แชมป์เก่า เรอัล มาดริด กลับมาคว้าชัยชนะนัดแรกในรอบ 6 เกมล่าสุดหลังเปิด ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ไล่บดเอาชนะ วิคตอเรีย พิลเซ่น ทีมดังจากเช็กไปหวุดหวิด 2-1 ซิวสามแต้มมี 6 คะแนนเท่ากับโรม่าแต่ลูกได้เสียเป็นรองนั่งรองจ่าฝูงของกลุ่ม จี ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
    สนาม : เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว (มาดริด, สเปน)

    เรอัล มาดริด ยอดทีมจากลา ลีกา สเปน แชมป์เก่าเปิด เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว กรุงมาดริด พบ วิคตอเรีย พิลเซ่น จากสาธารณรัฐเช็ก ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 กลุ่มจี

    ฆูเลน โลเปเตกี เทรนเนอร์วัย 52 ปีของเรอัล มาดริดส่ง ลูก้า โมดริช, คาเซมีโร่, โทนี่ โครส นำทัพแดนกลาง

    ส่วน พาเวล เวอร์บา กุนซือวัย 54 ปีของวิคตอเรีย พิลเซ่นมี มิเชล เคอร์เมนซิค ยืนกองหน้าตัวเป้า

    เกมครึ่งแรก นาที 11 เรอัล มาดริดนำ 1-0 ลูกัส บาซเกซ โยนจากปีกขวาไปที่เสาสองให้ คาริม เบนเซม่า กองหน้าชาวฝรั่งเศสโหม่งเผาขนตุงตาข่าย

    ส่วนทีมเยือนมีลุ้นในจังหวะที่ มิลาน เปเตอร์เซล่า ผ่านบอลไปเข้าทาง ดาวิด ลิมเบอร์สกี้ หวดด้วยขวาในกรอบเขตโทษ บอลหลุดกรอบออกไปในนาที 30

    เจ็ดนาทีต่อมา โทนี่ โครส กองกลางราชันชุดขาวได้บอล จ่ายต่อให้ อีสโก้ ยิงเท้าขวาในกรอบเขตโทษฝั่งขวาไปติด อเลส ฮรุสก้า นายทวารพิลเซ่น เซฟไว้ได้

    จบครึ่งแรก เรอัล มาดริดนำ 1-0

    กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลังได้แค่ 7 นาที เรอัล มาดริด ได้โอกาสก่อนจากจังหวะที่ อีสโก้ เปิดให้กับ แกเร็ธ เบล กดด้วยซ้ายจากกลางกรอบเขตโทษ บอลข้ามคานไป

    กระเถิบมานาทีที่ 55 ราชันชุดขาว มาได้ประตูที่สอง เมื่อ เฟเดรีโก้ บัลเบร์เด้ ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนตัวลงมา เก็บบอลได้แล้วฝากบอลทำชิ่งขึ้นหน้าให้ แกเร็ธ เบล ตอกส้นต่อให้กับ มาร์เซโล่ วิเอยร่า แบ็คซ้ายตัวเก๋าชาวบราซิล ที่เติมขึ้นมาชิปด้วยซ้ายนิ่มๆข้ามตัวของ อเลส ฮรุสก้า นายทวารของพิลเซ่นที่ถลันออกมา บอลเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้นช่วยให้ เรอัล มาดริด นำห่าง 2-0 แล้ว

    หนึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน เรอัล บดต่อเนื่อง ลูกัส บาซเกซ จ่ายให้กับ ลูก้า โมดริช ซัดด้วยซ้ายจากทางกรอบเขตโทษด้านขวาติดเซฟของ อเลส ฮรุสก้า นายทวารพิลเซ่น

    ล่วงเลยมานาทีที่ 65 ทัพชุดขาว ได้ลูกเตะมุม โทนี่ โครส โยนให้กับ แกเร็ธ เบล โผนขึ้นโขกในกรอบเขตโทษ บอลเฉี่ยวกรอบประตูออกไป

    สี่นาทีให้หลัง เรอัล มาดริด ได้โอกาสลุ้นต่อเนื่อง คาริม เบนเซม่า จ่ายให้กับ แกเร็ธ เบล สตาร์ชาวเวลช์ หวดด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษบอลหลุดเสาซ้ายไป

    จากนั้นนาทีที่ 71 ราชันชุดขาว น่าจะได้ประตูที่สาม เมื่อ นาโช่ เฟร์นานเดซ จ่ายไปที่ว่างให้ แกเร็ธ เบล สอดมารับบอลแล้วหวดด้วยซ้ายจากทางกรอบเขตโทษด้านขวา ทว่า อเลส ฮรุสก้า นายทวารพิลเซ่น ปิดเสาแรกไว้ได้แล้ว บอลทะลักมาทาง โมดริช เกี่ยวเข้าในให้ คาริม เบนเซม่า ยิงจ่อๆเข้าไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตู โดยเป่าเป็นล้ำหน้าโมดริช ไปก่อนแล้ว

    เรอัล บดต่อเนื่องมีโอกาสอีกในนาทีที่ 76 โทนี่ โครส โยนลูกเตะมุมให้กับ เซร์คิโอ รามอส โขกหลุดเสาไป

    ถัดมาสองนาที เรอัล น่าได้จริงๆ อาเซนซีโอ ตวัดจากกราบซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ ลูกัส บาซเกซ โหม่งคนเดียวโล่งๆ บอลเฉี่ยวเสาขวาออกไปเหลือเชื่อ

    ท้ายเกมนาทีที่ 78 พิลเซ่น มาได้ประตูไล่มา 1-2 จากจังหวะที่ อเลส เซอร์มัค จ่ายให้กับ พาทริค ฮโรซอฟสกี้ เกี่ยวบอลแตะหนี รามอส ก่อนจะแปด้วยขวาจากกลางกรอบเขตโทษส่งบอลเบียดเสาขวาเข้าประตูไป

    เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านเชือด พิลเซ่น ไป 2-1 เก็บสามแต้มเต็ม มี 6 แต้มจากสองนัดเท่า โรม่า แต่ประตูได้เสียของราชันชุดขาว เป็นรอง
 
    รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

    เรอัล มาดริด: เคย์ลอร์ นาวาส - ลูกัส บาซเกซ, เซร์คีโอ รามอส (กัปตันทีม), นาโช่ เฟร์นานเดซ, มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ลูก้า โมดริช, คาเซมีโร่, โทนี่ โครส - แกเร็ธ เบล (มาร์โก อาเซนซีโอ น.75), คาริม เบนเซม่า (มาเรียโน่ ดิอาซ น.88), อีสโก้ (เฟเดรีโก้ บัลเบร์เด้ น.54) 

    สำรองไม่ได้ใช้: ติโบต์ กูร์กตัวส์ (ผู้รักษาประตู) - ราฟาแอล วาราน, อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า, วินิซิอุส จูเนียร์

    พิลเซ่น: อเลส ฮรุสก้า - ราดิม เรซนิค, ลูคัส เฮจ์ด้า, โรมัน ฮุบนิค (กัปตันทีม), ดาวิด ลิมเบอร์สกี้ - โรมัน โปรชัซก้า (โทมัส โฮราว่า น.65), พาทริค ฮโรซอฟสกี้ - มิลาน ฮาเวล (อูบอง โมเสส เอ็คเป น.76), อเลส เซอร์มัค, มิลาน เปเตอร์เซล่า (ยาคุบ เรซนิเช็ค น.86) - มิเชล เคอร์เมนชิค    

    สำรองไม่ได้ใช้: มาตุส โคซาซิค (ผู้รักษาประตู) - โทมัส โชรี, พาเวล บูช่า, ลูเด็ค เพอร์นิก้า

    ผู้ตัดสิน: โอเรล กรินเฟลด์ (อิสราเอล)