โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมนำทัพ "ปีศาจแดง" รับมือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ โดยแมตช์นี้อาจมีเซอร์ไพรส์ได้เห็น อาหมัด ดิยัลโล่ ลงสนามก็ได้
         
แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งพลาดท่าทำแต้มหลุดมือในแมตช์เสมอ เอฟเวอร์ตัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากที่เกมรับของพวกเขาดันเล่นสะเปะสะปะจนเป็นเหตุให้เสียประตูแบบไม่น่าเสีย ส่งผลให้ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงถึง 5 แต้มแถมแข่งมากว่า 1 นัดด้วย

สำหรับเกมฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ที่สุดในโลก ถือเป็นโอกาสดีที่ โซลชา จะได้นำทีมเรียกสติกลับมาเก็บชัยชนะอีกครั้ง ที่สำคัญโทรฟี่ใบนี้อาจจะเป็นรายการที่พวกเขามีลุ้นคว้าแชมป์แรกภายใต้การกุมบังเหียนของกุนซือชาวนอร์เวย์ ก็ได้

 1. พลังแดนกลางขาดหายเมื่อไร้ป็อกบา
ข่าวร้ายสำหรับแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงหนีไม่พ้นการที่พวกเขาจะไม่ได้เห็น ปอล ป็อกบา ช่วยปั้นเกมแดนกลางไปอีก 2-3 สัปดาห์ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บต้นขา ในเกมที่เสมอ เอฟเวอร์ตัน แบบสุดมัน 3-3 เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ต้องบอกว่านี่คือปัญหาใหญ่สำหรับ "ปีศาจแดง" ที่ไม่มี ป็อกบา บัญชาเกมแดนกลาง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพลังการขับเคลื่อนของพวกเขาขาดหายไปทันที หลังจากที่ ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ ได้รับบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งแรก

แน่นอนว่าแมตช์นี้ โซลชา คงจะใช้งาน สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด เพื่อให้แผงมิดฟิลด์ "ปีศาจแดง" มีความเหนียวแน่น เพราะทั้งสองคนนี้เวลาที่ได้เล่นร่วมกันก็มักจะทำผลงานได้ดี แต่สิ่งที่ขาดไปก็คือความคงเส้นคงวา ซึ่งอาจจะมีผลอย่างมากในแมตช์รับมือเวสต์แฮม

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ "แม็คโท" กับ ดาวเตะชาวบราซิเลียน มักจะทำได้อย่างโดดเด่นก็คือความขยันในการไล่บี้คู่แข่งไม่ให้มีเวลาได้เล่นบอลมากนัก รวมทั้งการช่วยเกมรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นจุดที่จะทำให้แดนกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เปรียบทีมเยือน

 2. โอกาสที่ ดิยัลโล่ จะได้ฉายแสงกับชุดใหญ่
สาวก "เร้ด อาร์มี่" จำนวนมากอยากเห็นฝีเท้าของ อาหมัด ดิยัลโล่ ปีกชาวไอวอรี่ โคสต์ ที่ทำผลงานได้โดดเด่นเหลือเกินกับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และงานนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมที่ "น้าลูกอม" อาจจะให้เขาได้ลงสนามกับทีมชุดใหญ่

ดิยัลโล่ ย้ายมาสวมเสื้อ "ผีแดง" อย่างเป็นทางการเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่เซ็นสัญญาตั้งแต่ซัมเมอร์ก่อนจะส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ อตาลันต้า โดยผลงานของ ดาวเตะวัย 18 ปีได้รับการกล่าวขวัญอย่างมากในช่วงที่เล่นให้ทัพลูกกรอกคะนองรุ่นยู-23

 ปีกชาวไอวอรี่โคสต์ ซึ่งเคยลงฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ และโชว์ทักษะได้อย่างสุดยอด มีโอกาสลงประเดิมสนามให้กับสโมสรในเกม "แดงเดือด" รุ่นยู 23 พบ ลิเวอร์พูล และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวัง หลังทำประตูได้ 2 ประตูชนะ "หงส์แดงจูเนียร์" 6-3 จากนั้นก็ยังฟอร์มโหดต่อเนื่องด้วยการซัด 3 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ ในแมตช์ถลุง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 6-4

ด้วยฟอร์มที่กำลังฮอตสุดขีดจึงเป็นโอกาสดีเยี่ยมที่ โซลชา จะรีบตีเหล็กต้องร้อนๆ ด้วยการจับเขาลงไปอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง เพื่อจะได้ซึมซับบรรยากาศ และอาจจะส่งลงสนามเพื่อให้นักเตะได้ประสบการณ์ในการเล่นทีมชุดใหญ่

3. โอกาสทอง เฮนเดอร์สัน ที่จะยึดมือ 1
ในช่วงที่ผ่านมา ดาบิด เด เคอา กลายเป็นเป้าถูกแฟนบอลทีมตัวเองตำหนิมาตลอด เนื่องจาก นายทวารทีมชาติสเปน มักจะทำผิดพลาดจนส่งผลเสียต่อทีมหลายครั้ง ล่าสุดก็พลาดในเกมลีก เสมอ เอฟเวอร์ตัน และมีการเรียกร้องให้ โซลชา ดร็อปเขา พร้อมมอบโอกาสให้กับ ดีน เฮนเดอร์สัน ทำหน้าที่เฝ้าเสาตัวจริง

แน่นอนว่า นายใหญ่ชาวนอร์เวย์ ไม่ได้บ้าจี้ไปกับสาวก "กองทัพแดง" แต่ที่เขาเลือกใช้งาน เฮนเดอร์สัน ในเกมรับมือทัพ "ขุนค้อน" เพราะต้องการให้ เด เคอา ได้พักทั้งร่างกาย และจิตใจ เพื่อที่จะได้มีเวลาทบทวนสิ่งที่ผิดพลาด และจัดการแก้ไข

 แต่สำหรับ เฮนเดอร์สัน นี่คืออีกหนึ่งโอกาสทองที่เขาจะต้องฉกฉวยเอาไว้ให้ได้ เพราะหากผลงานของเจ้าตัวโดดเด่นในแมตช์นี้ยิ่งทำให้แฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด เรียกร้องให้ โซลชา จับเขาทำหน้าที่เป็นมือ 1 แทน เด เคอา

ฉะนั้นฟอร์มในแมตช์ปะทะกับ เวสต์แฮม อาจจะเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ นายใหญ่ชาวนอร์เวย์ อาจจะต้องทบทวนเรื่องมือ 1 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใหม่ แม้ในซีซั่นนี้อาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ฤดูกาลหน้า เด เคอา มีสิทธิ์โดนจับนั่งสำรองแหงๆ เพราะ โซลชา เปรยออกมาแล้วว่า หากยังพลาดบ่อยๆ แบบนี้ เขาอาจจะต้องจัดการอะไรซักอย่างเพื่อให้ทีมแข็งแกร่งที่สุด
 
4. แนวรับแก้ตัวจากเกมเสมอ เอฟเวอร์ตัน
นอกจากสถานการณ์ของผู้รักษาประตูที่น่าเป็นห่วงแล้ว ตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กก็ยังเป็นอีกจุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาแม้ว่าหลายคนจะมองว่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ คือตัวหลักของทีม แต่จริงๆ แล้วเขาก็เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้ไม่โดดเด่นนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ "ปีศาจแดง"

 เกมล่าสุด แม็กไกวร์ ก็ถูกตำหนิพอสมควรจะฟอร์มการเล่นที่น่าผิดหวังโดยเฉพาะในครึ่งหลัง แต่นั่นอาจจะมีสาเหตุมาจากการที่เขาขาดคู่หูเซนเตอร์แบ็กชั้นยอด เพราะทั้ง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ เอริก ไบยี่ ยังไม่ใช่กองหลังที่เล่นได้เข้าขากับดาวเตะทีมชาติอังกฤษ

ส่วนตำแหน่งฟูลแบ็กตอนนี้บอกเลยว่าทั้ง อารอน วาน-บิสซาก้า และ ลุค ชอว์ กำลังฟอร์มเข้าฝัก ทั้งคู่เล่นได้อย่างเข้าขา หาก โซลชา ไม่คิดเรื่องการพักนักเตะ คงได้เห็นทั้งสองคนลงสนาม แต่ก็ไม่แน่เพราะการที่มีโปรแกรมถี่ยิบแบบนี้ "น้าลูกอม" อาจเลือกพัก ชอว์ แล้วให้ อเล็กซ์ เตลลิส ลงสนามก็ได้

5. เกมรุกพิฆาตค้อน
จุดเด่นที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เป็นสองรองใครในพรีเมียร์ลีกก็คือแนวรุกของพวกเขา แน่นอนว่า โซลชา คงจัดชุดใหญ่เต็มสูบ เพื่อหวังที่จะนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศ ฟุตบอลถ้วยน็อกเอาต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

บรูโน่ แฟร์นันด์ส ทำหน้าที่เป็นจอมทัพ โดยมี มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ เมสัน กรีนวู้ด ขนาบซ้ายขวาในการเล่นเกมบุก ส่วนหน้าเป้า โซลชา ยังคงไว้วางใจความเฉียบคมของ เอดินสัน คาวานี่ ขณะที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ต้องทำหน้าที่เป็นยางอะไหล่ไปอีกแมตช์

กระนั้นก็ไม่แน่ว่า "น้องหมาก" อาจจะได้รับโอกาสก็ได้เพราะจากสถิติของเขาในยามทีมเจอกับ เวสต์แฮม มักจะมีส่วนกับประตูถึง  9 ลูกจาก 10 เกมที่ดวล "เดอะ แฮมเมอร์ส" ในทุกรายการ (6 ประตูกับ 3 แอสซิสต์) แต่ 4 เกมหลังสุดที่เจอกันเจ้าตัวยิงไม่ได้เลย !

สำหรับสิ่งที่น่าเสียดายในแมตช์นี้ก็คือ เจสซี่ ลินการ์ด หมดสิทธิ์ลงเล่นในการกลับมาเยือนถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เนื่องจากเงื่อนไขในสัญญายืมตัวไม่ให้เขาลงสนามพบกับต้นสังกัดแม่ แหมถ้างานนี้ ลินการ์ด ได้ลงสนามและยิงประตูได้คงเป็นดราม่าที่เพอร์เฟกต์ที่สุด