"หงส์แดง" แม้จะโดน อาร์เซน่อล บุกมาขึ้นนำไปก่อน แต่แนวรับของไอ้ปืนใหญ่เล่นกันพลาดเองเจอความเหนือชั้นของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่เหมาคนเดียวสามเม็ดเป็นแฮตทริกพาทีมคว้าชัยแบบไร้พ่าย 5-1 ทำสถิติคว้าชัย 9 นัดรวด พร้อมซิวสามแต้มรั้งฝูงหนีสเปอร์ส 9 คะแนน และแมนฯซิตี้ ที่แข่งน้อยกว่าถึง 10 แต้ม ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดส่งท้ายปีเก่า คืนวันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม 2561

สนาม :  แอนฟิลด์, ลิเวอร์พูล

    ลิเวอร์พูล วางทัพเน้นเกมรุกเต็มสูบ โดยมีทั้ง เซอร์ดาน ชากิรี่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นตัวจริง ส่วน อาร์เซน่อล ให้ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ เป็นเพียงตัวสำรอง แล้วใช้ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง เป็นกองหน้าตัวเป้า

    เกมนี้ทีมปืนใหญ่สวมปลอกแขนเพื่อไว้อาลัยให้กับ ปีเตอร์ ฮิลล์-วู้ด อดีตประธานสโมสรปืนใหญ่ที่เพิ่งเสียชีวิตเมื่อวันศุกร์บนวัย 82 ปีด้วย

    เปิดฉากมาได้แค่ 6 นาที เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นก่อนเลย เมื่อมาเน่กระชากพาบอลถึงเส้นหักก่อนหักบอลมาติดแข้งปืนใหญ่ เลยมาเข้าทาง ฟีร์มีโน่ กดเต็มเท้าบอลพุ่งไปแฉลบซาลาห์ออกไปหลัง

    จากนั้น นาที 10 เป็นโอกาสของอาร์เซน่อลบ้าง หลัง ฟาบินโญ่ จ่ายบอลขวางสนามพลาดโดน อิโวบี้ ลากกระชากเข้าไปตะบันด้วยซ้ายแต่ดีที่ติดเซฟของ อลีสซง ปัดออกหลังไป

    จากนั้นอีก 2 นาทีต่อมากลายเป็น "ไอ้ปืนใหญ่" ที่บุกมาขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะขึ้นมาทางซ้ายของ อเล็กซ์ อิโวบี้ ก่อนจะครอสเลียดตัดแนวรับมาในกรอบ 6 หลา ให้ ไอน์สลี่ย์ เม็ตแลนด์-ไนลส์ เติมขึ้นมาสไลด์ตัวยิงเข้าไป

    กระนั้น 3 นาทีหลังจากเสียประตู "หงส์แดง" ตามตีเสมอทันควัน 1-1 จากจังหวะที่ ฟีร์มีโน่ จ่ายบอลแทงให้ ซาลาห์ ยิงไปติดแนวรับทีมเยือน ก่อนที่ ลิคท์สไตเนอร์ จะสกัดบอลไปติด มุสตาฟี่ กระดอนมาเข้าทาง ฟีร์มีโน่ ที่ยิงเข้าไปง่ายๆ

    เท่านั้นไม่พอ แฟนปืนต้องช็อกต่อเนื่อง แค่นาที 16 เจ้าถิ่นพลิกขึ้นนำ 2-1 อย่างรวดเร็ว ฟีร์มีโน่ ที่เล่นได้โดดเด่นในวันนี้ปั๊มแย่งบอลจาก ตอร์เรยร่า ได้ก่อนเลี้ยงแหวกแนวรับอาร์เซน่อล ล็อกซ้ายผ่านมุสตาฟี่ และล็อกขวาหลบโซคราติส ก่อนยิงด้วยซ้ายผ่านตัว เลโน่ เข้าไปอย่างเหนือชั้น เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้

    เกมรับของไอ้ปืนใหญ่ยังระส่ำ นาที 23 มาเน่ เลี้ยงหลบขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนกดด้วยขวาแต่บอลพุ่งไปเข้าซอง เลโน่
   
    นาที 32 สกอร์ของเจ้าถิ่นนำห่างเป็น 3-1 จนได้ จากจังหวะลูกเตะมุมที่ โอบาเมย็อง เคลียร์ออกมา แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน วางยาวจากครึ่งสนาม บอลมาถึง ซาลาห์ ก่อนกระแทกด้วยซ้ายไปในกรอบ 6 หลาให้ มาเน่ วิ่งมาอัดเสยเพดานตาข่ายเข้าไป

    ช่วงทดเวลาเจ็บท้ายครึ่งแรก "หงส์แดง" มาได้ประตูนำห่างเป็น 4-1 หลัง โซคราติส ไปเข้าข้างหลังฟาวล์ใส่ ซาลาห์ จนล้มลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสิน ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ไปรีรอเป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ โม ซาลาห์ จะลุกขึ้นมาอัดด้วยขวาเต็มแรงกลางประตูหมดสิทธิ์ที่ แบรนด์ เลโน่ ที่พุ่งไปผิดทางจะเซฟ เป็นประตูที่ 13 ของดาวยิงเลือดอียิปต์เท่ากับ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง และแฮร์รี่ เคน

    จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เอาคืนยิงสี่เม็ดรวดนำ อาร์เซน่อล ไปก่อน 4-1

    กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง ฝั่งทีมเยือน อาร์เซน่อล ปรับแนวรับทันทีถอดเอา ชโคดราน มุสตาฟี่ ออกแล้วส่ง โลร็องต์ กอสซิแอลลี่ กัปตันทีมลงไปเล่นแทน

    แค่นาที 48 เจ้าถิ่นหวิดได้ลุ้นประตูที่ 5 หลัง ซาลาห์เล่นกับชากิรี่ ก่อนที่ห้องเครื่องร่างตันจะแทงบอลให้ ซาลาห์ วิ่งหลุดเข้าไปแตะบอลได้แล้วแต่ยาวไปเข้ามือ เลโน่ ที่ออกมาตะครุบไว้หวุดหวิด

    นาที 54 เป็นจังหวะเสียวของทัพปืนบ้าง อิโวบี้ ดึงแนวรับเจ้าถิ่นก่อนไหลเข้ากลางให้ ชาคา แทงบอลเร็วให้ แรมซี่ย์ หลุดเข้าไปไม่ตรงกรอบบอลเลยมาถึง โอบาเมย็อง ที่ยืนล้ำหน้าตามมาซ้ำข้ามคานไปแบบเหลือเชื่อ

    นาที 62 คล็อปป์ ปรับแท็คติกส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงไปคุมจังหวะตรงกลาง แล้วถอดเอาตัวรุกอย่าง มาเน่ ออกไปพัก

    จากนั้นแค่นาทีเดียวต่อมา หงส์แดง หวิดนำห่างอีกประตูเมื่อ โม ซาลาห์ ไขว้บอลจ่ายอย่างเหนือชั้นให้ ฟาบินโญ่ หลุดเข้าไปยิงด้วยขวาแต่บอลไปติดเซฟ เลโน่ ปัดออกหลังไป

    คราวนี้ แฟน เดอะ ค็อป ได้เฮลั่นจริงๆ เมื่อได้ประตูนำโด่งหนีไอ้ปืนใหญ่ 5-1 ในนาที 65 จากความผิดพลาดของแนวรับอาร์เซน่อลอีกหนหลัง โคลาซินัชไปกระแทก ลอฟเรน ล้มลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าชี้เป็นจุดโทษอีกครั้ง และคราวนี้เปลี่ยนคนยิงเป็น ฟีร์มีโน่ ที่ยิงไปทางขวามือตัวเองส่งบอลตุงตาข่าย เป็นประตูที่ 6 ของเจ้าตัวในซีซั่นนี้ และเป็นแฮตทริกในเกมนี้ของหัวหอกทีมชาติบราซิล

   ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่นยังได้ลุ้นหลายค่อหลายครั้ง นาที 89 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้จังหวะสับไกนอกกรอบเต็มแรงบอลเฉียดเสาออกไปแบบได้เสียว

   ช่วงทดเวลาเจ็บ ซาลาห์ มีโอกาสซัดมุมแคบแต่บอลก็ไปติด เลโน่ ที่ป้องกันไม่ให้เสียประตูที่ 6 ไปได้

    จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ไล่ถลุง อาร์เซน่อล ไปแบบขาดลอย 5-1 เก็บสามแต้ม พร้อมหนีรองจ่าฝูง สเปอร์ส ที่วันนี้แพ้ไปถึง 9 คะแนน และนำห่างแชมป์เก่าอันดับ 3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีคิวแข่งวันพรุ่งนี้ถึง 10 คะแนน
   
    รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

        ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, นาบี เกอิต้า - เซอร์ดาน ชากิรี่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์

    สำรอง : ซิมง มิโญเลต์, เนธาเนียล ไคลน์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า, อดัม ลัลลาน่า, ดิว็อก โอริกี้, แดเนียล สเตอร์ริดจ์
 
       ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

        อาร์เซน่อล (4-3-1-2) : แบรนด์ เลโน่ - สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์, โซคราติส ปาปัสทาโธปูลอส, ชโคดราน มุสตาฟี่, เซนัด โคลาซินัช - ลูคัส ตอร์ไรร่า, กรานิต ชาคา - ไอน์สลี่ย์ เม็ตแลนด์-ไนลส์, อารอน แรมซี่ย์, อเล็กซ์ อิโวบี้ - ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง

    สำรอง : ปีเตอร์ เช็ก, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, มัตเตโอ เกนดูซี่, โจ วิลล็อค, บูกาโย่ ซาก้า, อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์