เกมมันส์เกินห้าดาว! โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เหมาคนเดียวสองประตู พา "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค แชมป์บุนเดสลีกา ไล่อัด "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ เจ้าของแชมป์เดเอฟเบ โพคาลแบบสนุก 3-1 ป้องกันแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จ พร้อมผงาดคว้า เยอรมัน ซูเปอร์คัพ เป็นสมัยที่ 9 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

    ศึกฟุตบอล เยอรมัน ซูเปอร์ คัพ 2021 เมื่อคืนวันอังคารที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่สนาม ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค รังเหย้าของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แชมป์เดเอฟเบ โพคาล ล่าสุดพบกับ บาเยิร์น มิวนิค แชมป์บุนเดสลีกา เยอรมัน

    มาร์คุส โรเซ่ นายใหญ่ของ "เสือเหลือง" ยังยึดขุมกำลังจากเกมไล่ถล่ม แฟร้งค์เฟิร์ต 5-2 เป็นแกนหลัก แต่คู่หน้าให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ยืนจับคู่กับไอ้หนู ยุสซูฟา มูโกโก้ ดาวรุ่งวัย 16 ปี โดยมี มาร์โค รอยส์ เป็นหน้าต่ำ

    ส่วนทางฝั่ง ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ กุนซือใหม่ของ "เสือใต้" ยังต้องปรับจูนกันต่อไปหลังยังไม่สามารถคว้าชัยได้เลยนับแต่ปรีซีซั่น แถมเปิดหัวบุนเดสลีกามาทำได้แค่เสมอกับ กลัดบัค 1-1 เกมนี้ยังให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้  เป็นหน้าเป้าโดยมี คิงสเล่ย์ โกมัน, โธมัส มุลเลอร์ และแซร์ช นาบรี้ สนับสนุนปั้นเกมช่วย
   
    เปิดฉากมาช่วง 10 นาทีแรก ทั้งสองทีมเปิดฉากแลกกันอย่างสนุก นาที 14 คิงสเล่ย์ โกมัน ตัดบอลจาก เฟลิกซ์ พลาสลัค ได้กลางสนามก่อน ก่อนแทงเร็วออกขวาให้ นาบรี้ ตบเข้ากลางจังหวะเดียวให้ โธมัส มุลเลอร์ วิ่งมาซัดแต่ไปติดบล็อค มานูเอล อคานจี ออกหลัง

    อีกนาทีถัดมา พลาสลัค แบ็กขวาดอร์ทมุนด์พลาดอีกโดน แซร์ช นาบรี้ แย่งบอลจากแดนตัวเองเข้าไปก่อนปาดมาเสาแรกให้ คิงสเล่ย์ โกมัน พลิกตัวยิงเหินคานอย่างน่าเสียดาย

    นาที 20 "เสือเหลือง" พลาดโอกาสทองขึ้นนำบ้างเช่นกัน หลัง จู๊ด เบลลิงแฮม แทงทะลุช่องสุดงามให้ มาร์โค รอยส์ หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ มานูเอล นอยเออร์ แต่ยิงไม่ดีไปติดเซฟของนายด่านทีมชาติเยอรมันที่โชว์ซูเปอร์เซฟช่วยให้เสือใต้ไม่เสียประตู

    เกมยังบี้กันสนุก อีกสามนาทีถัดมา นิคลาส ซือเล่ เสียบหนักใส่ ฮาแลนด์ หน้ากรอบจนโดนใบเหลือง ก่อนที่ มาร์โค รอยส์ จะรับหน้าที่วิ่งมาปั่นฟรีคิกเหินคานออกไป

    นาที 30 ดอร์ทมุนด์ ขึ้นมาทางซ้าย มาร์โค รอยส์ แทงตัดหลังแนวรับเสือใต้ให้ไอ้หนู มูโกโก้ หลุดเข้าไปซัดเสาแรกแต่ยิงเบาไปเข้ามือ นอยเออร์ ที่รับไว้ได้สบาย

    นาที 34 เป็นทีของทัพ "เสือใต้" บ้างหลังได้ฟรีคิกทางด้านซ้าย โยชัว คิมมิช หลอกกำแพงเสือเหลืองด้วยการจ่ายตัดแนวรรับเลียดให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เข้าไปซัดติดขาด โคเบล บอลกระดอนมาเข้าทาง เลวานดอฟสกี้อีกทีแต่ก็ยิงไปติดเซฟของ เกรกอร์ โคเบล ออกหลังไปอีก

    เกมแลกกันมันส์หยด อีกสองนาทีต่อมา เออร์ลิง ฮาแลนด์ แทงให้ไอ้หนู ยุสซูฟา มูโกโก้ หลุดเดี่ยวเข้าไปก่อนแปนิ่มๆผ่านตัว นอยเออร์ เข้าไปได้แล้ว ทว่าไลน์แมนตีธงเป็นล้ำหน้าชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย

    นาที 38 เลออน โกเร็ตซ์ก้า จ่ายไปแฉลบแนวรับเสือเหลืองแต่บอลยังไปเข้าทาง คิงสเล่ย์ โกมัน วิ่งมาวอลเลย์มุมแคบแบบไม่จับบอลพุ่งถากเสาไกลออกไปหวุดหวิด

    และแค่นาทีต่อมา "เสือเหลือง" ตอบโต้ทันควัน มานูเอล อคานจี วางยาวให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดูดบอลลงพื้นอย่างนิ่มนวลหลุดเข้าไปซัดติดเซฟของ นอยเออร์

    แต่แล้ว นาที 41 แฟนบอล "เสือใต้" ได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อ บาเยิร์น มิวนิค มาได้ประตูออกนำ 1-0 สำเร็จ บอลจาก แซร์ช นาบรี้ ครอสมากลางประตูให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ พุ่งมาโขกบอลตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด

    จบครึ่งแรก ดอร์ทมุนด์ ตามหลัง บาเยิร์น มิวนิค 0-1

    ครึ่งหลัง ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ เปลี่ยนเอา เลรอย ซาเน่ ลงไปเล่นแทน คิงสเล่ย์ โกมัน

    และนาที 50 สกอร์ของ บาเยิร์น มิวนิค หนีห่างเป็น 2-0 บอลจากทางซ้าย แซร์ช นาบรี้ แทงให้ อัลฟอนโซ่ เดวิส หลุดเข้าไปครอสเลียดแฉลบ อคานจี แต่ยังไปเข้าทาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ตอกส้นติดมือ เกรกอร์ โคเบล ก่อนบอลไปเข้าทาง โธมัส มุลเลอร์ วิ่งมาซ้ำโล่งๆไม่เหลือ

    นาที 53 แฟนเสือเหลืองเฮเก้ออีกครั้งหลัง เออร์ลิง ฮาแลนด์ หลุดเข้าไปซัดบอลเข้าก้นตาข่ายได้แล้ว แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าก่อนชวดได้ประตูตีไข่แตก

    นาที 58 มาร์คุส โรเซ่ แก้เกมบ้างส่ง ดอนเยลล์ มาเล่น ลงไปเล่นแทน ยุสซูฟา มูโกโก้

    นาที 62 มาร์โค รอยส์ ไหลเข้ากลางให้ จู๊ด เบลลิงแฮม ตั้งป้อมซัดจากนอกกรอบแต่บอลก็ยังเบาไปเข้ามือ มานูเอล นอยเออร์

    นาที 64 ความพยายามของ ดอร์ทมุนด์ มาประสบผลสำเร็จเมื่อมาได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ อคานจี วางยาวให้ เฟลิกซ์ พลาสลัค โขกย้อนเข้ากลางให้ จู๊ด เบลลิงแฮม ไหลต่อให้ มาร์โค รอยส์ วิ่งมาซัดด้วยขวาบอลพุ่งแรงโค้งเบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม

    แต่อีก นาที 74 แฟนเสือเหลืองต้องเงียบกริบ เมื่อโดน "เสือใต้" นำห่างเป็น 3-1 จากชอตผิดพลาดของ มานูเอล อคานจี ที่จ่ายบอลไปติด จามาล มูเซียล่า ก่อนบอลจะมาถึง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่เก็บส้มหล่นยิงผ่านมือ โคเบล เบียดเสาแรกเข้าไป เป็นประตูที่สองของหัวหอกชาวโปลในเกมนี้

    ช่วงท้ายเกม นาที 86 เลออน โกเร็ตซ์ก้า ได้ลองส่องไกลแต่บอลก็ยังไปเข้ามือ เกรกอร์ โคเบล

    จบเกม บาเยิร์น มิวนิค ไล่อัดเอาชนะ ดอร์ทมุนด์ 3-1 ผงาดคว้าแชมป์ เยอรมัน ซูเปอร์ คัพ เป็นสมัยที่ 9

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    ดอร์ทมุนด์ (4-1-2-1-2) : เกรกอร์ โคเบล  - เฟลิกซ์ พลาสลัค (มาริอุส โวล์ฟ น.84), อักเซล วิทเซล, มานูเอล อคานจี, นิโค่ ชูลซ์ - มาห์มูด ดาห์อูด - โจวานนี่ เรย์น่า (มาร์โค ปาซาลิช น.78), จู๊ด เบลลิงแฮม (เรเนียร์ น.84) - มาร์โค รอยส์  - ยุสซูฟา มูโกโก้ (ดอนเยลล์ มาเล่น น.58), เออร์ลิง ฮาแลนด์

    เทรนเนอร์ : มาร์คุส โรเซ่

    บาเยิร์น มิวนิค  (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - โยซิป สตานิซิช (บูนาร์ ซาร์ น.88), ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, นิคลาส ซือเล่, อัลฟอนโซ่ เดวิส  - โยชัว คิมมิช , เลออน โกเร็ตซ์ก้า - คิงสเล่ย์ โกมัน (เลรอย ซาเน่ น.46), โธมัส มุลเลอร์ (จามาล มูเซียล่า น.73), แซร์ช นาบรี้ (โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ น.73) - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (มักซิม ชูโป-โมติง น.88)

    เทรนเนอร์ : ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์