โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือ เชลซี ต้องยุติสถิติไร้พ่ายลงไปเป็นที่เรียบร้อย แม้จะได้ประตูขึ้นนำก่อนจาก คริสเตียน พูลิซิช แต่ใบเหลืองแดงของ ติอาโก้ ซิลวา ตั้งแต่ครึ่งแรกมาสร้างจุดเปลี่ยนให้ เวสต์บรอมฯ พลิกกลับมาเอาชนะไปได้สุดมันส์ 5-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 3 เม.ษ.ที่ผ่านมา

    ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2564 ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ระหว่าง เชลซี ทีมอันดับ 4 พบ เวสต์บรอมวิชฯ รองบ๊วยของตาราง

    โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือเชลซี เกมนี้ไร้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์ตัวเก่งที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่ามาจากการรับใช้ทีมชาติฝรั่งเศส โดยคู่กลางใช้ มาเตโอ โควาซิช จับคู่กับ จอร์จินโญ่ ส่วนแนวรุกดร็อป เมสัน เมาน์ท แล้วให้ คริสเตียน พูลิซิช ทำเกมร่วกับ ฮาคิม ซิเย็ค สนับสนุนกองหน้าตัวเป้าอย่าง ติโม แวร์เนอร์

    ด้าน แซม อัลลาร์ไดซ์ นายใหญ่เวสต์บรอมวิชฯ จัดทัพเต็มสูบนำมาโดย แม็ตต์ ฟิลลิปส์, เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส, มาเตอุส เปเรยร่า และ เอ็มบาย ดิญาน

    ครึ่งแรกเปิดฉากมาเป็น เชลซี ที่ครองเกมบุกเข้าใส่ก่อน แต่ นาทีที่ 3 กลายเป็น เวสต์บรอมวิชฯ ได้ทักทายก่อนจากการยิงนอกเขตโทษของ มาเตอุส เปเรยร่า ปั่นด้วยซ้ายแต่บอลไตรงตัวของ เอดูอาร์ เมนดี้ รับเข้าซอง

    หลังจากนั้น เชลซี ได้โอกาสครั้งแรก มาร์กอส อลอนโซ่ สอดมารับบอลในเขตโทษแล้วซัดด้วยซ้าย แซม จอห์นสโตน ยังล้มตัวรับไว้ได้ไม่ยาก ในนาที 12

    เวสต์บรอมฯ ต้องเสียโควต้าเปลี่ยนตัวคนแรก หลังจาก ดารา โอเช มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวแล้วเป็น บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ลงมาเล่นแทน ในนาที 24

    จนกระทั่ง นาที 27 เชลซี ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะฟรีคิก มาร์กอส อลอนโซ่ ยิงไปชนเสากระดอนมาเข้าทางปืนของ คริสเตียน พูลิซิช ตามซ้ำจ่อๆส่งบอลตุงตาข่ายแบบง่ายๆ

    อย่างไรก็ตาม นาที 29 เชลซี ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อ ติอาโก้ ซิลวา ไปเสียบสกัดใส่ โอคาย โยคุสลู ผู้ตัดสินแจกใบเลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ปราการหลังชาวบราซิลออกจากสนามไป

    ท้ายครึ่งแรก เวสต์บรอมฯ ที่ผู้เล่นมากกว่าได้ประตูตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ แซม จอห์นสโตน เปิดบอลจากกรอบเขตโทษทะลุไปถึง มาเตอุส เปเรยร่า หลุดเดี่ยวไปยิงข้ามตัว เอดูอาร์ เมนดี้ เข้าไปอย่างสวยงาม

    เท่านั้นไม่พอ ช่วงทดเจ็บ 45+4 เวสต์บรอมฯ พลิกแซงนำ 2-1 มาเตอุส เปเรยร่า เก็บบอลได้ในเขตโทษก่อนซัดเรียดด้วยซ้ายบอลเบียดเสาเข้าไป ก่อนจะจบครึ่งแรกได้วยสกอร์นี้

    ครึ่งหลังเกมดำเนินมาถึง นาที 54 เชลซี เกือบได้ประตูตามตีเสมอ มาร์กอส อลอนโซ่ เก็บตกได้หน้าปากปรตูได้ยิงด้วยขวาจ่อๆแต่บอลไปชนเสากระดอนออกมา

    จากนั้น เชลซี ยังเดินเกมบุกต่อเนื่อง นาที 58 ได้ลุ้นจากการยิงบริเวณหัวกระโหลกของ มัตเตโอ โควาซิช บอลไปแฉลบแนวรับ เวสต์บรอมฯ ออกหลังไป

    นาที 61 มาเตอุส เปเรยร่า มิดฟิลด์เวสต์บรอมฯ เกือบทำแฮตทริกได้ในเกมนี้หลังได้ซัดด้วยซ้ายโล่งๆในเขตโทษยังไปติดเซฟของ เอดูอาร์ เมนดี้

    แต่กระนั้น นาที 63 ทีมเยือนนำห่าง 3-1 จนได้ จากจังหวะที่ ดาร์เนลล์ เฟอร์ลอง เติมขึ้นมาทางกราบขวาแล้วเปิดให้ คัลลั่ม โรบินสัน วิ่งมาซัดด้วยขวาแบบไม่จับส่งบอลตุงตาข่าย

    เท่านั้นไม่พอ นาที 68 สกอร์ไหลเป็น 4-1 มาเตอุส เปเรยร่า จ่ายบอลถวายพานให้ เอ็มบาย ดีญาน ได้ยืนซัดโล่งๆไม่เหลือ

    หลังจากนั้น เชลซี มีฮึดตีตื้นขึ้นมาเป็น 2-4 ในนาที 71 ติโม แวร์เนอร์ ไหลบอลให้ เมสัน เมาน์ท ได้ซัดระยะเผาขนเข้าไปไม่เหลือ

     ท้ายเกม นาที 90+1 เวสต์บรอมวิชฯ มาได้ประตูนำ 5-2 จากจังหวะที่ คัลลั่ม โรบิน สันหลุดเดี่ยวไปชิพผ่าน เอดูอาร์ เมนดี้ เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น พร้อมเป็นประตูปิดท้ายให้ เวสต์บรอมวิชฯ บุกถล่ม เชลซี 5-2
    
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
 
เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ - เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, เคิร์ท ซูม่า, ติอาโก้ ซิลวา - รีซ เจมส์, มาเตโอ โควาซิช, จอร์จินโญ่, มาร์กอส อลอนโซ่ - คริสเตียน พูลิซิช, ฮาคิม ซิเย็ค (อันเดรียส คริสเตนเซ่น น.33) - ติโม แวร์เนอร์

เวสต์บรอมวิชฯ (5-4-1) : แซม จอห์นสโตน - ดาร์เนลล์ เฟอร์ลอง, ดารา โอเช (บรานิสลาฟ อิวาโนวิช น.24 (คัลลั่ม โรบินสัน น.39)), ไคล์ บาร์ทลี่ย์, เซมี่ อจายี่, คอเนอร์ ทาวน์เซนด์ - โอคาย โยคุสลู, แม็ตต์ ฟิลลิปส์, เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส, มาเตอุส เปเรยร่า - เอ็มบาย ดีญาน