เลสเตอร์ สั่งปลด เคลาดิโอ รานิเอรี่ พ้นจากการเป็นกุนซือของทีมเรียบร้อย หลังทีมมีผลงานย่ำแย่เกินห้ามใจจนถึงขั้นต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น โดย "สุนัขจิ้งจอก" ระบุ จำเป็นต้องทำอย่างนี้เพื่อผลประโยชน์ของสโมสร ส่วน อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธาน เลสเตอร์ รับ นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดนับตั้งแต่ที่เข้ามาซื้อทีม

         เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศปลด เคลาดิโอ รานิเอรี่ กุนซือชาวอิตาเลียนออกจากการเป็นผู้จัดการทีมของพวกเขาแล้ว เมื่อวันพฤัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากที่ฤดูกาลนี้ทีมมีผลงานย่ำแย่สุดๆ

          หลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาคุมทีมเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2015 รานิเอรี่ ก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเกินกว่าที่หลายคนคาดเอาไว้ เมื่อพา "สุนัขจิ้งจอก" คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ประจำซีซั่น 2015-16 มาครองได้ ซึ่งถือเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วย

          อย่างไรก็ตาม ซีซั่นนี้ทีมดังแห่งถิ่น คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม กลับโชว์ฟอร์มได้อย่างย่ำแย่ จนตอนนี้อยู่ที่ 17 ของตารางคะแนน ในสภาพที่มีแต้มเหนือโซนตกชั้นเพียงแต้มเดียวเท่านั้น แถมนับตั้งแต่เข้าปี 2017 เป็นต้นมา พวกเขาก็ยังเก็บชัยชนะและทำประตูในเกมลีกไม่ได้เลยด้วย

          แถลงการณ์ของ เลสเตอร์ ระบุว่า "เลสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอล คลับ ได้แยกทางกับ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ผู้จัดการทีมของทีมชุดใหญ่แล้ว เคลาดิโอ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมของ ซิตี้ ในเดือนกรกฎาคม 2015 พร้อมกับพาทีมประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 133 ปีของสโมสรเมื่อซีซั่นก่อน จากการที่เราได้เป็นแชมป์ของอังกฤษเป็นครั้งแรก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะเป็นกุนซือที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปตลอดกาล"

          "อย่างไรก็ตาม ผลงานของเกมภายในประเทศในฤดูกาลนี้มันทำให้ทีมเสี่ยงที่จะตกชั้นจาก พรีเมียร์ลีก และบอร์ดบริหารก็รู้สึกว่ามันจำเป็นที่ต้องมีการเปลี่ยนผู้นำเพื่อให้สโมสรได้รับประโยชน์มากที่สุด แม้ว่าเราจะต้องทำด้วยความรู้สึกเจ็บปวดมากๆ ก็ตาม" แชมป์เก่าของ พรีเมียร์ลีก ระบุ

          ขณะที่ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธาน เลสเตอร์ กล่าวว่านี่นับเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดนับตั้งแต่ที่พวกตนเข้ามาซื้อทีมเลย พร้อมยกย่อง รานิเอรี่ ว่าเป็นกุนซือชั้นยอดด้วย "นี่ถือเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดเท่าที่เราเคยทำในช่วงเกือบ 7 ปีที่เข้ามาเป็นเจ้าของทีม เลสเตอร์ ซิตี้ แต่เรามีหน้าที่ที่จะต้องทำให้สโมสรได้รับประโยชน์ในระยะยาว โดยที่มันต้องมาก่อนความรู้สึกส่วนตัว ถึงแม้ความรู้สึกส่วนตัวมันจะมีมากแค่ไหนก็ตาม"

          "เคลาดิโอ ทำงานด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ทักษะการคุมทีมของเขา, พลังในการสร้างแรงบันดาลใจ และการประเมินสิ่งต่างๆ มันสะท้อนให้เห็นถึงการที่เขามีประสบการณ์อย่างมากซึ่งเรารู้อยู่เสมอว่าเขาจะทำอย่างนั้นให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ ความอบอุ่น, เสน่ห์ และบุคลิกของเขาช่วยเปลี่ยนแนวความคิดของสโมสร และพัฒนาชื่อเสียงของสโมสรในระดับโลก เราจะเป็นหนี้บุญคุณเขาสำหรับสิ่งที่เขาช่วยทำให้เราไปตลอด"

          "เราไม่เคยตั้งเป้าเลยว่าฤดูกาลนี้เราจะต้องทำผลงานให้ยอดเยี่ยมเหมือนเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แน่นอน การอยู่รอดใน พรีเมียร์ลีก ถือเป็นเป้าหมายอันดับ 1 ของเราในซีซั่นนี้ และเป็นเป้าหมายเดียวของเราด้วย แต่ตอนนี้เราต้องเจอกับสถานการณ์ที่ต้องสู้อย่างหนักเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น และเรารู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงถือเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อที่จะได้มีโอกาสทำได้ตามเป้าหมายมากที่สุดในช่วง 13 เกมสุดท้าย" ผู้บริหารระดับสูงของ เลสเตอร์ เผย

          ทั้งนี้ เคร็ก เชคสเปียร์ กับ ไมค์ สโตเวลล์ จะได้รับหน้าที่คุมทีมร่วมกันเป็นการชั่วคราว ในระหว่างที่ เลสเตอร์ กำลังมองหากุนซือคนใหม่ และคาดว่ามีโอกาสสูงที่ทั้งคู่จะต้องนำทีมลงเล่นในเกมลีกนัดที่จะเจอกับ ลิเวอร์พูล ในวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ไปก่อน