ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » โมราต้าโขกชัย! "สิงห์" คืนฟอร์มเก่งปราบ "ผีแดง" 1-0

โมราต้าโขกชัย! "สิงห์" คืนฟอร์มเก่งปราบ "ผีแดง" 1-0

Posted 06/11/2017 by siamsport

"สิงห์บลูส์" เชลซี กลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง เมื่อบดเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 จาก อัลบาโร่ โมราต้า โขกประตูชัย พาแชมป์เก่าเก็บสามแต้มรั้งที่ 4 มี 22 คะแนน ตาม "ปีศาจแดง" รองจ่าฝูง และสเปอร์สแค่แต้มเดียว โดยลูกทีมมูรินโญ่แพ้เป็นนัดที่สองของซีซั่น แถมโดน "เรือใบ" นำห่างถึง 8 แต้มแล้ว ในเกมบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

 เชลซี 1 - แมนฯ ยูไนเต็ด 0

  สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

    เชลซีหั่นดาวิด ลุยซ์ออกจากทีมหลังเซ็นเตอร์ฮาล์ฟแซมบ้าโชว์ฟอร์มแย่ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดบุกไปแพ้โรม่ายับ 3-0 โดยอันโตนิโอ คอนเต้ยืนยันกับสื่อก่อนเกมว่าเป็นการปรับเปลี่ยนในเรื่องของแท็คติก

    แต่ทั้งนี้ สิงห์บลูส์ได้เอ็นโกโล่ ก็องเต้กองกลางตัวรับหายเจ็บกลับมาลงสนาม ขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ดใช้งานผู้เล่นชุดเดิมจากเกมพรีเมียร์ลีกนัดเปิดบ้านคว่ำสเปอร์ส 1-0 โดยมาร์คัส แรชฟอร์ดแย่งตำแหน่งไปจากอ็องโตนี่ มาร์กซิยาลฮีโร่เกมหักคอไก่ได้

    พร้อมกันนี้ ผีแดงก็ได้มารูยาน เฟลไลนี่ฟิตกลับมานั่งรอเป็นตัวสำรองเรียบร้อยแล้ว

    เริ่มมาได้ 2 นาที เจ้าบ้านก็ได้ลูกฟรีคิกทางด้านซ้ายจากจังหวะที่คริส สมอลลิ่งทำฟาวล์อัลบาโร่ โมราต้า  และเชส ฟาเบรกาสเขี่ยเข้ากลางให้ก็องเต้กระทุ้งจาก 30 หลาถูกดาบิด เด เคอารับเข้าอกสำเร็จ

    จากนั้นในนาทีที่ 7 มาร์กอส อลอนโซ่ก็โจมตีขึ้นทางซ้าย และสาดบอลเข้าเสาแรกโดยที่ฟิล โจนส์ถูกโมราต้าเข้ากระแทกจนสกัดบอลเข้าประตูตัวเอง  จึงเป็นลูกฟาวล์ตามระเบียบ

    ขยับมาถึงนาทีที่ 15 ผีแดงสบโอกาสบุกบ้างก่อนที่โรเมลู ลูกากูจะได้ลูกจ่ายจากกราบขวาสับไกระยะ 20 หลาหน้าปากประตู แต่ติโบ กูร์กตัวส์พุ่งปัดพ้นเสาไกลได้

    อย่างไรก็ดี อีกสี่นาทีต่อมา  เอแด็น อาซาร์กระชากบอลจากกราบขวาตัดเข้ามาตะบันเต็มแรงระยะ 20 หลา ทว่าเด เคอายังผวาปัดได้
 
    นาทีต่อมา ติเยมูเอ้ บากาโยโก้ยันใส่โจนส์ที่เคลียร์บอลได้แล้ว ทำให้ได้ใบเหลืองเป็นรายแรก แต่ถัดจากนั้นต่างก็ทำอะไรกันไม่ถนัด เกมในครึ่งแรกจึงจบลงไปแบบจืดชืดด้วยสกอร์ 0-0

    กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลังได้สี่นาที โจนส์ก็รวบอาซาร์คว่ำบริเวณกลางสนามเบรกโอกาสโต้ของสิงห์บลูส์ จึงมีใบเหลืองติดตัวจนได้ และนาทีที่ 51 อันเดร์ เอร์เรร่าก็คว้าใบเหลืองตามมาข้อหาทำฟาวล์กองกลางทีมชาติเบลเยี่ยมเช่นกัน

    นาทีที่ 54 เจ้าบ้านน่าจะได้เฮอย่างยิ่งจากการเปิดบอลทางด้านขวาแล้วอาซาร์ได้วอลเลย์ตามน้ำทันทีแบบไม่ต้องจับ แต่บอลลอยเข้าอกของเด เคอาอย่างน่าเสียวไส้

    กระนั้น นาทีต่อมา แฟนสิงห์ก็ได้เริงร่าอยู่ดีเมื่อเซซาร์ อัซปิลิกวยต้าเก็บบอลได้แล้วมีพื้นที่ตักเข้าเขตโทษให้โมราต้าโขกจาก 12 หลาชนิดไร้ตัวประกบส่งบอลย้อนศรตุงตาข่ายง่ายดาย จึงเป็นอันว่าแชมป์เก่านำ 1-0

    ล่วงมาถึงนาทีที่ 63 ผีแดงเปลี่ยนตัวสำรองทีเดียวสองรายให้เฟลไลนี่กับมาร์กซิยาลลงไปแทนโจนส์กับเฮนริค มคิตาร์ยาน ขณะที่เชลซีใช้งานอันโตนิโอ รือดิเกอร์แทนดาวิเด้ ซัปปาคอสต้าในนาทีที่ 66

    เข้าสู่นาทีที่ 72 เฟลไลนี่ก็โดนจดชื่อจากจังหวะกระแทกศอกใส่โมราต้าขณะแย่งกันเข้าหาบอล และอีกสี่นาทีให้หลังสิงโตลอนดอนก็หวิดเพิ่มสกอร์ได้เมื่ออาซาร์ได้ลูกเก็บตกลากขึ้นมาซัดระยะ 18 หลาถูกเด เคอาเซฟได้เยี่ยม

    ในที่สุด แมนฯ ยูไนเต็ดก็ปล่อยเจสซี่ ลินการ์ดลงเล่นเป็นตัวสำรองรายสุดท้ายแทนแอชลีย์ ยังในนาทีที่ 79 ขณะที่เจ้าบ้านก็ส่งแดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ลงไปแทนเชส ฟาเบรกาสในนาทีเดียวกัน

    ท้ายเกมผีแดงบุกหนักหมายตีเสมอให้ได้  กระทั่งนาทีที่ 87 เชลซีก็ปล่อยวิลเลี่ยนลงเล่นแทนอาซาร์ แต่นาทีที่ 90 เอริค ไบยี่โยนบอลยาวเข้าเขตโทษแล้วเฟลไลนี่พักอกสวยก่อนตะบันระยะ 15 หลา ทว่าติโบ กูร์กตัวส์ทิ้งตัวปัดได้เหลือเชื่อ

    เข้าสู่ช่วงทดเวลา ผีแดงได้ลูกฟรีคิกระยะ 27 หลาจากจังหวะที่อันเดรียส คริสเตียนเซ่นงัดเนมานย่า มาติชล้ม แต่แรชฟอร์ดซัดกระทบกำแพงข้ามคานนิดเดียว จบเกมเชลซีจึงพิชิตแมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ทำให้อสูรร้ายตามหลังจ่าฝูงแมนฯ ซิตี้เพิ่มเป็นแปดแต้มแล้ว

    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

    เชลซี : ติโบ กูร์กตัวส์ , เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า , อันเดรียส  คริสเตนเซ่น ,  แกรี่ เคฮิลล์ , ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า (อันโตนิโอ รือดิเกอร์ น.66)  , ติเยมูเอ้ บากาโยโก้ , เชส ฟาเบรกาส (แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ น.79) , มาร์กอส อลอนโซ่ , เอ็นโกโล่ ก็องเต้ , อัลบาโร่ โมราต้า , เอแด็น อาซาร์ (วิลเลี่ยน น.87)

    สำรอง : วิลลี่ กาบาเยโร่  , เปโดร  , มิชี่ บัตชูอายี่ , อีธาน อัมปาดู

    แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิเด เด เคอา , เอริค ไบยี่ , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ฟิล โจนส์ (มารูยาน เฟลไลนี่ น.63) , คริส สมอลลิ่ง , แอชลีย์ ยัง (เจสซี่ ลินการ์ด น.79)  , อันเดร์ เอร์เรร่า , เนมานย่า มาติช , เฮนริค มคิตาร์ยาน ( อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล น.63)  , โรเมลู ลูกากู , มาร์คัส แรชฟอร์ด

    สำรอง : เซร์คิโอ โรเมโร่  , ดาเลย์ บลินด์ , มัตเตโอ ดาร์เมียน , สกอตต์  แม็คโทมิเนย์

    ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »