร์นาเมนต์นี้เขาเล่นได้อย่างกร้าวแกร่ง และสามารถยิงประตูได้ทั้งทัวร์นาเมนต์ ในเกมกับ รัสเซีย ,คิวบา,อียิปต์ และอาเซอร์ไบจาน

7. ไทยยิงประตูได้ 22 ลูกในฟุตซอลโลกเป็นครั้งแรก ในอดีต ไทยเป็นเหมือนสมันให้ชาติใหญ่ๆอื่นยำ โดยเฉพาะในฟุตซอล 2-3 ครั้งแรก ขณะที่โอกาสเจาะประตูคู่แข่งก็ทำแทบไม่ได้เลย กัวเตมาลา 2000 เรายิงได้ทั้งรายการแค่ 2 ลูก , ปี 2004 ยิงได้ 5 ลูก ,ปี 2008 ยิงได้ 7 ลูก ,ปี 2012 ยิงได้ 9 ลูก ส่วนปี 2016 เราลง 4 นัดยิงได้ถึง 22 ประตู ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่แตะหลักสิบ

8. ไทย ไม่แพ้ ทีมจาก ยุโรป คืออาเซอร์ไบจาน ครั้งแรกไทยอาจจะแพ้ในการต่อเวลาพิเศษ แต่เราไม่แพ้พวกเขาในเวลาปกติ ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ตั้งแต่แข่งฟุตซอลชิงแชมป์โลกที่เราเจอกับทีมยุโรปแล้วไม่แพ้ในเวลา เราเคย เจอกับฮอลแลนด์ ,เช็ก ,อิตาลี ,ยูเครน ,สเปน ,รัสเซีย และแพ้มาเรียบทั้งหมดแต่คราวนี้ เราไม่แพ้อาเซอร์ไบจานในเวลาปกติ

9. พัฒนาการที่ก้าวกระโดดชัดเจน ย้อน กลับไปในฟุตซอลโลกครั้งแรกที่ไทยเข้าร่วมคือกัวเตมาลาปี 2000 ไทยเคยเจอกับอียิปต์ในรอบแบ่งกลุ่ม ปรากฎว่า เราแพ้พวกเขา 7-0 แต่ 16 ปีต่อมา เราโคจรมาเจออียิปต์อีกครั้ง แต่คราวนี้เราชนะ 2-1 มันแสดงให้เห็นว่า 16 ปีที่ผ่านมา ไทยไม่ได้อยู่นิ่งๆ แต่เรามีพัฒนาการ และเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดมากๆ

10. อนาคตของฟุตซอลกำลังถูกถ่ายทอด ไทย มีการผลัดเปลี่ยน เจเนเรชั่นของนักเตะอยู่เสมอ จากยุคของพัทยา เปี่ยมคุ้ม , อนุชา มั่นเจริญ , ภาณุวัฒน์ จันทา , สองพี่น้องสุรัตน์สว่าง มาจนยุคของ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ในวันหนึ่งก็ต้องโรยราลงไป แต่ไทยก็ยังมีนักเตะหน้าใหม่ ก้าวขึ้นมาติดทีมชาติอยู่เรื่อยๆ ในฟุตซอลโลกครั้งนี้ พรมงคล ศรีทรัพย์แสง, คฑาวุธ หาญคำภา, วิวัฒน์ ไทยเจริญ, ไตรรงค์ เพชรเทียม, เฉลิมศรี พ่วงศรี และ คณิศร พู่พันธ์ ติดทีมชาติลุยฟุตซอลโลกครั้งแรก และก็มั่นใจได้ว่า พวกเขาจะเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยในอนาคตได้อย่างแน่นอน