แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังทำผลงานร้อนแรง เมื่อเปิด เอติฮัด สเตเดี้ยม เฆี่ยน อาร์เซน่อล 3-1 ซึ่งจากสามแต้มที่ได้มา ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ยึดบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกแบบไร้พ่ายเอาไว้ได้ต่อไป

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2560
แมนฯ ซิตี้ 3-1 อาร์เซน่อล

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

    ''เรือใบสีฟ้า'' เรียกใช้บริการ เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่เพิ่งเบรกสถิติยิงประตูสูงสุดของสโมสรในแดนหน้า แทน กาเบรียล เชซุส ขณะที่ ''ปืนใหญ่'' ให้ อเล็กซิส ซานเชซ นำแนวรุก และถอย ฟร็องซิส โกเกอแล็ง ลงไปช่วยเป็นเซนเตอร์

    เจ้าถิ่นที่สตาร์ต 10 นัดแรกดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกเท่าเชลซี ปี 2006 ด้วยผลงาน 28 แต้ม มีลุ้นจากเกมโต้กลับในนาทีที่ 2 เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายออกทางขวาให้ ''เอล กุน'' สอดมาซัดเฉี่ยวสามเหลี่ยมเป็นการทักทาย

    เกมรุกของเรือใบสีฟ้าเกือบเรียกสกอร์ได้อีกในนาทีที่ 11 เดอ บรอยน์ จ่ายทะลุให้ ลีรอย ซาเน่ หลุดเข้าเขตโทษ แต่ ราฮีม สเตอร์ลิง พุ่งชาร์จลูกเปิดของปีกเยอรมันไม่ทัน อาร์เซน่อลเน้นรับในแดนตัวเอง แต่ก็ยังหาทางขึ้นเกมไม่ได้ สุดท้ายก็ต้านไม่อยู่ เมื่อซิตี้ต่อบอลจากแดนกลาง เดอ บรอยน์ ชิ่งกับแฟร์นันดินโญ่ ก่อนดาวเตะเบลเยียม สับไกด้วยซ้ายทแยงมุมหนีมือ ปีเตอร์ เช็ก เข้าเสาไกล ให้แมนฯ ซิตี้ นำ 1-0 ในนาทีที่ 18

    จังหวะบุกของเจ้าถิ่นยังสร้างโอกาสต่อเนื่อง เดอ บรอยน์ จ่ายทะลุให้สเตอร์ลิง หลุดจากกลางสนาม ทว่าปีกทีมชาติอังกฤษเปิดจังหวะสุดท้ายแรงเกินไป ทำให้ซาเน่อดยิงโล่งๆ ในนาทีที่  36 เล่นเอา เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ออกแอ็กชั่นอย่างไม่สบอารมณ์

   นาทีที่ 40 การต่อเกมจากด้านข้างของแมนฯ ซิตี้ ยังมีจังหวะจบอีกครั้ง แต่อเกวโร่ซัดจ่อๆ ติดบล็อกของเช็กกับกอสซิแอลนี่หวุดหวิด ปืนใหญ่มีฮึดท้ายครึ่งแรกเกือบตีเสมอ อารอน แรมซี่ย์ หาช่องยิงเรียดเข้ากรอบ แต่ เอแดร์ซอน ทิ้งตัวเซฟได้ทัน หมดครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้นำอยู่แค่ 1-0

    ครึ่งหลังทั้งสองไม่ปรับทัพ ก่อนที่ แมนฯ ซิตี้ จะได้ประตูที่สอง แฟร์นันดินโญ่ วางยาวให้สเตอร์ลิงหลุดขึ้นทางขวา โดน นาโช่ มอนเรอัล เบียดล้ม ผู้ตัดสิน ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ เป่าจุดโทษ อเกวโร่ยิงหลอกไปทางขวามือตัวเอง บอลชนเสาเหลี่ยมในพลิกเข้าไปเป็น 2-0 ใน นาทีที่ 50

   5นาทีต่อมาเอแดร์ซอนเกือบทำพลาด เมื่อนายประตูบราซิลรับลูกยิงไกลของซานเชซหลุดมือเข้าหาประตู แรมซี่ย์พุ่งชาร์จซ้ำชนตัวเอแดร์ซอนเป็นจังหวะฟาวล์ไปแล้ว นาทีที่ 57 อาร์แซน เวนเกอร์ ตัดสินใจส่ง อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ แทนโกเกอแล็ง แต่แอ็กชั่นแรกของหัวหอกฝรั่งเศสคือการโดนจดชื่อหลังไปดึง ดาบิด ซิลบา ตรงกลางสนาม
 
    เข้าสู่หนึ่งชั่วโมง เป๊ปสลับตัวกองหน้าบ้าง โดนให้ กาเบรียล เชซุส ลงล่าตาข่ายแทนอเกวโร่ ใน นาทีที่ 61 ก่อนปืนใหญ่ตีไข่แตกได้ แรมซี่ย์จ่ายให้ลากาแซตต์สอดขึ้นทางขวาของเขตโทษ ก่อนกดเต็มข้อพุ่งผ่านเอแดร์ซอนไล่มา 1-2 ใน นาทีที่ 65

    แมนฯ ซิตี้เร่งเครื่องต่อ ซาเน่วอลเลย์ติดบล็อก และจากเตะมุมซาเน่เปิดเข้ากลาง บอลลอยไปถึงเชซุสสับไกมุมแคบติดเซฟของเช็กแบบหวุดหวิดอีกครั้ง
   
    เข้าสู่ช่วง 20 นาทีท้าย แมนฯ ซิตี้เรียกประตูที่สามได้สำเร็จ เมื่อกองหลังทีมเยือนชะงักในจังหวะล้ำหน้า ซิลบาหลุดขึ้นทางขวาก่อนเปิดให้เชซุสแปนิ่มๆ เข้าไป เจ้าถิ่นนำห่างเป็น 3-1 ในนาทีที่ 74

    ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ จบเกม แมนฯ ซิตี้ เปิดรังเอาชนะ อาร์เซน่อล ไป 3-1 เก็บเพิ่มอีกสามคะแนน

 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน, ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, นิโกลัส โอตาเมนดี้, ฟาเบียน เดลฟ์, เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา, ราฮีม สเตอร์ลิง, เซร์คิโอ อเกวโร่, ลีรอย ซาเน่

    สำรอง : เคลาดิโอ บราโว, ดานิโล่, อิลคาย กุนโดกัน, เอเลียควิม ม็องกาล่า, แบร์นาโด้ ซิลวา, กาเบรียล เชซุส, ยาย่า ตูเร่

    อาร์เซน่อล : ปีเตอร์ เช็ก, เอคตอร์ เบเยริน, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, นาโช่ มอนเรอัล, เซอัด โคลาซินัช, กรานิต ชาคา, ฟร็องซิส โกเกอแล็ง, อารอน แรมซี่ย์, เมซุต โอซิล, อเล็กซ์ อิโวบี้, อเล็กซิส ซานเชซ

    สำรอง : มาติเยอ เดอบูชี่, อเล็กซองด์ ลากาแซตต์, แจ็ค วิลเชียร์, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, ธีโอ วัลค็อตต์, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, แม็ตต์ เมซี่ย์

    ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์