ถือเป็นฟอร์มที่น่ากลัวอย่างที่คาดไว้จริงๆ สำหรับ แอตเลติโก มาดริด ของกุนซือ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ หลังพิชิต เรอัล มาดริด สุดมันส์ 4-2 (ต่อเวลาพิเศษ) คว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ มาครองเป็นสมัยที่สามได้อย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันพุธที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา
    ที่ว่า "น่ากลัว" นั้น เพราะ "ตราหมี" เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากๆ อยู่แล้ว แถมช่วงซัมเมอร์นี้พวกเขายังเสริมทัพด้วยการดึงนักเตะชั้นดีอย่าง โตมาส์ เลอมาร์ (จาก อาแอส โมนาโก), เกลสัน มาร์ตินส์ (ฟรี), โรดรี้ (จาก บียาร์เรอัล) และ นิโกล่า คาลินิช (จาก เอซี มิลาน) เข้ามา และยังสามารถรั้งแข้งคนสำคัญอย่าง อ็องตวน กรีซมันน์, ยาน โอบลัค และ โฮเซ่ คีเมเนซ ได้ด้วย จึงไม่แปลกใจเลย หากพวกเขาจะแหวก บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ขึ้นมาผงาดคว้าแชมป์ ลา ลีกา ซีซั่นนี้ และนี่คือ 5 เหตุผลที่จะพา "ตราหมี" ก้าวขึ้นสู่การเป็นหมายเลขหนึ่งของลีกแดนกระทิงดุ

- หายห่วงในตำแหน่งผู้รักษาประตู

    พวกเขามี ยาน โอบลัค สุดยอดนายทวารคนหนึ่งของโลกชั่วโมงนี้อยู่ในทีม และไม่ต้องสงสัยเลยว่า โอบลัค จะเป็นตัวจริงโดยอัตโนมัติ แถมช่วงซัมเมอร์นี้ แอต. มาดริด ยังคว้าตัว อันโตนิโอ อาดาน ผู้รักษาประตูชาวสแปนิช มาจาก เรอัล เบติส เพื่อเป็นกำลังสำรองชั้นดีอีกด้วย
   
- กองหลังโคตรแกร่ง

    แนวรับที่แข็งแกร่งถือเป็น "จุดขาย" สำหรับ แอตเลติโก มาดริด เพราะนับตั้งแต่ได้ ซิเมโอเน่ มาเป็นกุนซือเมื่อปี 2010 พวกเขาถือเป็นสโมสรที่มีเกมรับแข็งแกร่งที่สุดในยุโรปเลยก็ว่าได้ โดยมี ดีเอโก้ โกดิน ยอดเซนเตอร์แบ็กทีมชาติอุรุกวัย เป็นหัวใจสำคัญ ขณะที่ โฮเซ่ คีเมเนซ ดาวรุ่งเพื่อนร่วมชาติ ก็ก้าวขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนกลายเป็นคู่เซนเตอร์ที่เล่นได้อย่างรู้ใจ แถมยังมี สเตฟาน ซาวิช เป็นตัวสำรองที่ไว้ใจได้

    สำหรับแบ็กซ้ายนั้น ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงแน่นอน หลังมีส่วนช่วยทีมชาติฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลก 2018 มาครองเมื่อช่วงกลางเดือนก่อน ขณะที่ ฟิลิเป้ หลุยส์ ก็จะถือเป็นตัวสำรองชั้นดี

    ส่วนแบ็กขวา พวกเขาคงจะให้จอมเก๋าอย่าง ฆวนฟราน เป็นตัวจริง หลังจากที่ปล่อย ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้ ให้ อินเตอร์ มิลาน แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็เพิ่มออปชั่นด้วยการดึง ซานติอาโก อารีอาส ฟูลแบ็กทีมชาติโคลอมเบีย มาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ทำให้แนวรับของพวกเขาถือว่ามีความครอบคลุมดีมาก

- มิดฟิลด์มีความกลมกล่อม

    การได้ โรดรี้ เข้ามา ทำให้แดนกลางของ แอต. มาดริด มีความสมดุลที่ดีมาก โดย โรดรี้ จะยืนเป็นตัวรับ ขณะที่ โกเก้ กับ ซาอูล ญีเกซ จะยืนอยู่ข้างหน้าคอยทำเกม ซึ่งรายแรกจะเด่นเรื่องการผ่านบอลและการโยนที่แม่นยำ ส่วนรายหลังเก่งเรื่องทะลุทะลวง ขึ้นไปทำประตู

    เท่านั้นยังไม่พอ พวกเขายังมี โธมัส ปาร์เตย์ มิดฟิลด์ทีมชาติกานา เป็นกำลังสำรองที่โดดเด่นไม่แพ้ตัวจริง เพราะดาวเตะวัย 27 ปีรายนี้ เก่งเรื่องแย่งบอลและการเข้าแท็กเกิ้ล ทำให้มิดฟิลด์ของทัพ "ตราหมี" มีความสมบูรณ์แบบ จะบู๊ก็ได้ จะเนียนก็ดี โดยเฉพาะในรายของ ซาอูล นั้น ถือเป็นตัวทีเด็ดที่ชอบขึ้นมาทำประตูสำคัญๆ หรือในช่วงคับขัน
   
- แนวรุกโหดขึ้น

    ฟอร์มของ ดีเอโก้ คอสต้า ในเกมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า คอสต้า คือหนึ่งในตัวเต็งดาวซัลโวสูงสุดของศึก ลา ลีกา ฤดูกาลนี้อย่างไม่ต้องสงสัย โดยที่มี อ็องตวน กรีซมันน์ กับ โตมาส์ เลอมาร์ อยู่ข้างๆ ซึ่งในรายของ กรีซมันน์ คงไม่จำเป็นต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมากมายให้เจ็บคอ ส่วน เลอมาร์ ที่ย้ายมาจาก อาแอส โมนาโก นั้น จะยืนเป็นตัวจริงฝั่งซ้ายแน่นอน เพราะปีกคนนี้เก่งทั้งในเรื่องแอสซิสต์และทำประตู

    
    นิโกล่า คาลินิช ที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ก็ถือเป็นแบ็กอัพชั้นดีให้กับ คอสต้า ส่วน เกลสัน มาร์ตินส์ กับ บีโตโล่ ต่างก็มีความเร็วจัดจ้าน และจะเป็นอะไหล่ให้กับ กรีซมันน์ และ เลอมาร์ ดังนั้นแนวรุกของ แอต. มาดริด ในฤดูกาลนี้ถือว่าดูดีกว่าฤดูกาลก่อนอย่างชัดเจน
- แท็กติกที่ยอดเยี่ยมของ ซิเมโอเน่

    เกมของ แอตเลติโก มาดริด ดูแข็งแกร่งมาก ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะการวางแท็กติกที่ยอดเยี่ยมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ แต่ถึงกระนั้นอาจจะไม่โดนใจแฟนบอลที่ต้องการความเร้าใจ เพราะอย่างที่เรารู้กัน "ตราหมี" ในยุคของ ซิเมโอเน่ จะเน้นความเหนียวแน่นเป็นหลัก

    อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลใหม่นี้เราอาจจะได้เห็น แอต. มาดริด เล่นได้น่าดูยิ่งขึ้น เพราะ ซิเมโอเน่ น่าจะเปิดโอกาสให้พวกแนวรุกเล่นได้อย่างมีอิสระ และแสดงสิ่งที่ดีที่สุดออกมา โดยเฉพาะในรายของ กรีซมันน์ นั้น น่าจะได้รับอิสระในการเล่นอย่างเต็มที่เหมือนกับ ลิโอเนล เมสซี่ ของ บาร์เซโลน่า ส่วนแดนกลาง, แดนหลัง และผู้รักษาประตูคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะถือเป็นจุดเด่นของทีมอยู่แล้ว ซึ่งก็เชื่อเหลือเกินว่า ฤดูกาล 2018/19 น่าจะเป็นฤดูกาลที่ แอตเลติโก มาดริด มีโอกาสดีที่สุดในการลุ้นแชมป์ ลา ลีกา นับตั้งแต่ได้ครั้งล่าสุดเมื่อฤดูกาล 2013/14 และน่าจะเข้ารอบลึกๆ ในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกเช่นเคย

    11 ตัวจริงตามคาด (ระบบ 4-3-3) - ยาน โอบลัค; ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ, ดีเอโก้ โกดิน, โฆเซ่ คีเมเนซ, ฆวนฟราน; โรดรี้, โกเก้, ซาอูล ญีเกซ; โตมาส์ เลอมาร์, อ็องตวน กรีซมันน์, ดีเอโก้ คอสต้า