ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » "ข้าพระพุทธเจ้าขอใช้ฟุตบอลตอบแทนแผ่นดิน" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

"ข้าพระพุทธเจ้าขอใช้ฟุตบอลตอบแทนแผ่นดิน" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

Posted 25/10/2016 by siamsport

ถือเป็นอีกหนึ่งบุคลากรในวงการกีฬา ที่ทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอย่างมาก สำหรับผู้ชายที่ชื่อ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งในปัจจุบันรับหน้าที่เป็นกุนซือใหญ่ให้กับทีมชาติไทย แต่เขาโด่งดังมาตั้งแต่สมัยที่ยังค้าแข้งให้กับสโมสรและทัพ "ช้างศึก" ในฐานะกัปตันทีม

ด้วยการที่พ่อ-แม่รับราชการ ทำให้เขาคิดว่าวันหนึ่งจะต้องเป็นอย่างทั้งสองให้ได้ เนื่องจากอยากจะตอบแทนคุณแผ่นดิน เมื่อครั้งวัยเด็กสมัยยังอยู่ใน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้เห็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร

 "ผมยังจำชีวิตในวัยเด็กได้ดี เพราะผมได้เห็นโครงการในพระราชดำริของพระองค์ อย่าง เขื่อนอุบลรัตน์ ที่ได้สร้างไว้กักเก็บน้ำยามแห้งแล้ง ทำให้ผมได้เห็นสายน้ำที่ไหลผ่านข้างบ้านอยู่ตลอดเวลา ผมจึงคิดว่าต้องทำทุกวิถีทางที่จะเป็นข้าราชการเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินให้ได้ ก่อนที่จะได้มาเป็นนักเตะทีมชาติไทย จึงตั้งปณิธาณกับตัวเองอยู่เสมอว่า จะใช้ฟุตบอลตอบแทนคุณแผ่นดินจากนั้นเป็นต้นมา"

 หากจะให้เอ่ยถึงความสำเร็จของ "ซิโก้" บนถนนลูกหนังนั้น เขาเองมีส่วนกับถ้วยใหญ่ของราชาอย่าง คิงส์ คัพ ซึ่งเป็นครั้งที่ 25 ช่วงที่เขาเล่นให้กับทีมชาติไทย ชุดบี ระหว่างวันที่ 12-22 ก.พ. 2537 โดยชุดนั้นนอกจากจะมีเจ้าตัวลงบู๊แล้ว ยังมีอีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น วัชรพงศ์ สมจิตร, สราวุธ คำบัว, สุพล เสนาเพ็ง, โกวิทย์ ฝอยทอง, ไวพจน์ มือชัยภูมิ, พัฒธนพงศ์ ศรีปราโมช, โชคทวี พรหมรัตน์, ธชตวัน ศรีปาน, ดุสิต เฉลิมแสน, ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล, รุ่งเพชร เจริญวงศ์, โกสินทร์ ดีมาก, สมาน ดีสันเที๊ยะ, สุชิน พันธ์ประภาส, สรพรรณ ตุ่นต้น, ธนากรณ์ กิตติธรรม และ ศิริศักดิ์ ขะเดหรี (กัปตันทีม) ภายใต้การกุมบังเหียนของ "น้าชัช" ชัชชัย พหลแพทย์

 ซึ่งชุดนั้นสามารถคว้าแชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ และถือเป็นชุด บี ทีมแรกที่ทำได้อีกด้วย โดยมีผลงาน รอบแรก 12 ก.พ. ชนะ จีน 2-1, 14 ก.พ. ชนะ รวมดาราเจลีก 1-0, 16 ก.พ. แพ้ ทีมแคว้นเวสต์ฟาเล่น จากเยอรมัน 0-1, รอบรองชนะเลิศ  19 ก.พ. ชนะ โรเตอร์ จากรัสเซีย 1-0 รอบชิงชนะเลิศ 21 ก.พ. ชนะ ทีมแคว้นเวสต์ฟาเล่น 4-0 จนทำให้หลายคนก้าวขึ้นมาสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในเวลาต่อมาอย่างยิ่งใหญ่

 จากนั้น "ซิโก้" ยังคว้าแชมป์ คิงส์ คัพ หนที่สองในฐานะนักเตะเมื่อปี พ.ศ. 2543 ซึ่งเป็นครั้งที่ 31 ร่วมกับ วิรัช วังจันทร์, ณรงค์ชัย วิเศษศรี, นเรศ สุขงาม, พัฒธนพงศ์ ศรีปราโมช, โกวิทย์ ฝอยทอง, ทนงศักดิ์ ประจักกะตา, อนุรักษ์ ศรีเกิด, นที ทองสุขแก้ว, เทิดศักดิ์ ใจมั่น, ชูเกียรติ หนูสลุง, นิรุจน์ สุระเสียง, จตุพงษ์ ทองสุข, ธชตวัน ศรีปาน, ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล, ธงชัย อัครพงศ์, อนนท์ บุญสุโข, ดุสิต เฉลิมแสน, พิพัฒน์ ต้นกันยา, เศกสรรค์ ปิตุรัตน์, ขวัญชัย เฟื่องประกอบ, สุธี สุขสมกิจ, ธนัญชัย บริบาล, และโชคทวี พรหมรัตน์ โดยมี ปีเตอร์ วิธ นายใหญ่ชาวอังกฤษ เป็นกุนซือ

ปรากฏว่า ในปีนั้น "ซิโก้" ที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมสามารถพาทีมชาติไทยเถลิงบัลลังก์แชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ และได้ขึ้นรับถ้วยพระราชทานจากผู้แทนพระองค์ สร้างความตื้นตันใจให้กับเจ้าตัวอย่างมากทีเดียว อีกทั้งในครั้งดังกล่าว บราซิล มหาอำนาจลูกหนังโลก ยังขนนักเตะทีมชาติ ชุดใหญ่ มาเล่นถึงเมืองไทย นำโดย ริวัลโด้ เพลย์เมกเกอร์ตัวกลั่นของทีม

 

  ล่าสุดในปี 2559 "ซิโก้" ยังพาทีมชาติไทย คว้าแชมป์ คิงส์ คัพ ครั้งที่ 44 ได้เป็นหนแรกในรอบ 9 ปี โดยเจ้าตัวได้เปิดใจในฐานะที่คว้าโทรฟี่ดังกล่าวทั้งการเป็นผู้เล่นและกุนซือว่า "ผมจำความรู้สึกสมัยที่เป็นผู้เล่นมาใช้กับน้องๆ นักฟุตบอลในคิงส์ คัพ เมื่อกลางปีที่ผ่านมา"

 "ผมบอกกับน้องๆ ว่า การได้แชมป์นี้เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งทุกคนสามารถรวมใจจนสามารถคว้าถ้วยมาถวายให้กับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ได้ในที่สุด"

นอกจากนี้ เจ้าตัวยังเคยมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ช่วงที่ทีมชาติไทยจะลงเล่นในเอเชียนเกมส์ ปี พ.ศ. 2541 และในช่วงที่พักครึ่งแรกของรอบชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 หลังจากทีมชาติไทย ตกเป็นฝ่ายตามหลังมาเลเซีย 0-3 ก่อนพลิกกลับมาชนะด้วยสกอร์รวม 4-3 คว้าแชมป์ในรอบ 12 ปีอย่างยิ่งใหญ่

"ก่อนที่เราจะลงเล่นในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ทีมชาติไทย และกีฬาชนิดอื่นๆ ได้รับโอกาสสูงสุด ด้วยการเข้าเฝ้าฯ ในหลวง รัชกาลที่ 9 พระองค์ตรัสว่า ขอให้เล่นอย่างมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เพราะเราเป็นตัวแทนของชาติ เป็นตัวแทนไปเชื่อมความสัมพันธ์กับนานาประเทศ ผมจำได้ดีว่าทุกคนต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณในวันนั้นอย่างมาก รวมทั้งยิ่งใหญ่กว่าการได้รับเหรียญรางวัลใดๆ ในชีวิต"

 "อีกทั้งเรื่องที่ผมยังจำได้เสมอว่าพระองค์ทรงติดตามผลงานของนักกีฬาไทย ก็ช่วงพักครึ่งแรกของเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 หลังจากทีมชาติไทย ตามหลังมาเลเซีย 0-3 รองราชเลขาฯ ได้พยายามติดต่อมาทางโทรศัพท์ของผม แต่ผมเป็นคนที่เวลาทำงานแล้วจะไม่พกโทรศัพท์ลงไปข้างสนาม"

 "จากนั้นรองราชเลขาฯ ได้ส่งข้อความมายังพี่เษม (เกษม จริยวัฒน์วงศ์) ผจก.ทีม ว่า ขอให้อย่ายอมแพ้ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทอดพระเนตรการแข่งขันอยู่ และทรงฝากกำลังใจมาให้ ทำให้ผมขนลุกอย่างมาก ก่อนที่จะบอกนักเตะในทีมให้ลงกลับไปสู้ จนเราสามารถคว้าแชมป์มาได้ในค่ำคืนนั้น จึงเป็นเหตุผลว่า พระองค์ทรงติดตามผลงานของนักกีฬาไทยอย่างใกล้ชิดทุกๆ ชนิดกีฬา"

ชีวิตนอกสนามของชายที่ชื่อ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยังได้มีโอกาสตอบแทนแผ่นดินไทย หลังจากลูกสาว 3 ใบเถาตระกูล "เสนาเมือง" ไม่ว่าจะเป็น "น้องเพิร์ธ-กฤตยา'', "น้องพราวด์-อธิชา" และ "น้องเพิร์ล-มุกตาภา" ได้เข้าไปเรียนที่โรงเรียนจิตรลดา ซึ่ง "ซิโก้" เล่าให้ฟังว่า

 "ย้อนกลับไปเมื่อ 11 ปีก่อน หลังจาก น้องเพิร์ธ (กฤตยา เสนาเมือง) ได้เข้าไปเรียนที่โรงเรียนจิตรลดา ก่อนที่น้องๆ ทั้ง 2 คน ทั้ง น้องพราวด์ (อธิชา เสนาเมือง) กับ น้องเพิร์ล (มุกตาภา เสนาเมือง) จะตามเข้าไป ผมได้มีโอกาสไปรับส่งลูกๆ ทั้งสามคนที่โรงเรียนอยู่เป็นประจำ ทำให้ผมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้อยู่ใต้ร่มพระบารมีของในหลวง รัชกาลที่ 9 อย่างมาก"

"ผมจึงได้ถวายตัวเป็นอาจารย์พิเศษในโรงเรียนจิตรลดา ซึ่งเรื่องนี้ผมเองไม่เคยได้เปิดเผยที่ไหน โดยจะสอนกิจกรรมพิเศษ วิชาฟุตบอล ให้กับเด็กนักเรียนตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มานานกว่า 11 ปีแล้ว นอกจากนี้ ยังทำงานกับทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งต้องไปที่พระราชตําหนักภูพานทุกปี ทำให้ได้เห็นโครงการในพระราชดำริหลายอย่าง จนชีวิตนี้ผมคิดว่าอยากจะตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน ด้วยการใช้ฟุตบอลที่เป็นสิ่งที่เรารักมากที่สุด"

นี่คืออีก 1 บทชีวิตของผู้ชายที่อยากจะใช้ฟุตบอลเพื่อตอบแทนคุณของแผ่นดิน อีกทั้ง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยังสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง รัชกาลที่ 9 อย่างมาก ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาของเขา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • OFFICIAL : สุโขทัยต่อสัญญา "บีรัม" พร้อมคว้า2แข้งไทย
    สาวกค้างคาวไฟเฮถ้วนหน้าเมื่อทีมต่อสัญญากับดาวยิงตัวเก่งเป็นที่เรียบร้อยพร้อมคว้า 2 แข้งหน้าใหม่มาร่วมทัพสุโขทัย เอฟซี ทีมในศึกโตโยต้า ไทยลีก ประกาศต่อสัญญา ดิยุฟ บีรัม กองหน้าตัวเก่งออกไปอีก 1 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยืนยันไม่ได้มีมูลค่าสูงตามที่ตกเป็นข่าวก่อนหน้านี้แต่อย่างใด
  • เดอะพาวเวอร์ปล่อย3แข้งดาวรุ่งให้ปราสาท
    กิรวิศว์ พิทยภูวนันท์ ว่าที่ประธานสโมสรคนใหม่ของ''เดอะพาวเวอร์ ''สมุทรสาคร ซิตี้ พาวเวอร์ เผยว่า ทางเจ้าของสิทธิ์เก่าทีมซูเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ เอฟซี ได้ขายนักเตะดาวรุ่งทั้ง 3 รายของทีม ประกอบด้วย ศุภชัย ใจเด็ด, อดิศักดิ์ นารัตน์โท และ จักรพงษ์ สืบสมุทร ไปให้ ''ปราสาทสายฟ้า''บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก่อนหน้าที่ตนจะมาเทคโอเวอร์ทีม คาดว่าจะมีการเปิดตัวกับต้นสังกัดใหม่ ในเร็ววันนี้
  • โค้ชยงรับยังไม่ชัวร์คุมทัพช้างศึกยู-16ไทย
    "โค้ชยง" ชัยยง ขำเปี่ยม เฮดโค้ชช้างศึกทีมชาติไทยยู-16 รับยังไม่ชัวร์อนาคตตัวเองว่าจะได้คุมต่อหรือไม่ในปีหน้า พร้อมรอสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นคนตัดสินใจ หากเห็นว่าไม่เหมาะสมก็พร้อมที่จะเปิดทางให้คนที่มีความสามารถเข้ามาคุมทีมแทน
  • ซิโก้เผยยังไม่การันตีแข้งชุดซูซูกิคัพรอจบแมตช์ออสซี่
    "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ของทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ยังไม่การันตีผู้เล่นที่ประกาศรายชื่อออกไปลุยศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 เนื่องจากช่วงเวลาที่เหลืออาจจะมีใครเจ็บหรือไม่พร้อม จากเกมที่ยังมีคัดเลือกฟุตบอลโลกกับออสเตรเลียรออยู่ แต่ไม่กังวลเนื่องจากส่งรายชื่อขึ้นทะเบียนไว้แล้วทั้งหมด 40 คนพร้อมที่จะดึงเข้ามาทดแทนได้ตลอด

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »