เคลาดิโอ รานิเอรี่ ผู้จัดการทีมเลือดมะกะโรนี กล่าวขอบคุณทุกๆ คนในสโมสรฟูแล่ม หลังจากที่เขาเพิ่งกลายเป็นกุนซือว่างงาน หลังโดนต้นสังกัดอัปเปหิออกจากสโมสร เพื่อเป็นการเซ่นผลงานที่สุดย่ำแย่จนทีมอยู่ในโซนตกชั้น
               เคลาดิโอ รานิเอรี่ กุนซือชาวอิตาเลียน เปิดใจครั้งแรกหลังจากโดน "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม สั่งปลดกลางอากาศ เนื่องจากทำผลงานได้น่าผิดหวังตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยตอนนี้สโมสรรั้งอยู่อันดับรองบ๊วย เสี่ยงต่อการตกชั้นในฤดูกาลนี้

               นายใหญ่เลือดมะกะโรนี ได้รับการแต่งตั้งคุม ฟูแล่ม แทน สลาวิซ่า โยคาโนวิช เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ปีก่อน และพาทีมคว้าชัยได้ทันทีในเกมที่เชือด เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2 ในอีก 10 วันต่อมา แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวพา ฟูแล่ม เก็บชัยได้แค่ 2 จาก 16 เกม แถมยังถูก โอลด์แฮม เขี่ยตกรอบ เอฟเอ คัพ ด้วย

               ด้วยผลงานที่ย่ำแย่ดังกล่าวทำให้ล่าสุด ฟูแล่ม จัดการเด้ง กุนซือวัย 67 ปี ที่เคยพา "เดอะ ฟ็อกซ์" เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เมื่อซีซั่น 2015-16 พ้นตำแหน่งเรียบร้อย หลังจากที่สโมสรจมอยู่ที่อันดับ 19 และมีคะแนนห่างจากโซนปลอดภัยถึง 10 แต้ม

                แถลงการณ์ของ รานิเอรี่ หลังจากโดนปลดออกจากตำแหน่ง ระบุว่า "แน่นอนว่าผมรู้สึกผิดหวังกับผลการแข่งขันในช่วงที่ผ่านมา และเราไม่สามารถสร้างผลงานในช่วงเริ่มต้นได้ดีนับตั้งแต่ผมได้รับการแต่งตั้ง สุดท้ายนี้ผมอยากขอบคุณสโมสร, นักเตะ และแฟนบอลสำหรับการสนับสนุนจากพวกเขาที่มีให้กับผมในช่วงเวลาที่ได้อยู่กับสโมสร"

    ผลงานเด็ดที่ทำ รานิเอรี่ โดน ฟูแล่ม ไล่ออก

14 พ.ย. 2018 - รานิเอรี่ เข้ามาคุมทีมแทน สลาวิซ่า โยคาโนวิช

24 พ.ย. 2018 - เริ่มคุมทีมด้วยการชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2

2 ธ.ค. 2018 - แพ้เกมเยือน เชลซี 0-2

29 ธ.ค. 2018 - ยุติผลงาน 6 เกมที่ไร้ชัยชนะ ด้วยการเฉือน ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 1-0

6 ม.ค. 2019 - โดน โอลด์แฮม ทีมจากลีก ทู เขี่ยตกรอบ 3 ศึกเอฟเอ คัพ

27 ก.พ. 2019 - ฟูแล่ม แพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-2 ที่เซนต์ แมรี่ส์ ทำให้พวกเขาแพ้ 4 เกมติดต่อกัน นับตั้งแต่ที่ชนะ ไบรท์ตันฯ 4-2

28 ก.พ. 2019 - รานิเอรี่ โดนไล่ออกเนื่องจากทีมอยู่ในโซนตกชั้นและมีแต้มห่างโซนปลอดภัยถึง 10 คะแนน