ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เมื่อถึงวันต้องอำลา ! 3 ตัวเลือกเด็ดเหมาะสืบทอดงาน คล็อปป์

เมื่อถึงวันต้องอำลา ! 3 ตัวเลือกเด็ดเหมาะสืบทอดงาน คล็อปป์

Posted 20/03/2020 by siamsport

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา ! นี่คือวลีที่แฟนบอลลิเวอร์พูล ต้องจำให้ขึ้นใจเพราะเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ก็คงต้องลงจากบัลลังก์นายใหญ่ "หงส์แดง" และนั่นคือสิ่งที่สโมสรต้องเตรียมความพร้อมตั้งแต่เนินๆ เมื่อเวลาดังกล่าวมาถึง


    คล็อปป์ สร้างปรากฎการณ์มากมายนับตั้งแต่ที่เข้ามากุมบังเหียน "เดอะ เร้ดส์" ช่วงเดือนตุลาคม 2015 โดยเขาค่อยๆ พัฒนาสโมสรให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมาสำฤทธิ์ผลด้วยการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และตอนนี้ก็กำลังจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนี้

    แน่นอนว่า คล็อปป์ ยังคงอยู่กับสโมสรต่อไปอย่างน้อยก็จนกระทั่งสัญญาปัจจุบันหมดลง แต่สิ่งที่บอร์ดบริหารจำเป็นต้องคิดตั้งแต่ตอนนี้ก็คือใครที่จะเข้ามาสืบทอดตำแหน่งของเขา เพราะคนๆ นั้นต้องพร้อมสานต่องานของคล็อปป์ ในการสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับทีมต่อไปอีกหลายๆ ปี

    อย่าลืมว่าการไม่เตรียมความพร้อมอาจจะนำมาสู่การล้มสลาย เหมือนที่ ลิเวอร์พูล ต้องเจอมาแล้วเมื่อครั้งที่ เซอร์เคนนี่ ดัลกลิช โบกมือลาถิ่นแอนฟิลด์ในปี 1991 หรือ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เกษียณตัวเองจากคุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2013 ซึ่งทั้งสองกรณีนี้บ่งบอกให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการไม่เตรียมหาทายาทที่เหมาะสมมาสืบทอดตำแหน่ง.....

    มีสิทธิ์ทำให้ทีมตกต่ำนานหลายสิบปี ........

สตีเว่น เจอร์ราร์ด


    ในฐานะตำนานกัปตันทีมลิเวอร์พูล แน่นอนว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด ย่อมได้รับการตอบรับจากสาวก "เดอะ ค็อป" ทั่วโลก หากเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นทายาท คล็อปป์ ในอนาคต เพราะนี่คือผู้เล่นลูกหม้อของสโมสร ที่ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในการค้าแข้งในสีเสื้อ "เดอะ เร้ดส์"

    "สตีวี่จี" ประสบความสำเร็จแทบทุกอย่างกับ ลิเวอร์พูล โดยเขาขาดแค่แชมป์พรีเมียร์ลีก เท่านั้น ส่วนไฮไลท์ที่สำคัญก็คงหนีไม่พ้นการนำทัพ "หงส์แดง" สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2005 หลังชนะการดวลจุดโทษ "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน

    หลังจากอิ่มตัวกับ ลิเวอร์พูล เขาก็ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้ แอลเอ แกแล็กซี่ และจากนั้นก็แขวนเกือกแต่ก็ยังไม่ทิ้งวงการลูกหนังเมื่อกลับมารับตำแหน่งโค้ชเยาวชน "หงส์แดง" โดยผลงานของ เจอร์ราร์ด ถือว่าเข้าตา คล็อปป์ พอสมควร และได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่คุม "หงส์จูเนียร์" รุ่น ยู-18

    สำหรับในศึกยูฟ่า ยูธ ลีก ฤดูกาล 2017/18 "สตีวี่จี" ถูกดันขึ้นไปคุมทีมระดับยู-19 ก่อนที่เขาจะตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการตอบรับทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมเรนเจอร์ส ยักษ์หลับแห่งศึกสกอตติช พรีเมียร์ลีก พร้อมเซ็นสัญญากับ "เดอะ ไลท์บูลส์" เป็นเวลา 4 ปี

    เจอร์ราร์ด ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควรในการทำงานให้ เรนเจอร์ส โดยสร้างสถิตไร้พ่ายเป็นเกมที่ 12 ติดต่อกันจากทุกรายการที่สโมสรลงสนาม และเป้าหมายของเขาก็คือนำสโมสรก้าวขึ้นมาเทียบเคียงกับ กลาสโกว์ เซลติก ทีมคู่อริตลอดกาลลีกวิสกี้
   
ยูเลียน นาเกิลส์มันน์


    ด้วยวัยแค่ 28 ปี นาเกิลส์มันน์ ก้าวขึ้นมาเป็นเทรนเนอร์ให้กับสโมสรฮอฟเฟนไฮม์ ซึ่งตอนนี้เขาคือกุนซือที่อายุน้อยที่สุดที่ทำหน้าที่กุมบังเหียนสโมสรลงเล่นในศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี โดยในเวลานั้นถือว่าเรียกเสียงฮือฮาให้กับคอลูกหนังเมืองเบียร์อย่างมาก

    แรกเริ่มเดิมที นาเกิลส์มันน์ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยโค้ชอยู่นั้น ทิม วีเซ่ (อดีตผู้รักษาประตูฮอฟเฟนไฮม์) ตั้งฉายาให้เขาว่า "เบบี้มูรินโญ" เนื่องจากมีความสามารถในการวางแท็กติกได้อย่างเฉียบคม เหมือนกับ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุกีส

    ความสามารถของเขาทำให้บอร์ดบริหารฮอฟเฟนไฮม์ ตัดสินใจแต่งตั้ง นาเกิลส์มันน์ ทำหน้าที่สืบทอดตตำแหน่งนายใหญ่สโมสรแทนที่ ฮุบ สตีเว่นส์ กุนซือชาวฮอลแลนด์เมื่อปี 2016 โดยตอนนั้นเขานำทีมรั้งอันดับ 17 ในตารางลีกสูงสุดลูกหนังด๊อยท์ช และเกือบตกชั้น ก่อนที่จะเก็บชัยชนะ 7 จาก 14 แมตช์สุดท้ายทำให้อยู่รอดปลอดภัย

    ในฤดูกาล  2016–17 นาเกิลส์มันน์ นำ ฮอฟเฟนไฮม์ สร้างเรื่องสุดเหลือเชื่อด้วยการหักปากกาเซียนเมื่อนำสโมสรติดอันดับท็อปโฟร์ ทำให้พวกเขาได้เข้าไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสรเลยทีเดียว

    แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาเมื่อ นาเกิลส์มันน์ ตัดสินใจอำลาสโมสรในปี 2019 และหันไปรับงานกุมบังเหียน แอร์เบ ไลป์ซิก และก็ยังคงโชว์กึ๋นได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับตอนนี้เขาอายุ 32 ปีแล้ว และกลายเป็นกุนซือที่อายุน้อยที่สุดที่คว้าชัยชนะในรอบน็อกเอาต์ถ้วย "บิ๊กเอียร์" หลังเขี่ย สเปอร์ส ของ "เฮียมู" ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
 
เปปิน ลินเดอร์ส


    ลินเดอร์ส ทำงานใกล้ชิดกับ คล็อปป์ เมื่อเขาเป็นผู้ช่วยของนายใหญ่ชาวเยอรมัน ที่แอนฟิลด์ โดย ลินเดอร์ส เข้ามารับงานให้กับ "หงส์แดง" ตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งในเวลานั้นเขายังร่วมงานอยู่กับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ชาวไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งปัจจุบันคุมเลสเตอร์ ซิตี้

    ก่อนที่จะมาทำงานให้ ลิเวอร์พูล เจ้าตัวก็เคยได้เป็นกุนซือให้กับเอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น และการออกจากทีมของเซลจ์โก้ บูวัช อดีตผู้ช่วยผู้จัดการทีม คล็อปป์ไม่รอช้าที่จะรีบดึง ลินเดอร์ส เข้ามาทดแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ เพราะมองเห็นแววว่าชายคนนี้มีคุณสมบัติที่เหมาะสม

    สไตล์การทำงานของ ลินเดอร์ส มีส่วนละม้ายคล้ายกับ คล็อปป์ ซึ่งเป็นคนที่ทำทีมเน้นเกมบุกเป็นหลัก โดยย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 โค้ชชาวดัตช์ เคยแสดงมุมมองเรื่องสไตล์การเล่นฟุตบอลของเขาได้ถูกอกถูกใจสาวก "เดอะ ค็อป" อย่างมากว่า "สไตล์ของเราคือการเล่นเกมบุก ทั้งเวลาที่มีและไม่มีบอล"

    ช่วงที่ผ่านมาหน้าที่ของ ลินเดอร์ส คือออกแบบการฝึกซ้อม ซึ่งเขาจะลงไปคลุกคลีกับผู้เล่น เก็บรายละเอียดทุกอย่างในสนาม โดยที่ คล็อปป์ เป็นคนมองภาพรวม

นอกจากนี้ ลินเดอร์ส คือคนที่ปลุกปั้น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จนเป็นตัวหลักของทีม และเป็นคนคอยให้คำแนะนำแก่ คล็อปป์ ว่าใครเหมาะสมที่จะได้รับการโปรโมตขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ หรือใครที่ควรออกไปหาประสบการณ์ก่อนเพื่อพัฒนาตัวเอง
 
     ณ ตอนนี้ 3 ตัวเลือกดังกล่าวถือว่าโดดเด่นมากๆ และมีโอกาสที่จะเป็นทายาทของ คล็อปป์ แต่ในอนาคตอาจจะมีตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจ ฉะนั้นสิ่งสำคัญก็คือการมองหาผู้สืบทอดคนใหม่ที่เหมาะสมตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เมื่อเวลาแห่งการจากลามาถึง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »