แมตช์รับวันวาเลนไทน์! "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมส่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ประสานคมแข้งแดนหน้าล่าชัย เกมเยือนถิ่น เอฟซี ปอร์ดต้ ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก) คืนวันพุธที่ 14 ก.พ. ศกถ่ายทอดสด : beIN SPORTS 2, เวลา : 02.45 น.

ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก)
วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส)  -  ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
ถ่ายทอดสด :  beIN SPORTS 2, เวลา : 02.45 น.

สนาม : เอสตาดิโอ โด ดราเกา
แซร์โจ้ คอนไซเซา เทรนเนอร์เอฟซี ปอร์โต้ พาทีมเข้ารอบนี้ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม จี ผลงานล่าสุดคือถล่มชาเวส 4-0 ในเกมลีก เป็นการคว้าชัย 3 นัดติด

สภาพทีมเกมนี้ที่แน่ๆ คอนไซเซาจะไม่มีเฟลิเป้ กองหลังที่ติดโทษแบน หลังโดนไล่ออกในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม แต่ก็ได้แซร์โจ้ โอลิเวยร่า พ้นโทษแบนสวนทางกลับมา

ส่วนอีบัน มาร์กาโน่, แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์, ดานิโล่ เปเรยร่า และ อังเดร อังเดร ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนเล็กน้อย ต้องรอทดสอบความฟิต

ขณะที่แกนหลักรายอื่นๆ อย่าง อีเกร์ กาซียาส นายประตูตัวเก๋า, เอ็คตอร์ เอร์เรร่า กองกลางกัปตันทีม และ คู่หัวหอก ติกินโญ่ โซอาเรส กับ มุสซ่า มาเรก้า ต่างพร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม

ด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ ''หงส์แดง'' ลิเวอร์พูล พาทีมเข้ารอบนี้ในฐานะแชมป์กลุ่ม อี ผลงานล่าสุดชนะเซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 ในเกมลีก ทำให้ไม่แพ้มา 3 เกมแล้ว

สภาพทีมเกมนี้ ที่แน่ๆ คล็อปป์จะไม่มี เอ็มเร่ ชาน ที่ติดโทษแบน จึงน่าจะเป็น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่เสียบแทน นอกจากนั้นไม่มีปัญหาอะไรเพิ่มเติม แกนหลักประจำทีมรายอื่นๆ ต่างพร้อมบู๊ นำโดย 3 ประสานแดนหน้า โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ซึ่ง ซาลาห์ ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องซัดประตุได้อีกในเกมล่าสุด

ในขณะที่แนวรับจะปรับบางตำแหน่งคาดว่า แผงแบ็กโฟร์จะยึด เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เป็นแกนหลัก

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม   
เอฟซี ปอร์โต้ (4-4-2) : อีเกร์ กาซียาส - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, ดีเอโก้ เรเยส, อีบัน มาร์กาโน่, อเล็กซ์ เตลเลส - เฮซุส โกโรน่า, เอ็คตอร์ เอร์เรร่า, แซร์โจ้ โอลิเวยร่า, ยาซีน บราอิมี่ - ติกินโญ่ โซอาเรส, มุสซ่า มาเรก้า  
เทรนเนอร์ : แซร์โจ้ คอนไซเซา

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ลอริส คาริอุส - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ 
เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

ผู้ตัดสิน : ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ (อิตาลี)

เกร็ดก่อนเกม
- ปอร์โต้ไม่เคยชนะลิเวอร์พูลได้เลยใน 4 หนที่พบกันในถ้วยยุโรป โดยพวกเขาเสมอ 2 และแพ้ 2 ต่อทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ อย่างไรก็ดีนี่เป็นการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นปีที่สองติดต่อกัน ส่วนลิเวอร์พูลมาถึงรอบน็อกเอาต์เป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2008/09 ซึ่งปีนั้นจบที่รอบ 8 ทีม
- ปอร์โต้เข้ามารอบนี้ได้ในฐานะรองแชมป์กลุ่มจี ส่วนลิเวอร์พูลไม่แพ้ใครด้วยการชนะ 3 เสมอ 3 เป็นแชมป์กลุ่มอี
- ปอร์โต้มีสถิติในรอบ 16 ทีมคือ ชนะ 3 แพ้ 6 และพวกเขาชนะแค่ครั้งเดียวจาก 4 หนหลัง โดยปีก่อนตกรอบนี้ด้วยน้ำมือของรองแชมป์ยูเว่
- สถิติในบ้านของปอร์โต้เวลาเจอกับทีมจากอังกฤษคือ ชนะ 8 เสมอ 6 แพ้ 3
- ปอร์โต้เก็บได้ 6 แต้มในบ้านรอบแบ่งกลุ่มซีซั่นนี้ โดยพวกเขาแพ้ต่อเบซิคตัสในบ้านตัวเอง 1-3 เกมนัดแรก แต่จากนั้นชนะไลป์ซิก และโมนาโก
- ปอร์โต้ชนะแค่ 4 จารก 10 เกมหลังในบ้านศึกยุโรป และแพ้ไป 4
- สถิติปอร์โต้ในการแข่งขันแบบเหย้า-เยือนกับทีมจากอังกฤษคือ ชนะ 3 แพ้ 7 พวกเขาไม่เคยชนะทีมจากอังกฤษในรอบน็อกเอาต์ได้นับตั้งตอนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ คุมในปี 2003/04 แล้วคว่ำปีศาจแดงก่อนสุดท้ายไปได้แชมป์
- ลิเวอร์พูลไม่ได้มาถึงรอบ 16 ทีม 9 ปีเต็ม โดยหนสุดท้ายคือชนะ 5-0 เหนือ เรอัล มาดริด สองเกมปี 2009 ทำให้พวกเขามีสถิติรวมในรอบนี้คือชนะ 4 แพ้ 1
- หงส์แดงมีสถิติชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 4 ที่โปรตุเกส