คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์แห่งเรอัล มาดริด และทีมชาติโปรตุเกส ได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะบัลลง ดอร์ 2016 ตามความคาดหมาย นับเป็นครั้งที่ 4 ที่เขาได้ครองรางวัลนี้จากผลงานเด่นในการนำทีมชาติโปรตุเกสคว้าแชมป์ยูโร 2016 เมื่อกลางปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้แชมป์ยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับเรอัล มาดริด ด้วย ส่วน ลีโอเนล เมสซี่ แชมป์บัลลง ดอร์ 5 สมัยแห่งบาร์เซโลน่าและทีมชาติอาร์เจนตินา กับ อ็องตวน กรีซมันน์ ของฝรั่งเศสและแอต. มาดริด ได้อันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ จากการเปิดเผยของนิตยสารฟร้องซ์ ฟุตบอล เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

นิตยสารฟร้องซ์ ฟุตบอล ของฝรั่งเศส ได้ประกาศผลรางวัลบัลลง ดอร์ 2016 หรือรางวัลบอลทองคำที่หมายถึงนักเตะยอดเยี่ยมของโลกผ่านทางสถานีโทรทัศน์ “เลกิ๊ป” สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ร่วมค่ายเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยการแจกรางวัลในปีนี้กลับมาอยู่ในมือของฟร้องซ์ ฟุตบอล เจ้าของรางวัลแต่ดั้งเดิมเพียงผู้เดียว ไม่ได้ร่วมแจกรางวัลกับฟีฟ่าเหมือน 6 ปีที่ผ่านมา กรรมการที่ร่วมลงคะแนนจึงเหลือเพียงผู้สื่อข่าวเฉพาะทางหรือสายฟุตบอลชาติละ 1 เสียง ซึ่งปีนี้มีสื่อที่ร่วมลงคะแนนทั้งสิ้นจาก 173 ประเทศทั่วโลก รวมถึงจากนสพ. สยามกีฬารายวันและสตาร์ ซอคเก้อร์ รายวัน ของไทย

สำหรับรางวัลบัลลง ดอร์ 2016 ตกเป็นของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตามความคาดหมายเนื่องจากกัปตันทีมชาติโปรตุเกส วัย 31 ได้ทั้งโทรฟี่แชมป์รายการใหญ่กับทีมชาติและทีมสโมสร อีกทั้งยังคงเล่นได้ตามมาตรฐานแม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง โดยกับทีมชาติโปรตุเกส คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ร่วมคว้าแชมป์ยูโร 2016 ด้วย ขณะที่กับเรอัล มาดริด ก็ร่วมนำทัพราชันชุดขาวเป็นจ้าวยุโรปสมัยที่ 11 ได้สำเร็จ นอกจากนั้นยังเป็นดาวซัลโวสูงสุดของศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก จากการยิงไปถึง 16 ประตูด้วย     

อดีตจอมสับขาแห่งแมนฯ ยูไนเต็ด เคยได้รางวัลนี้ครั้งแรกในปี 2008 ก่อนมาได้ครั้งที่ 2 และ 3 ในปี 2013 และ 2014 ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมารางวัลนี้เป็นเพียงเรื่องของเขากับ เลโอ เมสซี่ ดาวเตะจากนอกโลกแห่งบาร์ซ่าและทีมฟ้า-ขาวเท่านั้น

นอกจาก 2 โทรฟี่ใหญ่ที่ได้ในปีนี้ สถิติการพังประตูคู่แข่งของ CR7 ยังคงน่าทึ่งโดยในปีปฏิทิน 2016 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงสนามรวมทุกรายการ 55 นัด ทำประตูได้ 51 ประตู และแอสซิสต์ 17 ครั้ง ขณะที่สถิติของเมสซี่ดีกว่าด้วยซ้ำ (ลงสนาม 61 นัด ยิง 58 ประตู แอสซิสต์ 32 ครั้ง) แต่ถ้วยแชมป์ที่ได้ไปใหญ่สู้ไม่ได้

การได้รางวัลบอลทองคำสมัยที่ 4 ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้เรอัล มาดริด มีนักเตะได้โทรฟี่บัลลง ดอร์ ขณะอยู่กับสโมสร เป็นครั้งที่ 10 ต่อจาก อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ (1957, 1959), เรย์มงด์ โกปา (1958), หลุยส์ ฟิโก้ (2000), โรนัลโด้ (2002), ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (2006)  และตัวเขาเอง (2008, 2013, 2014X นอกจากนั้น CR7 ยังเป็นเพียงนักฟุตบอลคนที่ 5 ที่ได้รับรางวัลนี้ถึง 3 สมัยเป็นอย่างน้อย โดย 4 แข้งเทพที่เหลือประกอบด้วย โยฮัน ครัฟฟ์ แห่งฮอลแลนด์ (ปี 1971, 1973, 1974), มิเชล พลาตินี่ ของฝรั่งเศส (ปี 1983, 1984, 1985), มาร์โก แวน บาสเท่น ของฮอลแลนด์ (ปี 1988, 1989, 1992) และ ลีโอเนล เมสซี่ ที่ได้รางวัลไปครองสูงสุดถึง 5 สมัย (ปี 2009, 2010, 2011, 2012, 2015)

อันดับรางวัลบัลลง ดอร์ 2016 มีดังนี้
1.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส, เรอัล มาดริด)
2.ลีโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนฯ, บาร์เซโลน่า)
3.อ็องตวน กรีซมันน์ (ฝรั่งเศส, แอต. มาดริด)
4.หลุยส์ ซัวเรซ (อุรุกวัย, บาร์เซโลน่า)
5.เนย์มาร์ (บราซิล, บาร์เซโลน่า)
6.แกเร็ธ เบล (เวลส์, เรอัล มาดริด)
7.ริยาด มาห์เรซ (แอลจีเรีย, เลสเตอร์)
8.เจมี่ วาร์ดี้ (อังกฤษ, เลสเตอร์)
9.จานลุยจิ บุฟฟ่อน (อิตาลี, ยูเวนตุส), เปเป้ (โปรตุเกส, เรอัล มาดริด)     
11.ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง (กาบง, ดอร์ทมุนด์)
12.รุย ปาตริซิโอ้ (โปรตุเกส, สปอร์ติ้ง ลิสบอน)
13.ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (สวีเดน, แมนฯ ยูไนเต็ด)
14.อาร์ตูโร่ วีดัล (ชิลี, บาเยิร์น), ปอล ป๊อกบา (ฝรั่งเศส, แมนฯ ยูไนเต็ด)
16.โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (โปแลนด์, บาเยิร์น มิวนิค)
17.ดิมิทรี่ ปาเยต (ฝรั่งเศส, เวสต์แฮม), ลูก้า โมดริช (โครเอเชีย, เรอัล มาดริด), โทนี่ โครส (เยอรมนี, เรอัล มาดริด)

“เจ็ตโด้” แฟ็กต์ไฟล์
เกิด : 5 ก.พ. 1985 ที่มาเดยร่า, โปรตุเกส (31 ปี)
สูง : 1.85 ม. ตำแหน่ง : กองหน้า
สโมสรที่สังกัด : สปอร์ติ้ง ปูร์กตูกัล (2000-2003), แมนฯ ยูไนเต็ด (2003-2009), เรอัล มาดริด (2009-ปัจจุบัน)
ติดทีมชาติ : 136 ครั้ง (68 ประตู)
ติดทีมชาติครั้งแรก : โปรตุเกส-คาซักสถาน (1-0), วันที่ 20 ส.ค. 2003
ผลงานปี 2016 : ทีมสโมสร 42 นัด, 38 ประตู, 14 แอสซิสต์; ทีมชาติ 13 นัด, 13 ประตู
เกียรติประวัติปี 2016 : ผลงานปี 2016 : แชมป์ยูโร 2016, แชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก, ดาวซัลโวแชมเปี้ยนส์ ลีก (16 ประตู)    

ทำเนียบรางวัล 10 ปีหลังสุด
2006 : ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (เรอัล มาดริด, อิตาลี)
2007 : กาก้า (เอซี มิลาน, บราซิล)
2008 : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (แมนฯ ยูไนเต็ด, โปรตุเกส)
2009 : ลีโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า, อาร์เจนฯ)
2010 : ลีโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า, อาร์เจนฯ)
2011 : ลีโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า, อาร์เจนฯ)
2012 : ลีโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า, อาร์เจนฯ)
2013 : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด, โปรตุเกส)
2014 : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด, โปรตุเกส)
2015 : ลีโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า, อาร์เจนฯ)