ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

 วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2559

 อาร์เซน่อล  0-0 มิดเดิ้ลสโบรช์

 สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

         ปืนใหญ่ฟอร์มแรง ชนะ 7 นัดติดทุกรายการ และยิงได้ 23 ประตู ล่าสุดถล่มลูโดโกเรตส์ ราซกราด 6-0 ในถ้วยยุโรป อาร์แซน เวนเกอร์ ฉลองวันเกิดครบ 67 ปี นัดนี้ปรับแดนกลาง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ กับฟร็องซิส โกเกอแล็ง ได้เป็นตัวจริง ส่วนทีมเยือนไม่ชนะในลีก 6 นัดหลัง คัลลั่ม แชมเบอร์ส หมดสิทธิ์เล่นเนื่องจากยืมตัวมาจากอาร์เซน่อล

         เจ้าถิ่นเปิดฉากครองบุกใส่ตามสไตล์ถนัด อเล้กซิส ซานเชซ เรียกฟาวล์จากแดเนียล อยาล่า ในนาทีที่ 7 แต่ฟรีคิกเหนือเส้นเขตโทษของเมซุต โอซิล เหินข้ามคานออกไป

         จากนั้นนาทีที่ 10 บอลเปิดจากเส้นหลังของธีโอ วัลค็อตต์ ถูกสกัดออกมาตั้งให้ เอลเนนี่ ซัดนอกเขต แต่ยังไม่เข้ากรอบ

         11 คนของโบโร่ ตั้งรับในแดนตัวเอง ทำให้เจ้าถิ่นต้องใช้ความอดทนในการเจาะ นาทีที่ 16 โอซิล โดนแซะล้มลงในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินทำมือให้เล่นต่อ

         อาร์เซน่อล บุกเพลินๆ เกือบเสียประตูในนาทีที่ 20 เมื่อโลร็องต์ กอสซิแอลนี่ โดนอดามา ตราโอเร่ ฉกบอลหลุดเดี่ยว ก่อนยิงติดเซฟของปีเตอร์ เช็ก และจังหวะซ้ำ เช็กยังตามมาป้องกันได้จากอัลวาโร่ เนเกรโด้

         จากจังหวะต่อเนื่อง โบโร่ มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย และเป็นแกสตอน รามิเรซ ซัดไปชนสามเหลี่ยม ทีมเยือนพลาดโอกาสขึ้นนำอีกครั้ง

         อาร์เซน่อล เป๋ไปเหมือนกัน แต่นาทีที่ 23 อเล็กซิส ซานเชซ ได้ยิงฟรีคิกบ้าง แต่ไม่ผ่านมือของบิคตอร์ บัลเดส

         นาทีที่ 27 เอคตอร์ เบเยริน โดนรามิเรซ กระชากผ่านจนต้องหยุดด้วยการฟาวล์ และจากฟรีคิกทางฝั่งซ้าย รามิเรซ เปิดเข้าหัวเนเกรโด้ แต่เบเยริน ยังแก้ตัวเคลียร์ออกมา

         เกมของโบโร่ ค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ อาร์เซน่อล ต้องอาศัยลูกเซตพีซในการกดดันแนวรับของทีมเยือน แต่ก็ยังไม่ได้ผลนัก

         นาทีที่ 33 ปีเตอร์ เช็ก ต้องงัดซูเปอร์เซฟมาช่วยทีมอีกครั้ง ตราโอเร่ ครอสบอลจากซ้ายให้เนเกรโด้ โหม่งแฉลบหลังกอสซิแอลนี่ เลยไปถึงเสาสอง รามิเรซ สอดขึ้นมาโขกเต็มหัว แต่ยังไม่ผ่านมือของนายทวารจอมเก๋า

         สถานการณ์ของปืนใหญ่ดูท่าไม่ดี ชโคดราน มุสตาฟี่ เจ็บข้อเท้าในจังหวะขึ้นกระโดด แต่เจ้าตัวยังกัดฟันเล่นต่อไหว

         ท้ายครึ่งแรก อาร์เซน่อล กลับมานวดอีกครั้ง แต่ก็ยังเจาะไม่ถึงพื้นที่ชั้นใน และบัลเดส แทบไม่ต้องเซฟอะไร จบ 45 นาที สกอร์ยังเสมอ 0-0

         ครึ่งหลังเริ่มมาไม่ถึง 3 นาที บิคตอร์ บัลเดส เกือบเสียท่า เมื่อออกมาตัดบอลพลาด อเล็กซิส พยายามกระดกมาหน้าประตู แต่บอลโด่งเลยหัวกอสซิแอลนี่

         นาทีที่ 52 อาร์เซน่อล ได้ลุ้นอีกจากฟรีคิกของโอซิล แต่ลูกยิงก็ยังเลี้ยวหลุดทางเสาแรก ไม่ตรงกรอบอยู่ดี

         เจ้าถิ่นเดินเกมบุกเหมือนช่วงออกสตาร์ตในครึ่งแรก และเกือบทำสำเร็จในนาทีที่ 54 อเล้กซิส รับบอลจากเอลเนนี่ หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนซัดด้วยอีขวา บอลติดไซด์ก้อย แต่บัลเดส พุ่งสุดตัวปัดทิ้งได้หวุดหวิด

         นาทีที่ 57 โบโร่ ได้สวน อันโตนิโอ บาร์รากัน เติมขึ้นมาจากแบ็กขวา ก่อนได้เปิดโล่งๆ มาหน้าประตู แต่เบเยริน ยังตามหุบมาสกัดไว้ได้

         จากนั้นอีกสองนาที อดามา ตราโอเร่ ควบบอลจากแดนตัวเอง กระชากขึ้นทางขวา ก่อนซัดไปติดเซฟของปีเตอร์ เช็ก
 ทีมเยือนไม่ได้ตั้งรับอย่างเดียว แต่รอจังหวะสวนกลับเร็ว ทำให้กองหลังอาร์เซน่อล ต้องระวังในการดันสูง ขณะที่ข้างสนามของเจ้าถิ่นก็ต้องมีการขยับ

         นาที 65 มุสตาฟี่ เปิดบอลพลาดไปเข้าเท้าแกสตอน ก่อนต้องยอมทำฟาวล์เสียใบเหลืองคนแรกของเกม ก่อนกองหน้าโบโร่ หลุดเข้าเขตโทษ

         ปืนใหญ่ก้มหน้าลุยใหม่อีกครั้ง วัลค็อตต์ แทงบอลให้อเล้กซิส ตัดหลังอยาล่า ก่อนยิงมุมแคบ แต่ไม่ผ่านบัลเดส
 ลูกัส เปเรซ ถูกส่งลงเสริมแนวรุกแทนอเล็กซ์ อิโวบี้ เช่นเดียวกับอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ลงเล่นแทนเอลเนนี่ ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย

         อาร์เซน่อล ทั้งบดทั้งนวดอยู่หน้าเขตโทษโบโร่ แต่ไม่สามารถหาโอกาสจบสกอร์เพื่อลุ้นประตู

         นาที 82 วัลค็อตต์ ทำชิ่งกับลูกัส เปเรซ แต่จังหวะยิงไม่ถน้ดนัก บัลเดส ป้องกันได้ตามเคย

         เวลายิ่งเหลือน้อย อาร์เซน่อล ยิ่งกดดัน แถมยังโดนสวนจนเกือบเสียประตูในนาทีที่ 89 ตราโอเร่ ไหลบอลให้เนเกรโด้ หลุดทางซ้าย แต่กองหน้าสเปน ไม่ตัดสินใจยิง  พยายามล็อก เลยถูกกอสซิแอลนี่ ตามมาสไลด์สกัดได้

         ช่วงทดเจ็บ 5 นาที เจ้าถิ่นแม้ครองบอลเกือบข้างเดียว แต่ก็เจาะกองหลังโบโร่ ไม่เข้า แชมเบอร์เลน ส่งบอลเข้าประตู แต่ถูกยกธงล้ำหน้า จบเกมเสมอกัน 0-0 อาร์เซน่อล หยุดผลงานชนะรวด 7 นัดรวดอย่างน่าเสียดาย

 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

 อาร์เซน่อล : ปีเตอร์ เช็ก, เอคตอร์ เบเยริน, ชโคดราน มุสตาฟี่, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, นาโช่ มอนเรอัล, ฟร็องซิส โกเกอแล็ง, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, ธีโอ วัลค็อตต์, เมซุต โอซิล, อเล็กซ์ อิโวบี้, อเล็กซิส ซานเชซ

 ตัวสำรอง : คีแรน กิ๊บบ์ส, กาเบรียล เปาลิสต้า, ลูกัส เปเรซ, ดาวิด ออสปิน่า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, เจฟฟ์ ไรเน่-อเดเลด, เอนสลี่ย์ มาติแลนด์-ไนลส์

 มิดเดิ้ลสโบรช์ : บิคตอร์ บัลเดส, อันโตนิโอ บาร์รากัน, แดเนียล อยาล่า, เบน กิบสัน, จอร์จ เฟรนด์, มาร์เทน เด รูน, อดัม ฟอร์ชอว์, อดามา ตราโอเร่, อดัม เคลย์ตัน, อัลวาโร่ เนเกรโด้, แกสตอน รามิเรซ

 ตัวสำรอง : ฟาบิโอ ดา ซิลวา, เบร์นาร์โด้ เอสปิโนซ่า, แบรด กูซาน, คริสเตียน สตูอานี่, สจวร์ต ดาวนิ่ง, จูเลี่ยน เด ซาร์ท, เดวิด นูเจนท์