เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ระบุ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ผิดเลยที่แห้ว เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ เพราะตอนนั้นแข้งชาวนอร์เวย์อยากย้ายไปอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ เป็นหลักอยู่แล้ว จากการที่สถานการณ์ทุกอย่างของ "เสือเหลือง" มันลงตัวกับเขา
    เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่ามันไม่ใช่ความผิดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่อริร่วมลีกแต่อย่างใด ที่ไม่ได้ตัว เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ กองหน้าดาวรุ่งไปร่วมทัพ ในตลาดซื้อ-ขายนักเตะ รอบ 2
    ในตอนที่ ฮาแลนด์ ยังอยู่กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก นั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เคยถูกมองว่าเป็นตัวเต็งลำดับต้นๆ ที่จะได้แข้งวัย 19 ปีไปเสริมแกร่ง หลังจากที่ ฮาแลนด์ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม "ปีศาจแดง" จากการที่ทั้งคู่เคยร่วมงานกันที่ โมลด์ โดยช่วงนั้น ฮาแลนด์ ยังมีข่าวกับ ลิเวอร์พูล ด้วย แต่กระแสข่าวมันก็ไม่รุนแรงเท่ากับของ แมนฯ ยูไนเต็ด

    สุดท้ายดาวเตะชาวนอร์เวย์ก็เลือกย้ายไปอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และมันก็ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนกูรูบางคนตำหนิอย่างหนักว่าไม่จริงจังกับการล่าตัว ฮาแลนด์ จนทำให้พลาดเพชรเม็ดงามไป หลังจากตอนนี้ ฮาแลนด์ ทำประตูให้กับ "เสือเหลือง" ไปแล้วถึง 12 ลูก จากการลงเล่น 8 นัดในทุกรายการ
    คล็อปป์ เผยว่า "ทุกคนเอาแต่โทษว่ามันเป็นความผิดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ไม่ได้เขาไปร่วมทัพ แต่เราเองก็ดึงเขามาร่วมทีมไม่ได้เหมือนกันนะ เราก็แห้วเขาเหมือนกัน สาเหตุที่เขาย้ายไป ดอร์ทมุนด์ มันก็เป็นเรื่องง่ายๆ นั่นคือเขาอยากลงเล่นให้ทีมชั้นนำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นหมายความว่ามันต้องเป็นทีมที่มีพื้นที่ว่าง (ในตำแหน่งกองหน้า) และทีมที่เข้าข่ายนั้นก็คือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์"
    "มันเป็นเรื่องของช่วงเวลา (ว่าตอนนั้นทีมไหนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ ฮาแลนด์ ต้องการ) ผมหวังว่าพวกคุณจะรู้ดีว่าผมน่ะรักและเคารพคนของ ดอร์ทมุนด์ อย่างมาก แต่ที่พวกเขาได้เขาไปร่วมทีมมันไม่ใช่ว่าพวกเขายื่นข้อเสนอทื่ดีระดับสมบูรณ์แบบให้เขา มันเป็นเพราะสถานการณ์ของทีมมันเข้ากับที่อีกฝ่ายต้องการพอดี ไม่ว่าจะเป็นการมีที่ว่างในแดนหน้า และการที่ทีมกำลังขาดนักเตะประเภทหมายเลข 9 อยู่ ลองคิดดูสิ คุณเป็นนักเตะอายุ 19 ปี อยากเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก, อยากเล่นให้ทีมชั้นนำของ บุนเดสลีกา ดังนั้นมันก็ต้องเลือกทีมนี้ ผมมั่นใจเลยว่าทีมอื่นๆ ไม่มีโอกาสที่จะได้เขาไปร่วมทีม ไม่ว่าทีมเหล่านั้นจะพูดยังไงก็ตาม"