อโยเซ่ เปเรซ เหมาสองเม็ดพา "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" ไล่ถลุงเอาชนะ เวสต์แฮม 4-1 แต่ข่าวร้ายคือทีมต้องเสีย เจมี่ วาร์ดี้ ที่มีอาการเจ็บตอนท้ายครึ่งแรก ส่งผลให้ เลสเตอร์ มีเพิ่มเป็น 48 คะแนนรั้งอันดับ 3 ต่อไป ส่วนเวสต์แฮม อยู่ที่ 17 มี 23 แต้มเท่ากับโซนตกชั้น ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

    เกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 24 ประจำวันพุธที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 3 ฟอร์มล่าสุดบุกไปพ่าย เบิร์นลี่ย์ 1-2 เปิด คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 17 ของตาราง ซึ่งฟอร์มล่าสุดของ "ขุนค้อน" ทำได้แค่เจ๊ากับ เอฟเวอร์ตัน ในบ้านมา 1-1

    ออกสตาร์ทเกมมาได้แค่ 3 นาที เจ้าถิ่นได้ทักทายก่อนเลย ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ หักเข้ากลางมาถึง เจมี่ วาร์ดี้ แหวกเข้าไปยิงด้วยซ้ายแต่บอลไปตรงตัว ดาร์เรน แรนดอล์ฟ รับไว้ได้

    นาที 15 "ขุนค้อน" เปิดเตะมุมเข้ามา คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล ออกมาชกบอลไม่ดี แอรอรน เครสส์เวลล์ สอดมาโขกบอลหลุดกรอบไปแบบได้เสียว

    "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" มาพังประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ ในนาที 24 จากจังหวะที่  ริคาร์โด้ เปเรยร่า หลุดเข้าไปปาดเลียดไปหน้ากรอบ 6 หลาให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ที่ยืนตำแหน่งไม่ล้ำหน้าซัดด้วยซ้ายเข้าไป

    กระนั้น เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือเจ้าถิ่นต้องเปลี่ยนตัวเร็วทันทีหลัง น็อมปาลิส เมนดี้ มีอาการเจ็บเข่าเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ที่เพิ่งหายเจ็บลงไปเล่นแทน

    ข่าวร้ายของเลสเตอร์อีก เมื่อ นาที 41 ทีมต้องเสีย เจมี่ วาร์ดี้ อีกคนหลังสกัดบอลจากแดนตัวเองแล้วมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริง หรือกล้ามเนื้อหลังต้นขา ซึ่งแม้เจ้าตัวจะลุกขึ้นมาเล่นได้แต่ก็ไม่ไหวจนต้องเปลี่ยนออกแล้วส่ง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ลงเล่นแทน

    เกมทดเจ็บยาวจนถึงนาทีที่ 45+5 เจ้าถิ่นมาได้ประตูที่สองนำห่าง จากจังหวะที่ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ หลุดขึ้นทางซ้ายก่อนกระชากเข้าไปในกรอบแล้วบรรจงจ่ายเลียดมาเสาสองให้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า วิ่งมาอัดด้วยขวาเต็มข้อส่งบอลตุงตาข่าย จบครึ่งแรก เลสเตอร์ นำเวสต์แฮม 2-0

    ครึ่งหลัง เดวิด มอยส์ เปลี่ยนรวดเดียวสองคนถอดเอา โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ และอาร์ตูร์ มาซูอากู ออกแล้วส่ง มิคาอิล อันโตนิโอ และปาโบล ฟอร์นัลส์ ลงไปเล่นแทน

    นาที 48 ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษแก่ทีมเยือน หลัง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ไปกระแทกใส่ เซบาสเตียง อัลแลร์ และหลังจากเช็ก VAR แล้วยืนยันให้เป็นจุดโทษก่อนที่ มาร์ก โนเบิ้ล จะยิงกลางประตูเข้าให้ เวสต์แอม ตีไข่แตกไล่เจ้าถิ่นมา 1-2

    นาที 54 เบน ชิลเวลล์ พาบอลตะลุยเดี่ยวขึ้นมาเองก่อนป้ายออกซ้ายให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ตักไปเสาไกลบอลโดนเคลียร์มาเข้าทาง ยุริ ตีเลมันน์ วอลเลย์ด้วยขวาพุ่งเฉียดเสาออกไปหวุดหวิด

    นาที 70 ทัพจิ้งจอกพลาดได้ประตูนำห่าง หลัง ริคาร์โด้ เปเรยร่า ครอสเลียดมาให้ อาโยเซ่ เปเรซ วิ่งมายิงด้วยขวาแต่ยังโดน ดาร์เรน แรนดอล์ฟ ทุบบอลออกไปได้

    นาทีที่ 80 เจ้าบ้านมาได้ลูกจุดโทษบ้างหลัง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ โดน อันเจโล่ อ็อกบอนน่า รวบล้มในเขตโทษผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ อาโยเซ่ เปเรซ จะซัดเข้าไปไม่พลาดให้ เลสเตอร์ นำห่าง 3-1

    นาที 88 เจ้าถิ่นทะยานนำโด่งเป็น 4-1 หลัง อิเฮียนาโช่ พักบอลให้ อโยเซ่ เปเรซ กดด้วยขวาหน้ากรอบเข้าไปอย่างเด็ดขาด และเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้

    ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบการแข่งขัน เลสเตอร์ เปิดบ้านไล่ถลุง เวสต์แฮม 4-1 คว้าสามแต้มได้สำเร็จ พร้อมยึดอันดับ 3 ต่อไปมี 48 คะแนน ส่วน "ขุนค้อน" อยู่อันดับ 17 มี 23 คะแนนเท่ากับ บอร์นมัธ และวัตฟอร์ด ทีมโซนตกชั้น แต่เวสต์แฮมแข่งน้อยกว่า 1 นัด

        รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
   
        เลสเตอร์ (4-1-4-1) : คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, จอนนี่ อีแวนส์, ซากลาร์ โซยุนชู, เบน ชิลเวลล์ - น็อมปาลิส เมนดี้ - อโยเซ่ เปเรซ, ยูริ ตีเลมันส์, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ - เจมี่ วาร์ดี้ 

        ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

        เวสต์แฮม (4-4-1-1) : ดาร์เรน แรนดอล์ฟ - ปาโบล ซาบาเลต้า, อิสซ่า ดิย็อป, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, แอรอน เครสส์เวลล์ - โรเบิร์ต สน็อดกราสส์, ดีแคลน ไรซ์, มาร์ค โนเบิ้ล, อาร์ตูร์ มาซูอากู - มานูเอล ลันซินี่ - เซบาสเตียง อัลแลร์

        ผู้จัดการทีม : เดวิด มอยส์

        ผู้ตัดสิน : เดวิด คู๊ท