"ปีศาจแดงแห่งยุโรป" เบลเยี่ยม ไล่ถล่มโหด เอสโตเนีย ไม่ยั้ง 8-1 พร้อมรักษาสถิติเพอร์เฟคต์สตาร์ต ด้วยการมี 12 คะแนนจาก 4 เกมแรกของรอบคัดเลือก ในศึกฟุตบอลโลก 2018 (รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอช) เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลโลก 2018
(รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอช)
วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2559
เบลเยี่ยม 8  -  1 เอสโตเนีย

สนาม : สต๊าด คิง โบดวง, (บรัสเซลส์)

        "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ออกสตาร์ตในระบบกองหลัง 3 ตัว นำมาโดย แยน แฟร์ต็องเก้น แดนหน้าแนวรุกมาเต็มทั้ง เอแด็น อาซาร์, โรเมลู ลูกากู และดรีส เมอร์เทนส์ ฝั่ง เอสโตเนีย วาง รักนาร์ คลาวาน กองหลังจากสโมสรลิเวอร์พูลคุมเกมรับ โดยที่แดนหน้าฝากความหวังไว้ที่  เฮนรี่ อาเนียร์

        ออกสตาร์ตไปได้เพียง 8 นาที เบลเยียม ออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ยานนิค การ์ราสโก้ พาบอลกระชากขึ้นทางฝั่งซ้าย จี้เข้าเขตโทษ จากนั้นเปิดเข้าไปทางฝั่งขวาของเขตโทษ โธมัส เมอนิเยร์สอดมาจากแถวสองได้โขกจ่อๆยัดเสาแรกเข้าประตูไป

        หลังจากนั้นนาทีที่ 13 เจ้าบ้านเกือบจะได้ประตูที่สอง จากจังหวะจ่ายบอลตามช่องให้ โรเมลู ลูกากู หลุดเข้าไปทางซ้ายของเขตโทษ ใช้ความแข็งแกร่งบังบอล แล้วพลิกไปยิงด้วยขวา แต่บอลพุ่งเรียดไปชนโคนเสาสอง ไม่เป็นประตู

        อีก 3 นาทีให้หลัง เบลเยียมมาได้ประตู 2-0 จังหวะฟรีคิกด้านซ้ายนอกเขตโทษ เควิน เดอ บรอยน์ เล่นสูตรสั้นๆมาหน้าเขตโทษให้ ดรีส เมอร์เทนส์ ซัดด้วยขวาเต็มข้อจากบริเวณเส้นเขตโทษ บอลแฉลบขา คลาวาน ลอยข้ามตัว อัคซาลู เข้าประตูไป

        ผ่านมาถึงสนาทีที่ 25 สกอร์ไหลไป 3-0 ดรีส เมอร์เทนส์ จ่ายบอลอ้อมกองหลังให้ เอแด็น อาซาร์ สอดไปรับทางขวาของเขตโทษ กองหลังเอสโตเนียพยายามล้มตัวสกัดแต่ไม่ดี อาซาร์ยังเก็บบอลได้ แล้วซัดด้วยขวาแสกหน้า อัคซาลูเข้าประตูไป

        นาทีที่ 30 เอสโตเนีย ตีไข่แตกเป็น 3-1 โตโฮ เตนิสเต้ แย่งบอลมาจาก การ์ราสโก้ได้ทางฝั่งขวา แล้วจ่ายเร็วเข้าไปทางขวาของเขตโทษให้ เฮนรี่ อาเนียร์ พลิกยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งผ่านมือ กูร์กตัวส์ เสียบโคนเสาสองเข้าประตูไป ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

        มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้ 10 นาที เอสโตเนีย ได้โอกาสก่อน เมื่อ เซอร์เก มอสนิคอฟ จ่ายให้กับ คอนสแตนติน วาสซิลเยฟ ตะบันด้วยขวาจากระยะร่วม 35 หลา ทว่า ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารเบลเยี่ยม รับไว้ได้

        กระเถิบมานาทีที่ 62 เบลเยี่ยม มาได้ประตูนำห่าง 4-1 จากการต่อบอลในแดนตัวเองร่วม 7-8 จังหวะ ก่อนที่ โธมัส เมอนิเย่ร์ เปิดจากกราบขวาเข้าในให้ ดรีส เมอร์เท่นส์ จ่ายขึ้นหน้าเข้ากรอบเขตโทษด้านขวามาถึง โรเมลู ลูกากู จ่ายหักข้อเข้าไปกลางกรอบเขตโทษให้ ยันนิก แฟร์เรยร่า การ์ราสโก้ วิ่งมาแปด้วยขวาเข้าประตูไป

        ถัดมาสองนาที ปีศาจแดงแห่งยุโรป ทิ้งขาด 5-1 เมื่อ ดรีส เมอร์เท่นส์ ทำชิ่งกับ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายขึ้นหน้าให้กับ ดรีส เมอร์เท่นส์ ซัดด้วยขวาบอลแฉลบขาของรักนาร์ คลาวาน กัปตันทีมเอสโตเนีย เข้าประตูตัวเองไป

        จากนั้นนาทีที่ 68 เจ้าบ้านมาได้ประตูครบครึ่งโหล เมื่อ ดรีส เมอร์เท่นส์ จ่ายให้กับ ลูกากู หลุดเข้าไปทางกรอบเขตโทษด้านขวาล็อคแล้วยิงด้วยซ้ายติดขาของ มินห์เคล อัคซาลู นายทวารเอสโตเนีย ก่อนที่กองหลังทีมเยือนช่วยโขกทิ้งออกมา แต่ไม่พ้นอันตรายเข้าทางของ ดรีส เมอร์เท่นส์ โชว์ความเหนือชั้นชิปด้วยขวาในกรอบเขตโทษด้านขวาบอลย้อยเสียบเสาไกลเข้าไปงามหยดช่วยให้ เบลเยี่ยม นำกระจุย 6-1 และเป็นประตูที่สองของเมอร์เท่นส์ ในเกมนี้

        ล่วงเลยมานาทีที่ 73 เบลเยี่ยม ต้องเปลี่ยน เอแด็น อาซาร์ กัปตันทีมคนเก่งที่มีอาการบาดเจ็บออกมาพักแล้วส่ง เควิน มิรัลลาส ลงมาเล่นแทน

        เบลเยี่ยม ยังไม่เพลาเกมรุก มาได้ประตูนำหายห่วง 7-1 จากจังหวะที่ โธมัส เมอนิเย่ร์ เปิดจากกราบขวา กองหลังเอสโตเนีย สกัดไม่ดีมาเข้าทางของ โรเมลู ลูกากู ตะบันด้วยซ้ายสวนเข้าไปทันทีบอลแฉลบ ไตโฮ เตนิสเต้ แบ็คขวาของทีมเยือนเข้าประตูไปในนาทีที่ 83 และเป็นประตูที่ 18 ของโรเมลู ลูกากู ในการเล่นให้กับทีมชาติเบลเยี่ยม แล้ว

        ท้ายเกมนาทีที่ 88 เบลเยี่ยม นำสุดกู่ 8-1 เมื่อ โรเมลู ลูกากู หลุดเข้าไปทางกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนยิงด้วยขวาสวนตัวของ มินห์เคล อัคซาลู เสียบเสาแรกเข้าไป

        เวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้แล้ว จบเกม เบลเยี่ยม เปิดรังต้อน เอสโตเนีย ไปสบายเท้า 8-1 พร้อมรักษาสถิติเพอร์เฟคต์สตาร์ต ด้วยการมี 12 คะแนนจาก 4 เกมแรกของรอบคัดเลือก นำจ่าฝูงกลุ่มต่อไป

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

        เบลเยี่ยม : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - เลอันเดอร์ เดนดอนซ์เคอร์, โลร็องต์ ซิม็อง, ยาน แฟร์ต็องเก้น - โธมัส เมอนิเย่ร์, อั๊กเซิล วิตเซล (ทิมมี่ ซิมงส์ น.85), เควิน เดอ บรอยน์, ยันนิก แฟร์เรยร่า การ์ราสโก้ - ดรีส เมอร์เท่นส์ (ยูริ ตีเลม็องส์ น.79), โรเมลู ลูกากู, เอแด็น อาซาร์ (เควิน มิรัลลาส น.73)

        เอสโตเนีย : มินห์เคล อัคซาลู - ไตโฮ เตนิสเต้, นิกิต้า บารานอฟ, รักนาร์ คลาวาน (กัปตันทีม), เคน คัลลาสเต้ - คาโรล เม็ตส์, อเล็กซานดาร์ ดิมิทรีเยฟ - ซิม ลุตส์ (พาเวล มาริน น.84), คอนสแตนติน วาสซิลเยฟ, เซอร์เก มอสนิคอฟ (เกิร์ต คัมส์ น.62) - เฮนรี่ อาเนียร์ (เฮนริค โอยาม่า น.85)

        ผู้ตัดสิน : อเล็กซานดรู ทูดอร์ (โรมาเนีย)