"ปีศาจแดง" ยังทำสถิติไม่แพ้ให้ สโต๊ค ในรังนานเป็นปีที่ 42 เข้าไปแล้ว หลังล่าสุดงัดฟอร์มโหดถล่ม 3-0 วาเลนเซีย, มาร์กซิยาล และลูกากู ช่วยกันยิง ส่วน ปอล ป็อกบา โดดเด่นจ่ายสองแอสซิสต์ พาทีมซิวสามแต้มรั้งรองจ่าฝูง หนีหงส์กับสิงห์บลูส์3คะแนน และตาม "เรือใบ" จ่าฝูงห่างๆ 12 แต้ม ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2561
แมนฯ ยูไนเต็ด 3 - สโต๊ค 0

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

    โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ ''ปีศาจแดง'' ทีมรองจ่าฝูง เพิ่งจะผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 4 เอฟเอ คัพ หลังไล่ทุบดาร์บี้ เคาน์ตี้ และก่อนหน้านั้นในลีกบุกไปเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน มาได้

    เกมนี้ได้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย กัปตันทีมหายเจ็บกลับมาช่วยทีม ขณะที่แนวรุกยังวาง โรเมลู ลูกากู เป็นหน้าเป้า โดยมี ฆวน มาต้า, เจสซี่ ลินการ์ด และอ็องโตนี่ มาร์กซิยาล 3 ประสานช่วยสนับสนุน

    ส่วนทางฝั่งทีมเยือนซึ่งรั้งอันดับ 18 โซนตกชั้น เพิ่งจะปลด มาร์ค ฮิวจ์ส ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม แล้วเซ็น 2 ปีครึ่ง ตั้ง พอล แลมเบิร์ต เป็นกุนซือคนใหม่

    ทว่าเกมนี้ใช้ เอ็ดดี้ เนียดซ์วิคกี้ รับหน้าที่แทนไปก่อน ซึ่งได้เปลี่ยนถึง 7 ตำแหน่งในเกมที่พ่าย โคเวนทรี ในศึกเอฟเอ คัพ ปีเตอร์ เคร้าช์ ยืนหอกเป้า และใช้ เซอร์ดาน ชากิรี่, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ และเอริก ชูโป-โมติง ทำเกมรุกผนึก ขณะที่แนวรับ โมริทซ์ เบาเออร์ แบ็กขวาตัวใหม่ทีมชาติออสเตรีย ได้ออกสตาร์ทเป็นนัดแรก หลังเพิ่งย้ายมาจาก รูบิน คาซาน

    แค่ 9 นาที แฟน "ปีศาจแดง" ได้เฮลั่นก่อนเลย เมื่อเจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะขึ้นเกมทางด้านซ้าย ปอล ป็อกบา ได้บอลเปลี่ยนแกนมาให้ วาเลนเซีย เลี้ยงจี้ไอ้หนู ไทม่อน ก่อนล็อกด้วยขวาแล้วตะบันด้วยซ้ายข้างไม่ถนัด บอลพุ่งเป็นจรวดเสียบเสาสองเข้าไปอย่างงดงาม เป็นประตูที่ 3 ในซีซั่นนี้ของกัปตันทีมวัย 32 ปี

    นาที 17 สโต๊ค นานๆจะตั้งเกมรุกขึ้นมาได้ลุ้น คราวนี้เป็นจังหวะซัดในกรอบของ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ แต่บอลหลุดกรอบออกไป

    นาที 19 เจ้าถิ่นมาได้ฟรีคิก มาต้า ปั่นไปติดกำแพง จากนั้นนาทีถัดมา สโต๊ค น่าจะไล่ตีเสมอได้ด้วยซ้ำ หลัง ไอร์แลนด์ ตามเข้ายิงในกรอบบอลถากเสาสองออกไปแบบได้เสียว

    "ช่างปั้นหม้อ" รูปเกมเล่นได้ดีขึ้น และมาได้ลุ้นอีกครั้ง นาที 25 บอลจากด้านขวาโยนโด่งมาเสาสอง เคร้าช์ ชิงโขกตัดหน้า เด เอคา บอลหล่นกลางประตู แต่ดีที่ ชูโป-โมติง ล้มตัวซัดไปติดแนวรับเจ้าถิ่นออกหลังไป

    เจ้าถิ่นเด็ดขาดกว่าและนาที 38 มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะที่ ปอล บ็อกบา จ่ายเลียดเข้ากลางให้ มาร์กซิยาล ที่วิ่งมาปั่นด้วยขวาบอลพุ่งเสียบตาข่าย เป็นประตูที่ 8 ของ "หนูหมาก" ส่วน "ป็อกบา" จ่ายลูกที่สองในเกมนี้ และเป็นแอตซิสต์ที่ 9 เท่ากับ ลีรอย ซาเน่ และเควิน เดอ บรอยน์

    ช่วงทดเวลาเจ็บ สโต๊ค น่าตีไข่แตกไล่เจ้าถิ่นมา หลัง ชากิรี่ ล็อกหนีแข้งปีศาจแดง ก่อนซัดด้วยซ้ายเต็มแรง ทว่าบอลไม่ผ่านมือ เด เคอา พุ่งเซฟไว้ได้ จบครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ด ขึ้นนำ สโต๊ค ซิตี้ 2-0

    ครึ่งหลัง ทีมเยือนปรับแท็คติก ส่ง เควิน วิมเมอร์ ลงไปเล่นแบ็กซ้ายแทนไอ้หนู จอช ไทม่อน

    นาที 54 ลูกากู พักบอลก่อนวอลเลย์สุดสวย บอลพุ่งไปเข้าซอง บัตแลนด์ 4 นาทีต่อมา ป็อกบา จ่ายเข้ากลางให้ มาร์กซิยาล จับบอลห่างตัวก่อนจะตามไปซัดติดแนวรับทีมเยือนออกหลังไป

    แนวรับ สโต๊ค เริ่มลนลานเล่นกันผิดพลาด นาที 61 ลินการ์ด ไหลต่อให้มาต้าหลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายก่อนซัดบอลหลุดเสาสองออกไปแบบได้ลุ้น

    นาที 72 ลูกทีมของ มูรินโญ่ ยิ่งเล่นยิ่งดี และมาได้ประตูนำ 3-0 มาร์กซิยาล แทงบอลเข้ากลางให้ ลูกากู พักบอลก่อนพลิกเข้าไปยิงเสาแรกผ่านมือ บัตแลนด์ อย่างง่ายดาย เป็นลูกที่ 11 ในซีซั่นนี้แล้ว
   
    สโต๊ค พลาดโอกาสตีไข่แตกอีกครั้ง นาที 85 มาเม่ บิรัม ดิยุฟ หลุดเข้าไปซัดติดเซฟ เด เคอา แม้จะซ้ำจังหวะสองแต่บอลเข้าด้านข้างตาข่าย

    จบเกม "ปีศาจแดง" คว้าชัยเหนือ สโต๊ค ซิตี้ สบายเท้า 3-0 เก็บชัยมี 50 คะแนน หนี "หงส์แดง" และ "สิงห์บลูส์" 3 แต้ม และตามหลังจ่าฝูง "เรือใบ" เหลือ 12 คะแนน

    11ผู้เล่นที่ลงสนาม

    แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - อันโตนิโอ วาเลนเซีย (กัปตันทีม), ฟิล โจนส์, คริส สมอลลิ่ง, ลุค ชอว์ - เนมานย่า มาติช, ปอล ป็อกบา - ฆวน มาต้า, เจสซี่ ลินการ์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล - โรเมลู ลูกากู

    สโต๊ค (4-2-3-1) : แจ็ค บัตแลนด์ - โมริทซ์ เบาเออร์, คูร์ท ซูม่า, บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้, จอช ไทม่อน - โจ อัลเลน, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ (กัปตันทีม) - เซอร์ดาน ชากิรี่, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, เอริก ชูโป-โมติง - ปีเตอร์ เคร้าช์

    ผู้ตัดสิน : แอนโทนี่ เทย์เลอร์