โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือแมนชสเตอร์ ยูไนเต็ด สรรเสริญลูกทีม "ปีศาจแดง" ที่เล่นด้วยจิตวิญญาณแบบสมัยเก่า สู้ไม่มีถอย โกงความตาย ยิงสองลูก 5 นาทีท้าย แซงเอาชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-1 วันเสาร์ที่ผ่านมา พลางบ่นเสียดายแทน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยิงสุดสวยแต่ไม่ได้ประตู พลาดครองดาวยิงปี 2016 ร่วมกับ ลีโอเนล เมสซี่ แบบสุดเซ็ง

 โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมแมนชสเตอร์ ยูไนเต็ด สะใจชัยชนะสุดมันส์เหนือ มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม ที่ผ่านมา ฉลองวันเกิดอายุ 75 ปีของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตบรมกุนซือที่มาชมเกมในสนามด้วย พลางยกย่องนักเตะเล่นดีในสไตล์แบบ "ปีศาจแดง" ที่ไล่บดขยี้จนคว้าชัยชนะได้ในที่สุด

 อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กับ ปอล ป๊อกบา สองแข้งทีมชาติฝรั่งเศส ช่วยกันยิงคนละลูกให้ทีม "ปีศาจแดง" บดแซงชนะ "เดอะ โบโร่" 2-1 ในนาที 85 และ 86 หลังบุกโขยกอยู่ฝ่ายเดียว แต่เสียประตูไปก่อนในนาที 67 ทำให้ตอนนี้ ยูไนเต็ด มี 36 คะแนนจาก 19 นัด ยังอยู่ที่ 6 เหมือนเดิม แต่เพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 ส่งผลให้ช่องว่างห่างกันเหลือ 3 คะแนน

 มูรินโญ่ กล่าวหลังเกมที่เป็นการฉลองวันเกิดให้เฟอร์กี้ว่า "เขาคู่ควรต่อการมาที่นี่ และผู้คนไม่ควรจดจำเพียงว่านี่เป็นวันเกิดอายุ 75 ปีของเขา แต่เป็นสไตล์การเล่นของเรา และการที่เราทำให้แฟนบอลมีส่วนร่วมในสนาม ในช่วง 20 นาทีสุดท้ายมันเหมือนแฟนบอลอยู่ในสนาม ไม่ใช่บนอัฒจันทร์ และต้องยกเครดิตให้นักเตะ ที่แสดงตัวตนที่น่าทึ่ง บุกๆๆ ครั้งนี้เราทำได้ และได้อีก 3 แต้ม"

 เกมนี้อาจมีจุดเปลี่ยนตั้งแต่ท้ายครึ่งแรกที่ลูกยิงแบบผาดโผนของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ถูกผู้ตัดสิน ลี เมสัน ปฏิเสธให้เป็นประตู เพราะถูกเป่าฟาวล์ว่าเล่นอันตราย กระโดดยกเท้าใส่ บิคตอร์ บัลเดซ แม้ ซลาตัน จะถึงบอลก่อนเป็นชาติก็ตาม ซึ่ง มูรินโญ่ อดเซ็ง และเสียดายแทนไม่ได้ เพราะทำให้ ซลาตัน พลาดยิงลูกที่ 51 ในรอบปีปฏิทินเท่ากับ ลีโอเนล เมสซี่ เทพเจ้าลูกหนังของบาร์เซโลน่า

"มันยากนะเพราะว่าเราต้องเคารพผู้ตัดสิน และพวกเขาก็อยากทำหน้าที่ให้ดี แต่กับเราแล้ว มันน่าผิดหวัง (ที่ไม่ได้ประตู) เรายิงประตูสุดสวยได้ ประตูที่จะทำให้ ซลาตัน กับ เมสซี่ เป็นดาวซัลโวฟุตบอลยุโรปปี 2016 ร่วมกัน มันกีดกันนักเตะที่น่าทึ่งที่จะได้อยู่ระดับเดียวกับ เมสซี่ ในฐานะดาวซัลโวประจำปี 2016 มันเลยน่าหงุดหงิด แต่มันเป็นบททดสอบสำคัญของเรา และของนักเตะ และความจริงคือนักเตะของผมคู่ควรต่อการคัมแบ๊กที่น่าทึ่ง"

 ด้วยการที่ทีมเสียประตูในช่วงเวลาสำคัญ ไม่นานหลังจากเปลี่ยนตัวผู้เล่น 2 คนคือ มาร์กอส โรโฮ กับ ฆวน มาต้า แทนที่ ดาเล่ย์ บลินด์ กับ มารูยาน เฟลไลนี่ ทำให้ มูรินโญ่ ส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงไปแทน คริส สมอลลิ่ง และเหลือ เอริก ไบยี่ ยืนเซนเตอร์คนเดียว จากนั้นพอทีมยิงประตูตีเสมอ และตามด้วยประตูขึ้นนำ มูรินโญ่ จัดการปรับหมาก ถอย เฮนริค มคิทาร์ยาน มายืนแบ๊กซ้าย ในระบบกองหลัง 4 คนตามเดิม

 "ผมให้ มคิทาร์ยานเล่นแบ๊กซ้ายตอนเรายิงลูกที่สองได้ เพราะตอน 1-1 นั้นมันเป็น เนเกรโด้ กับ ตราโอเร่ สู้กับ ไบยี่และโรโฮ สองต่อสอง บาเลนเซียเป็นปีกเก่า เราไม่มีแบ๊กซ้าย และเราทุ่มหมดหน้าตัก แล้วพอเรายิงลูกที่สองได้ เราต้องการปิดเกม ผมคิดว่า มิคกี้กระปรี้กระเปร่า และน่าจะเล่นแบกซ้ายได้ดีกว่าคนอื่น และผมอยากให้ เอร์เรร่า กับ ป๊อกบา เล่นกองกลางต่อ และเราก็รักษาสกอร์ 2-1 ได้"

ยูไนเต็ด จะเล่นแบบวันเว้นวัน โดยวันจันทร์ที่ 2 มกราคมจะเจอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ มูรินโญ่ กล่าวว่า "มันเป็นความท้าทายของทุกทีมยกเว้นเชลซี เพราะพวกเขาจะเล่นวันที่ 4 ม.ค. ท็อตแน่มจะเล่นวันอาทิตย์ จากนั้นก็วันที่ 4 ม.ค. ส่วนเรากับเวสต์แฮมเหมือนกัน งานยาก มิดเดิ้ลสโบรช์เล่นตอนเที่ยง ก็จะได้พักไม่ถึง 48 ชั่วโมง มันหนักมาก โดยเฉพาะเมื่อคุณเห็นแล้วว่าเกมนี้มันเข้มข้นขนาดไหน คุณนึกออกได้เลยว่านักเตะต้องการพัก แต่ไม่มีเวลาพัก เพราะฉะนั้นไปลอนดอน และสนุกในเกมกับเวสต์แฮม และพยายามเก็บแต้มกลับมา"