แม้จะไม่ถล่มทลายตามที่หลายคาดหมาย แต่ชัยชนะเหนือพลีมัธ อาร์ไกล์ ทำให้ทีมหงส์แดง ทะลุเข้าสู่รอบต่อไปของศึกเอฟเอคัพ โดยจะไปพบกับวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์สที่รออยู่ก่อนแล้ว หลังเกมชนะพลีมัธมีหลายประเด็นที่น่าสนใจ ที่แฟนเดอะ ค็อป ถกกันอยู่ทั้งโลก

1 โกล์สองคนอุ่นใจทั้งคู่
 
ไม่น่าเชื่อว่า เรื่องดีๆแบบนี้จะเกิดขึ้นกับนายทวารของทีมหงส์แดง เพราะถ้าย้อนกลับไปในช่วงต้นซีซั่น ทั้งซิมง มิโยเล่ต์ และ โลริส คาริอุส ต่างเล่นกันแบบออกทะเลทั้งสองคน อย่างไรก็ตาม ในเกมนี้ คาริอุสได้โอกาสจากเจอร์เก้น คล็อปป์ และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง นายทวารชาวเยอรมัน แสดงปฏิกริยาเซฟสวยๆหลายครั้ง โดยเฉพาะลูกยิงไกล ที่ปัดป้องได้อย่างเฉียบขาด จนทีมเก็บคลีนชีทได้สำเร็จจริงๆไม่ใช่แค่คาริอุสเท่านั้น แต่ มิโยเล่ต์เอง ก็เล่นได้ดีมาก ในเกมก่อนหน้านี้กับแมนฯยูไนเต็ด ซึ่งถ้าหากสองนายทวารแข่งขันกันฟอร์มดีแบบนี้ คนที่แฮปปี้ที่สุดก็น่าจะเป็นเจอร์เก้น คล็อปป์นั่นเอง

2 ลูคัสจะไม่โดนปล่อยในเดือนมกราคมนี้

หลังจากพังประตูแรกในรอบ 7 ปี ได้สำเร็จ ลูคัส เลย์ว่า จะได้รับโอกาสให้อยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ต่อไปอีกจนจบซีซั่นเป็นอย่างน้อย และแน่นอน อาจมีการขยายสัญญาได้อีกในอนาคต ลูคัส อาจไม่ใช่ผู้เล่นที่เก่งกาจที่สุด แต่ประสบการณ์การค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกมา 10 ปีของเขา ยังมีประโยชน์กับทีม การอ่านเกม การเล่นอย่างมีทีมเวิร์ก และความเป็นผู้นำที่มีอยู่ในตัว ในขณะที่ทีมหงส์แดงปั้นดาวรุ่งขึ้นมาประดับวงการทุกวัน การมี นักเตะอาวุโสอายุ 30 อัพอยู่ในทีม คอยประคองน้องๆก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจุดนี้ ลูคัส จะทำหน้าที่ของเขาได้ดี

3 สเตอร์ริดจ์ กับ โอริกี้ ต้องเร่งฟอร์มได้แล้ว
 
ลิเวอร์พูลเคยส่งสเตอร์ริดจ์ กับโอริกี้ลงคู่กันมาหลายครั้ง ตัวอย่างเช่นในชนะสเปอร์ส 2-1 ในลีกคัพ ซึ่งในนัดนั้นมันชี้ให้เห็นว่า คู่นี้จริงๆเล่นด้วยกันได้ และเล่นได้ดีด้วย แต่ทว่าสิ่งนั้น มันไม่เกิดขึ้นในเกมกับพลีมัธ อาร์ไกล์ คืออย่าว่าแต่การประสานงานเลย ทั้งสองคนเล่นกันน่าผิดหวัง สเตอร์ริดจ์เสี่ยงยิงแบบสุ่มสี่สุ่มห้าจนบอลออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น ไม่ได้ต่างอะไรกับโอริกี้ ที่เล่นแย่ทั้งเกม แม้แต่จุดโทษยังยิงไม่เข้า นี่คือสาเหตุหลัก ว่าทำไมเวลาตัวครบแบบฟูลทีม ฟีร์มีโน่จะได้รับบทกองหน้าตัวจริงเสมอ ทั้งๆที่ไม่ใช่หัวหอกธรรมชาติ นั่นเป็นเพราะฟีร์มีโน่มีความแน่นอน และรักษามาตรฐานของตัวเองได้ตลอด ตรงข้ามกับสเตอร์ริดจ์ และโอริกี้ ที่ยังฝากความหวังอะไรไม่ได้ในตอนนี้

4 คูตินโญ่คือข่าวดีที่สุดของหงส์แดง
 
เฟลิเป้ คูตินโญ่ กลับมาออกสตาร์ตเป็นตัวจริงได้เกมแรกหลังหายไปนานมากกว่า 2 เดือน  ซึ่งการที่คูตี้ อยู่ในสนาม ทำให้เห็นชัดเจนว่าแนวรุกของลิเวอร์พูลสร้างสรรค์โอกาสได้เยอะกว่าเดิม ในตอนนี้ซาดิโอ มาเน่ มีโอกาสที่จะพลาดลงเล่นให้หงส์แดงสักระยะ เนื่องจากทีมชาติเซเนกัล ของเขา น่าจะผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอาต์ของแอฟริกัน เนชั่นส์คัพ ดังนั้น การที่ลิเวอร์พูลได้คูตินโญ่กลับมา จะทำให้เกมรุกที่เคยฝืดเคืองในช่วง 2-3 เกมหลัง กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง สามมิดฟิลด์ตัวรุก คูตินโญ่ , ลัลลาน่า และฟีร์มีโน่ น่าจะจับจองไว้แล้ว จากนั้นคล็อปป์ก็ค่อยเลือกเอาว่าจะใช้โอริกี้ หรือสเตอร์ริดจ์ในแต่ละเกม

5 เทรนต์ - โกเมซ การันตีพื้นที่ชุดใหญ่อีกไม่นาน
 
สองดาวรุ่งที่ผลงานสม่ำเสมอมากจริงๆคือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวา และโจ โกเมซในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก เจ้าหนูเทรนต์ ได้เป็นตัวจริงตั้งแต่ศึกแดงเดือดแล้ว แสดงให้เห็นว่าคล็อปป์เห็นอะไรบางอย่าง ในตัวดาวเตะวัย 19 ปีคนนี้ ซึ่งจากที่ดูฟอร์มมา เขามีความเร็วที่ริมเส้น ขยัน และทุ่มเทเต็มที่ รายละเอียดบางอย่างอาจจะยังไม่เนี้ยบ เช่นการเปิดบอล หรือการระมัดระวังคู่แข่งจากรอบข้าง แต่ในภาพรวมก็ถือว่ามีอนาคตไกล ขณะที่โจ โกเมซหลังจากเจ็บยาวไป 462 วัน เจ้าตัวได้ออกสตาร์ตสองนัดซ้อนในเกมกับพลีมัธ 2 เลก และสามารถเก็บคลีนชีทได้ทั้ง 2 เกมด้วย ซึ่งโกเมซ มีความกร้าวแกร่ง และสามารถเล่นได้หลายตำแหน่งในแนวรับ ดังนั้นอีกไม่นานก็จะกลับไปติดทีมชุดใหญ่ สำหรับลงแข่งพรีเมียร์ลีกแน่นอน