4 ประเด็นหลังเกม "ไก่เดือยทอง"โชว์ฟอร์มสุดติ่ง เมื่ออัลลี, เคน, และ ซน ช่วยกันถลุงประตูเปิดซิงเชลซีหลัง"สิงห์บลูส์"ไม่แพ้ใครในลีกมาตั้งแต่เปิดฤดูกาล

ผลการแข่งขันลอนดอนดาร์บี้คราวนี้ดูจะพลิกโผจากที่แฟนบอลได้คาดไว้ หลังท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ จัดหนัก กระหน่ำเชลซีที่เวมบลีย์  3-1 และนี่คือ 4 ประเด็นเก็บตกที่น่าสนใจหลังเกม

1.สถิติของแฮร์รี่ เคน ในการพบกับอริร่วมเมือง

เป็นการยิงในดาร์บี้แมตช์อีกครั้งของกัปตันทีมชาติอังกฤษ หลังซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษเสียบเสาแรกในแบบที่เกปา ผู้รักษาประตูของเชลซีได้แต่ขาตาย ยืนมองห่างๆอย่างห่วงๆ

ขณะนี้ เคนจัดไปแล้ว 25 ประตูจาก 39 นัดในการพบกับอริร่วมเมือง นั่นทำให้เคนได้ขึ้นไปอยู่ในอันดับ6 ร่วมกับโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ของอันดับนักเตะที่ยิงประตูในลอนดอนดาร์บี้มากที่สุด โดยอันดับหนึ่งยังคงเป็นของ เธียร์รี่ อองรี อดีตยอดกองหน้าอาร์เซน่อล

2.การกลับมาของเอริคเซ่น

คริสเตียน เอริคเซ่น กลับมาทำหน้าที่ปั้นเกมครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ หลังห่างหายไปด้วยอาการบาดเจ็บ แล้วจอมทัพเดนมาร์กก็แสดงให้แฟนบอลได้เห็นว่า เขาสำคัญกับสเปอร์สขนาดไหน

เอริคเซ่นเปิดฟรีคิกสุดเฉียบก่อนเดเล อัลลี่โฉบโหม่งเข้าไปเป็นประตูในต้นเกม หลังจากนั้นอีก 8 นาทีเขาก็ตอกย้ำความสุดยอดด้วยแอสซิสต์อีกลูกให้กับแฮร์รี่ เคน ถึงจะไม่ได้เป็นแมนออฟเดอะแมตช์ แต่เอริคเซ่นก็มีบทบาทสำคัญสุดๆในเกมแดนกลาง โดยมีลูกจ่ายหวังผลถึง 7 ครั้ง และมีลูกครอสให้เห็นหลายลูก

3.วันที่ลุยซ์ไม่อยากจำ

หลังเป็นเพียงตัวสำรองในยุคของคอนเต้  ดาวิด ลุยซ์ก็กลับมาเบียดตำแหน่งตัวเลือกแรกๆในแผงหลังได้อีกครั้งใต้การคุมทีมของซาร์รี่ แต่ในเกมนี้ ดูเหมือนกองหลังบราซิลเลี่ยน จะตกเป็นแพะในการทำทีมเสียประตู เพราะเจ้าตัวยืนอยู่ในตำแหน่งที่บังวิสัยทัศน์ของเกปา ทำให้แฮร์รี่ เคนส่องไกลโดยที่เกปามองไม่เห็นบอล จึงไม่สามารถพุ่งตัวไปเซฟได้ทัน

อีกครั้งคือจังหวะที่ซน ฮึง-มิน ลากยาวแซงจอร์จินโญ่มาจากครึ่งสนามแล้วลุยซ์พยายามเข้าพรวด แต่ไม่โดนบอล ทำให้ซนเข้าไปเดี่ยวกับเกปา แล้วปีกโสมขาวก็ซัดไม่เหลือ เป็นสุดยอดประตูปิดกล่องในนาทีที่ 54

เชลซีและสเปอร์สมีสถิติเกมรับที่ค่อนข้างดีในลีกฤดูกาลนี้ โดยถูกยิงไปทีมละ 11 ประตูทว่าซาร์รี่ก็เคยได้พูดถึงความกังวลของเขาที่มีต่อความแข็งแกร่งในเกมรับ และเมื่อคืนคงเป็นเกมที่ทั้งตัวเขาและดาวิด ลุยซ์ไม่ค่อยอยากจะจดจำเท่าไหร่

4.อาซาร์อดจุดโทษ

มันอาจจะจบอีกแบบเลยก็ได้หากเชลซีได้จุดโทษจากจังหวะที่ฮวน ฟ้อยธ์ กองหลังดาวรุ่ง"ไก่เดือยทอง" ผู้ขึ้นชื่อลือชาเรื่องการทำทีมเสียจุดโทษ ปะทะเอแด็น อาซาร์จากด้านหลังจนล้มลงในเขตโทษในตอนที่เชลซีตามหลังเพียง 1 ลูกในครึ่งแรก แต่ผู้ตัดสินมาร์ติน แอตคินสันให้เล่นต่อไป

หากทีมเยือนได้จุดโทษนั้นแล้วตีเสมอได้ แน่นอนว่าโมเมนตั้มของเกมคงเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม เป็นฝั่งสเปอร์สที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงกว่าชัดเจน จบสถิติไม่แพ้ใครของเชลซีไว้ได้ที่เวมบลีย์