กลับมาโม่แข้งกันอีกครั้งกับศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แม็ตช์เดย์ที่ 23 ซึ่งผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยหลังจบคู่มันเดย์ ไนท์

ทีมงาน Siamsport ก็ไม่รีรอหยิบ 11 นักเตะผลงานสุดติ่งมาให้ได้รับชมกัน มีใครติดทัพในสัปดาห์นี้กันบ้าง...

ผู้รักษาประตู : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (เลสเตอร์ ซิตี้)

นายด่านจอมเก๋า เซฟทั้งหมด 7 ครั้งในเกมนี้ ช็อตสำคัญคือการป้องกันลูกยิงของ เชส ฟาเบรกาส และฟรีคิกของ มาร์กอส อลอนโซ่ ช่วยให้ เลสเตอร์ ซิตี้ มีหนึ่งคะแนนกลับรังเกมเจ๊า เชลซี 0-0

กองหลัง : อันโตนิโอ วาเลนเซีย (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

หลังหนีไปรักษาแฮมสตริง กลับมาลงสนาม "พี่โน่" ก็ซัดประตูได้เลย แถมเป็นการเปิดบริสุทธิ์อีซ้ายของตัวเองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ขายวิญญาณให้ปีศาจแดงเมื่อปี 2009 ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ เข้าปะทะสำเร็จ 4 ครั้งสูงสุดในทีม, ตัดบอล 4 ครั้ง, ผ่านบอลสำเร็จ 94% และจ่ายคีย์พาส 1 ครั้ง

กองหลัง : จอนนี่ อีแวนส์ (เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน)

แกร่งแบบนี้ถึงว่าทำไม แมนฯซิตี้ ถึงชวนไปลงเรือ! กัปตันอีแวนส์ โชว์ความเหนียวแน่นสุดๆ เข้าปะทะสำเร็จ 2 ครั้ง, เคลียร์บอลอันตราย 6 ครั้ง, ตัดบอล 2 ครั้ง, ชนะดวลลูกกลางอากาศ 4 ป้องกัน 5 ครั้ง และ 1 ประตูสุดสวยจากจังหวะลอยตัวโขกเป็นลูกเปิดหัวให้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เปิดรังทุบ ไบรท์ตัน 2-0 ทำให้ "เดอะ แบ็กกี้ส์" ชนะเป็นซักที หลังสะกดคำนี้ไม่เป็นมาเกือบๆ 5 เดือน!

กองหลัง : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล)

แอนดี้ นายโดนตัวไหนมา!? ในขณะที่หลายคนสรรเสริญเยินยอ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ว่าเล่นได้เจ๋งสุดๆ บางคนก็ชี้ไปที่ โม ซาล่าห์ กับลูกยิงไกลกว่า 40 หลา หรือ เอ็มเร่ ชาน ที่คอนโทรลแดนกลางได้สุดติ่งแม้ป่วยอยู่ก็ตามที

นี่คือเกมที่ โรเบิร์ตสัน เล่นได้ดีที่สุดนับตั้งแต่มาสวมเครื่องนุ่งห่มสีแดงเพลิง หน้าที่หลักคือตามประกบ ราฮีม สเตอร์ลิง และ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่สลับกันทำเกมทางกราบขวา ซึ่ง "เออาร์26" รับมือได้อย่างยอดเยี่ยม หายใจรดต้นคอไอ้เด็กดื้อราคา 49 ล้านปอนด์จนไปไม่เป็น ทั้งๆที่ฟอร์มโหดจัดกดมา 14 ดอกส์ในลีก

อีกช็อตที่เรียกเสียงฮือฮาให้กับเหล่า เดอะ ค็อป คือการวิ่งกดดันทีมเยือนแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พ่วงสถิติเข้าปะทะสำเร็จ 7 จาก 9 ครั้งสูงที่สุดในเกมนี้, เคลียร์บอลอันตราย 7 ครั้ง, ผ่านบอลสำเร็จ 86%, ชนะดวลลูกกลางอากาศ 1 ครั้ง

ผลงานดีวันดีคืนจนทำให้ตำนานแบ๊กซ้ายอย่าง ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ต้องออกโรงชื่นชมรุ่นน้องรายนี้ผ่าน ทวิตเตอร์ สื่อสังคมโซเชียลกันเลยทีเดียว!

กองกลาง : อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (ลิเวอร์พูล)

Philippe Whotinho? แฟนหงส์หลายรายกระแทกนิ้วบนหน้าจอสมาร์ทโฟนเพื่อส่งข้อความนี้สู่โลกออนไลน์หลังเกมนี้ผ่านพ้นไป พรางเปิดตัว Fab4 คนใหม่เป็นเจ้าวัวสายถึกบึกบึนรายนี้

เป็นเกมที่ "ดิ อ๊อกซ์" น่าจะจดจำไปอีกนาน เขาสับไกอย่างมั่นใจใส่ว่าที่แชมป์พรีเมียร์ลีก แชมป์ไร้พ่าย ทีมที่ดีที่สุดบนเกาะอังกฤษ ณ ขณะนี้ หรือภาคพื้นยุโรป อะไรก็ช่าง แต่เขาทำมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นี่คือประตูที่ 3 ในลีกจากการลงสนามให้ ลิเวอร์พูล เพียง 20 นัดเท่านั้น มากกว่าที่ยิงได้ในการเล่นให้ อาร์เซน่อล ใน 71 เกมสุดท้ายเสียอีก

เข้าปะทะสำเร็จ 1 จาก 3 ครั้ง, ตัดบอล 2 ครั้ง, เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งสำเร็จ 5 จาก 6 ครั้ง, ผ่านบอลสำเร็จ 79%, จ่ายลูกได้เสีย 3 ครั้ง นั่นทำให้เขามี 1 ประตู 1 แอสซิสต์ ฟอร์มสุดยอดแบบนี้ก็เพียงพอแล้วที่ทำให้เจ้าวัวตัวนี้ได้ แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์ ประจำเกมจมเรือใบ 4-3 ไปครอง

กองกลาง : เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน)

พ่อหนุ่มเจมส์ โดดเด่นเหลือเกิน สถิติเข้าปะทะสำเร็จ 3 ครั้ง, เคลียร์ลูกอันตราย 1 ครั้ง, เอาชนะดวลลูกโด่ง 4 ป้องกัน 3 หน, ผ่านบอลสำเร็จ 69% การเติมเข้าเขตโทษนั้นทำได้ถูกที่ถูกเวลา และนั่นทำให้เจ้าตัวใส่สกอร์ให้ทีมนักบุญได้ถึงสองเม็ด แต่น่าเสียดายมาโดน วัตฟอร์ด ตามไล่ตีเสมอเกมจบ 2-2

กองกลาง : ปอล ป็อกบา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

ความอยู่ใกล้เขตโทษเป็นของหวาน คงต้องดัดแปลงคำยอดฮิตจากละครเรื่อง ล่า มาใช้กับห้องเครื่องทรงผมอร่อยเหาะเสียหน่อย

เมื่ออยู่ใกล้เขตโทษคู่แข่งมากเท่าไหร่ ความอันตรายของ ป็อกบา ก็จะมากขึ้น แม้จะทำประตูไม่ได้ แต่ก็มี 2 แอสซิสต์ให้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จัดประตูสวยๆให้ตามลำดับ และเป็นการทำแอสซิสต์ 2 หนในเกมเดียวเป็นนัดที่สองติดต่อกันในลีกต่อจากเกมชนะเอฟเวอร์ตัน 2-0

เข้าปะทะสำเร็จ 2 ครั้ง, ตัดบอล 1 ครั้ง, ดวลลูกกลางอากาศชนะ 1 ป้องกัน 1 ครั้ง, เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งสำเร็จ 4 หน, ผ่านบอลสำเร็จ 91% และจ่ายลูกได้เสีย 4 ครั้ง นี่คือผลงานของเทพป็อกเกมตีหม้อแหลก 3-0

กองกลาง : ซน เฮือง-มิน (ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์)

เป็นอีกแข้งในพรีเมียร์ลีกที่ฟอร์มดีสม่ำเสมอ "อปป้าซน" เล่นได้เนียนตาจริงๆในเกมนี้ เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งสำเร็จ 5 ครั้ง, ผ่านบอลสำเร็จ 84%, คีย์พาส 2 ครั้ง, โอกาสยิง 7 ครั้ง มี 1 ประตู 1 แอสซิสต์ เกมถล่มเอฟเวอร์ตัน 4-0

กองหน้า : มาร์โก อาร์เนาโตวิช (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)

ดาวเตะสายติสต์ตัวพ่อ โชว์ฟอร์มสุดแจ่มจันทร์เลยทีเดียว เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 3 ครั้ง, จ่ายลูกได้เสีย 4 ครั้ง, โอกาสเพียงหนเดียวในเกมนี้ก็เป็นประตูสุดเจ๋งได้ รวมไปถึงสองแอสซิสต์ให้ มานูเอล ลันซินี่ เติมขึ้นมาพังประตูได้อีกในเกมบุกกระซวก ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 4-1

กองหน้า : โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (ลิเวอร์พูล)

ประตูขึ้นนำ 2-1 ที่ "บ๊อบบี้" ทำได้ถือว่าสำคัญมาก ใช้จุดเด่นในด้านการเข้าแย่งบอล และความแข็งแกร่งเบียดชนะ จอห์น สโตนส์ ก่อนจะชิพหนี เอแดร์ซอน แบบเหนือชั้นเข้าประตู สถิติเผยผ่านบอล 73%, คีย์พาส 3 ครั้ง 1 แอสซิสต์, เข้าปะทะสำเร็จ 1 จาก 2 ครั้ง, ตัดบอล 2 ครั้ง และโอกาสยิง 3 ครั้งเป็น 1 ประตู

กองหน้า : โม ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)

"บังเหม็ด" คืนตัวจริงหลังหายหน้าไปสองเกม ครึ่งแรกดูเงียบไปนิด แต่กลับมาครึ่งหลังใช้ความเร็วเล่นงานแนวรับซิตี้ได้ดีโดยเฉพาะ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ที่โดนของเข้าให้ก่อนนำไปสู่การเสียประตูที่สาม

สถิติผ่านบอล 80%, คีย์พาส 2 ครั้งเป็น 1 แอสซิสต์, เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งสำเร็จ 3 ครั้ง, โอกาสยิง 6 ครั้งเป็น 1 ประตูสุดคลาสสิคกับลูกยิงไกลกว่า 40 หลา