แม้ "ฝอยทอง" โปรตุเกส จะไม่มีสตาร์ดังอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และผู้เล่นตัวหลักหลายตำแหน่งแต่ยังโชว์ฟอร์มแจ่มล่าสุดบุกอัด สกอตแลนด์ ถึงถิ่น 3-1 ในศึกฟุตบอลนัดกระชับมิตรทีมชาติ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลนัดกระชับมิตรทีมชาติ
วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2561
สกอตแลนด์ 1   -   3 โปรตุเกส

สนาม : แฮมป์เดน พาร์ค (กลาสโกว์, สกอตแลนด์)
    "ขุนพลตาร์ตัน" ทีมชาติสกอตแลนด์ เปิดสนามแฮมพ์เดน พาร์ค กรุงกลาสโกว์ ปะทะ "ขุนพลจากแดนฝอยทอง" ทีมชาติโปรตุเกส ในเกมลับแข้ง

    อเล็กซ์ แม็คลีช กุนซือสกอตแลนด์ส่ง เจมส์ ฟอร์เรสต์ กับ สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง เป็นแกนหลักแดนกลาง พร้อมให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายวัย 24 ปี จากสโมสรลิเวอร์พูล รับตำแหน่งกัปตันทีม

    ส่วน แฟร์นานโด ซานโต๊ส เทรนเนอร์ทีมชาติโปรตุเกส ไม่ได้เรียกตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมคนเก่งมาทำศึกเกมนี้ เนื่องจากตัวผู้เล่นต้องการพัก

    ในแนวรับส่ง รูเบน ดิอ๊าส ยืนคุมแผงหลังร่วมกับ เนโต้ ส่วนสามประสานแนวรุกให้โอกาส เอลแดร์ คอสต้า ปีกวัย 24 ปี จากสโมสรวูล์ฟแฮมป์ตัน ลงล่าตาข่ายร่วมกับ เอแดร์ และ บรูม่า 

    ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้เพียง 13 นาที ขุนพลจากแดนฝอยทอง ได้โอกาสก่อน เมื่อ หลุยส์ เนโต้ โยนให้กับ แซร์โจ้ โอลิเวยร่า ขึ้นโหม่งจากทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย แต่ไม่ผ่านการป้องกันของ เคร็ก กอร์ดอน นายทวารสกอตแลนด์

    เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 21 สกอตแลนด์ ตอบโต้มาบ้าง จอห์น แม็คจินน์ โยนฟรีคิกให้กับ สกอตต์ แม็คเคนน่า เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเทคตัวโขกติดเซฟของ เบโต้ นายทวารทีมชาติโปรตุเกส

    เจ็ดนาทีต่อมา โปรตุเกส ได้ลูกเตะมุม เควิน โรดรีเกส โยนให้กับ หลุยส์ เนโต้ ปราการหลังขึ้นโหม่งหลุดเสาซ้ายไป

    อย่างไรก็ตามนาทีที่ 43 ทีมเยือนมาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จนได้จากจังหวะที่ บรูม่า ดึงจังหวะแล้วจ่ายขึ้นหน้ามาทางด้านซ้ายให้ เควิน โรดรีเกส ตวัดจากเกือบสุดเส้นหลังด้านซ้ายเข้ากลางให้ เอลแดร์ คอสต้า สอดมาชาร์จด้วยซ้ายจ่อๆแค่ 6 หลาเข้ากลางประตูไปช่วยให้ โปรตุเกส บุกมานำก่อน 1-0 เมื่อหมดครึ่งแรก และเป็นการพังประตูฉลองการติดทีมชาตินัดแรกของคอสต้า ไปด้วย  

    มาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลังได้แค่ 8 นาที สกอตแลนด์ มีโอกาสก่อนจากจังหวะที่ จอห์น แม็คจินน์ เปิดมุมให้กับ สกอตต์ แม็คเคนน่า โขกหลุดเสาซ้ายไป

   กระเถิบมานาทีที่ 74 โปรตุเกส นำห่าง 2-0 เมื่อ เรนาโต้ ซานเชซ ที่ลงมาเป็นสำรอง โยนลูกฟรีคิกให้กับ เอแดร์ กองหน้าร่างใหญ่ขึ้นโหม่งกลางกรอบเขตโทษ บอลเสียบมุมขวาบนเข้าไป

    สามนาทีต่อมา สกอตแลนด์ จำเป็นต้องเปลี่ยน เควิน แม็คโดนัลด์ ลงเล่นแทน สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง

    ท้ายเกมนาทีที่ 84 โปรตุเกส นำขาด 3-0 แล้ว เมื่อ เชดซอน แฟร์นานเดส ซึ่งลงมาสำรองเปิดให้กับ บรูม่า ตะบันด้วยขวาจากกลางกรอบเขตโทษบอลโค้งเลี้ยวเสียบมุมขวาบนเข้าไปงดงามสุดๆ

    สองนาทีต่อมา โปรตุเกส ถอด เบโต้ ผู้รักษาประตูวัย 36 ปี ที่จะเล่นทีมชาติเป็นเกมสุดท้ายออก แล้วให้ เคลาดิโอ รามอส นายทวารวัย 26 ปี ลงมาเฝ้าเสาเป็นนัดแรกในนามทีมชาติ พร้อมกับ เบโต้ เอาปลอกแขนกัปตันทีมไปให้ เอแดร์ กองหน้าของทีมสวมแทน

    ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+3 สกอตแลนด์ ไล่มา 1-3 จากจังหวะทำชิ่งกันสวย ก่อนที่จังหวะสุดท้ายนั้น แกรี่ แม็คเคย์-สตีเว่น ที่ลงมาสำรองจะตอกส้นให้กับ สตีเว่น เนสมิธ ปั่นด้วยขวาจากกลางกรอบเขตโทษบอลเลี้ยวเข้ามุมขวาไปอย่างสวยงาม

    เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกม โปรตุเกส บุกมาต้อน สกอตแลนด์ ถึงรัง 3-1