"จิ้งจอกสยาม" คว้าสามแต้มได้สำเร็จหลังบุกไปแซงเอาชนะ ไบรท์ตัน 2-1 ดาเนี่ยล อมาร์ตีย์ โขกประตูชัยให้ทีมคว้าสามแต้มในช่วงท้ายเกม ทำให้แซง "ผีแดง" สองคะแนนขึ้นรองจ่าฝูงชั่วคราวมี 53 คะแนน ส่วนไบรท์ตันต้องหนีโซนท้ายตารางต่อไปหลังมี 26 คะแนนอยู่อันดับ 16 มีแต้มมากกว่าโซนตกชั้นแค่ 3 คะแนน

สนาม : เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม

    เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายประจำคืนวันเสาร์ที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่าง ไบรท์ตัน ซึ่งก่อนแข่งอยู่อันดับ 16 พบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 3 โดยฟอร์มล่าสุดของทั้งสองทีมนั้น "นกนางนวล" เจ้าถิ่นไม่ชนะมา 4 เกมติดในลีกล่าสุดบุกไปพ่าย เวสต์บรอมวิช 0-1 ส่วน "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" บุกไปเจ๊า เบิร์นลี่ย์ 1-1 ซึ่งเกมนี้หาก เลสเตอร์ บุกมาคว้าชัยจะแซง แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นรองจ่าฝูงก่อน

    เกรแฮม พ็อตเตอร์ บอสใหญ่ของ ไบรท์ตัน ยังใช้ชุดเดิมเป็นแกนหลัก แดนหน้าได้ นีล โมเปย์ กลับมาลงตัวจริง โดยมี อดัม ลัลลาน่า และเลอันโดร ทรอสซาร์ ปั้นเกมรุกสนับสนุน
   
    ส่วนทางฝั่ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ปวดหัวกับปัญหาผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บ เกมนี้ส่ง ซิดเนย์ ตาวาเรส เด็กปั้นของทีมออกสตาร์ทตัวจริงในลีกเป็นเกมแรก โดยจะทำเกมรุกร่วมกับ ยูริ ตีเลมันส์ โดยมีคู่หน้าเป็น เจมี่ วาร์ดี้ และเคเลชี่ อิเฮียนาโช่

    ครึ่งแรก นาที 11 ไบรท์ตัน มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ นีล โมเปย์ เก็บบอลได้ก่อนพาขึ้นมาแล้วแทงบอลทะลุให้ อดัม ลัลลาน่า หลุดขึ้นมาก่อนยิงผ่านตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เสียบเสาแรกเข้าไป เป็นประตูแรกในลีกของอดีตห้องเครื่องหงส์แดงในซีซั่นนี้

    นาที 18 เป็นโอกาสยิงเข้ากรอบหนแรกของ เลสเตอร์ หลัง เวสลี่ย์ โฟฟาน่า แทงบอลให้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ซัดด้วยขวาแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ โรเบิร์ต ซานเชซ

    นาที 36 "จิ้งจอกสยาม" เกือบได้ประตูตีเสมอ หลัง เจมี่ วาร์ดี้ โขกชงบอลย้อนหลังมาให้ ซิดเนย์ ตาวาเรส ไอ้หนูวัย 19 ปี วิ่งมาซัดเต็มข้อบอลพุ่งจะเข้าอยู่แล้วแต่ โรเบิร์ต ซานเชซ ยังเหนียวปัดมือเดียวออกหลัง

    นาที 40 เจ้าบ้านนกนางนวลชวดได้ประตูที่่สองนำห่าง หลัง ปาสกาล กรอส เปิดฟรีคิกมาเสาแรกให้ อดัม ลัลลาน่า สะบัดโขกบอลตกพื้นหนีมือ ชไมเคิ่ลไปแล้วแต่ไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

    นาที 44 นีล โมเปย์ ส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินปฎิเสธเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน
   
    จบครึ่งแรก ไบรท์ตัน ขึ้นนำ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0

    กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 53 ทิโมธี คาสตานเญ่ ได้โอกาสแทงบอลเร็วให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดด้วยซ้ายแต่บอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายแค่ได้เสียว

    อีกสามนาทีถัดมา ไบรท์ตัน ได้สวนกลับขึ้นมาและเกือบได้ลุ้นเม็ดที่สองนำห่างหลัง ลัลลาน่า แทงบอลให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ หลุดไปซัดมุมแคบแต่บอลเหินหลุดกรอบออกไปแบบหมดลุ้น ทว่าผู้ตัดสินเป่าย้อนหลังเป็นจังหวะที่ ลัลลาน่า แฮนด์ไปก่อนแล้ว

    นาที 62 เลสเตอร์ ซิตี้ มาไล่ตีเสมอเจ้าถิ่น 1-1 ได้สำเร็จจากจังหวะที่ ยูริ ตีเลมันส์ จ่ายแบบ "โนลุคพาส" ทะลุช่องให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปก่อนจะซัดบอลผ่าน โรเบิร์ต ซานเชซ เข้าไปอย่างเหนือชั้น

    นาที 86 ไบรท์ตัน หวิดทำเสียจุดโทษหลัง แดน เบิร์น ไปเข้าช้าสกัดใส่่เจมี่ วาร์ดี้ แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไรหลังคุยกับทีมวีเออาร์แล้วให้เล่นต่อไป

    แต่แล้ว นาที 88 กลายเป็น เลสเตอร์ ซิตี้ มาพลิกขึ้นนำ 2-1 หลัง มาร์ค อัลไบรท์ตัน เปิดลูกเตะมุมทางด้านซ้ายเข้ามา โรเบิร์ต ซานเชซ ออกมาชกบอลพลาดกลายเป็นหล่นใส่หัว ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ย์ ที่รออยู่เสาไกลโขกเข้าไปตุงตาข่าย

    จบเกม เลสเตอร์ บุกมาชนะ ไบรท์ตัน 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญพร้อมแซง แมนฯ ยูไนเต็ด สองคะแนนขึ้นรองจ่าฝูงชั่วคราว โดยมี 53 คะแนนแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ส่วน ไบรท์ตัน ต้องหนีโซนท้ายตารางต่อไปหลังมี 26 คะแนนอยู่อันดับ 16 มีแต้มมากกว่าโซนตกชั้นแค่ 3 คะแนน

     รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        ไบรท์ตัน (4-2-3-1) :  โรเบิร์ต ซานเชซ - โจเอล เวลท์แมน, เบน ไวท์, ลูอิส ดังค์, แดน เบิร์น - อีฟส์ บิสซูม่า (อลิเรซ่า ยาฮานบาคช์ น.90+1), ปาสกาล กรอส - เลอันโดร ทรอสซาร์, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (สตีเว่น อัลซาเต้ น.68) , อดัม ลัลลาน่า - นีล โมเปย์ (แดนนี่ เวลเบ็ค น.79)
 
        ผู้จัดการทีม : เกรแฮม พ็อตเตอร์

        เลสเตอร์ ซิตี้ (3-5-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ดาเนี่ยล อมาร์ตี้ย์, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, ซากลาร์ โซยุนชู - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, ยูริ ตีเลมันส์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ซิดเนย์ ตาวาเรส (มาร์ค อัลไบรท์ตัน น.72), ทิโมธี คาสตานเญ่ - เจมี่ วาร์ดี้, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ (ฮัมซ่า เชาฮ์ดรี้ น.90+1)

        ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

        ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์