ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ลีกคัพอื่นๆ » ยำจนหมดสภาพรองแชมป์โลก! เจาะ 3 ประเด็นน่าสนของ สเปน จากเกมถล่ม โครเอเชีย

ยำจนหมดสภาพรองแชมป์โลก! เจาะ 3 ประเด็นน่าสนของ สเปน จากเกมถล่ม โครเอเชีย

Posted 12/09/2018 by siamsport

ตอนแรกหลายคนเฝ้ารอดูเกม ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ลีก เอ กลุ่ม 4 นัดที่ สเปน เปิดรัง เอสตาดิโอ มานูเอล มาร์ติเนซ บาเลโร่ เจอกับ โครเอเชีย เมื่อวันอังคารที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมาอย่างใจจดใจจ่อ และมองว่ามันจะเป็นเกมที่สู้กันสูสี เพราะเจ้าถิ่นถือเป็นทีมดังทีมหนึ่ง ส่วนอาคันตุกะก็เพิ่งเป็นรองแชมป์ ฟุตบอลโลก 2018 มาหมาดๆ

อย่างไรก็ตาม กลับกลายเป็นว่า สเปน โชว์ฟอร์มสุดโหดด้วยการไล่ถล่มอีกฝ่ายแบบขาดลอย 6-0 ส่งผลให้ "ลา โรฆา" เก็บได้ 6 แต้มเต็มจากการลงเล่น 2 นัด ซึ่งวันนี้เราก็จะมาพูดถึง 3 จุดที่น่าสนใจจากผลงานในนัดล่าสุดของทีมแชมป์โลก 1 สมัยกัน

    - นักเตะ สเปน ปรับตัวเข้ากับแผนของ เอ็นรีเก้ ได้เร็ว

หลุยส์ เอ็นรีเก้ เทรนเนอร์คนใหม่ของทีมชาติสเปน มีจุดเด่นอยู่ที่การให้ทีมของเขาไล่กดดันคู่แข่งแทบจะตลอดทั้งเกม ยกตัวอย่างเช่นตอนคุม บาร์เซโลน่า ซึ่งมันก็ได้ผลดีในระดับหนึ่ง เพราะเขาประสบความสำเร็จกับ "อาซูลกราน่า" อย่างมาก อาทิเช่น การได้แชมป์ ลา ลีกา 1 สมัย และแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 หน เป็นต้น

    แน่นอนว่า เอ็นรีเก้ เอาสไตล์แบบนั้นมาใช้กับ สเปน ด้วย ซึ่งถึงแม้เขาจะเพิ่งเข้ามารับงานเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่เขาก็สามารถทำให้ขุนพลเลือดกระทิงดุเล่นตามแผนของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว โดยในเกมกับ โครเอเชีย จะเห็นได้ว่าพวกเขาแทบไม่ปล่อยให้ทัพ "ตาหมากรุก" มีเวลาทำอะไรเลย

 จริงอยู่ว่าส่วนหนึ่งที่แผนมันได้ผลแบบนี้เป็นเพราะนักเตะบางคนใน สเปน ชุดนี้เคยร่วมงานกับเขามาก่อน อย่างเช่น เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นเรื่องง่ายเลยที่จะทำให้คนอื่นๆ ในทีมเล่นตามแผนของเขาได้ และจุดนี้ก็ต้องชม เอ็นรีเก้ ที่สามารถปรับให้ทีมเล่นตามแผนของเขาได้เร็วสุดๆ

    - การเปลี่ยนกุนซือไม่ส่งผลเสียกับยุคใหม่ของ สเปน

สเปน เคยได้แชมป์รายการใหญ่ติดต่อกัน เริ่มจาก ยูโร 2008 ต่อด้วย ฟุตบอลโลก 2010 แล้วจากนั้นก็ ยูโร 2012 ซึ่งช่วงนั้นพวกเขาก็มีนักเตะชื่อดังหลายคนอยู่ในทีม และหลายคนก็เชื่อว่าพวกเขาจะครองความยิ่งใหญ่ได้อีกหลายปี

    น่าเศร้าที่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นไปตามนั้น เพราะนับตั้งแต่จบศึก ยูโร 2012 แล้วนั้น สเปน ก็ไม่เคยไปไกลกว่ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในรายการใหญ่ๆ ได้เลย อย่างในศึก ฟุตบอลโลก 2018 พวกเขาก็ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย จนทำให้มันดูเหมือนว่า สเปน จะต้องย้อนกลับไปสู่ช่วงที่ถูกเหยียดหยามว่าเป็น "หมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม"

ทั้งนี้ สเปน เข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัวตั้งแต่ช่วงเล่นรอบคัดเลือกของศึก ฟุตบอลโลก 2018 แล้ว ซึ่งตอนนั้นพวกเขาก็ทำผลงานได้ดีภายใต้การคุมทีมของ จูเลน โลเปเตกี แต่แล้วพัฒนาการอันราบรื่นก็เจออุปสรรคเข้าเต็มๆ ในตอนที่ โลเปเตกี ไปรับงานคุม เรอัล มาดริด ก่อนที่ทีมจะลงเล่นนัดแรกในศึก ฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย จนทำให้ โลเปเตกี โดนเด้งแบบกะทันหัน พร้อมกับมีการดึง เฟร์นานโด เอียร์โร่ มาคุมทีมแบบขัดตาทัพ

    ท้ายที่สุดแล้ว เอียร์โร่ ก็ไม่ได้ทำงานต่อ จนงานกุนซือ สเปน มาถึงมือของ เอ็นรีเก้ ซึ่งหลายคนก็ตั้งประเด็นว่ายุคใหม่ของ สเปน จะเป๋ไปนานรึเปล่า แต่ เอ็นรีเก้ แสดงให้เห็นว่าเขายังทำให้ยุคใหม่ของ สเปน เดินหน้าต่อไปได้ และถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไป สเปน ก็น่าจะเป็นหนึ่งในทีมที่มีลุ้นแชมป์แบบเต็มที่อีกครั้งในอนาคต

    - อาเซนซิโอ เหมาะเป็นแกนหลัก

ก่อนหน้านี้ยังมีบางส่วนที่ตั้งประเด็นว่า มาร์โก อาเซนซิโอ เหมาะกับการเป็นกำลังหลักของ สเปน ในยุคนี้รึเปล่า เพราะถึงแม้เจ้าตัวจะทำผลงานได้น่าประทับใจกับ เรอัล มาดริด แต่เขาก็เพิ่งมีอายุแค่ 22 ปีเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม ในเกมที่เจอกับทีมที่แข็งแกร่งอย่าง โครเอเชีย นั้น อาเซนซิโอ ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเขาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการทำเอง 1 ลูก และผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูได้อีก 3 หน นอกจากนี้ ลูกที่สามของ สเปน นั้น ก็มาจากการที่ อาเซนซิโอ ยิงชนคานก่อนที่บอลจะไปโดนหลังของ โลฟเร่ คาลินิช แล้วเด้งเข้าประตูจนกลายเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ คาลินิช เช่นกัน

ผลงานจากเกมนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า อาเซนซิโอ พร้อมแล้วที่จะเป็นกำลังหลักให้กับ สเปน ยุคใหม่ และถ้าเขาพัฒนาฝีเท้าต่อไปได้เรื่อยๆ แล้วล่ะก็ เขาก็จะเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่ากลัวมากๆ เลยทีเดียว
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »