ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ต้อนรับกุนซือลีดส์คนใหม่! 7 ข้อทำความรู้จักเจสซี่ มาร์ช

ต้อนรับกุนซือลีดส์คนใหม่! 7 ข้อทำความรู้จักเจสซี่ มาร์ช

Posted 01/03/2022 by siamsport

มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กลายเป็นอดีตผู้จัดการทีม ลีดส์ ยูไนเต็ด ไปแล้ว ขณะที่ เจสซี่ มาร์ช ก็เข้ามารับเผือกร้อนแล้วเช่นกันกับการเซ็นสัญญาสามปี
   
หลังคุมทีมได้อย่างย่ำแย่แพ้ถึงห้าจากหกนัดโดย ยูงทอง หล่นไปอยู่ในอันดับที่ 16 ของตารางห่างจากโซนตกชั้นแค่สองแต้ม นายใหญ่อาร์เจนไตน์วัย 66 ปีก็มีอันต้องระเห็จออกจาก เอลแลนด์ โร้ด

ขณะเดียวกัน มาร์ช กุนซือชาวอเมริกันก็โชว์ความหาญกล้าขันอาสาเข้ามากอบกู้สถานการณ์ให้กับสโมสรแห่งเมืองผู้ดี

ฉะนั้นแล้ว เราจึงควรทำความรู้จักกับอดีตโค้ชทีม แอร์เบ ไลป์ซิก ในวัย 48 ปีกันสักหน่อยจะดีกว่า

1.เจ้าของแชมป์ เอ็มแอลเอสคัพ สามสมัย

ก่อนหันมายึดอาชีพกุนซือ มาร์ช ประสบความสำเร็จในฐานะพ่อค้าแข้งมาก่อนจากการลงเล่นให้กับ ดีซี ยูไนเต็ด , ชิคาโก้ ไฟร์ และ ชีวาส ยูเอสเอ

อดีตกองกลางได้แชมป์รายการหลักแปดชิ้นตลอดอาชีพการโม่เกือกรวมถึงแชมป์ เอ็มแอลเอสคัพ สามสมัยระหว่างปี 1996-1998

แชมป์สองชิ้นแรกของเขาอุบัติขึ้นในช่วงที่ลงเล่นให้กับทีม ดีซี ยูไนเต็ด ซึ่งสโมสรนี้คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ด้วยในปี 1996 และ 1997

จากนั้น มาร์ช ก็ย้ายไปร่วมทีม ชิคาโก้ ไฟร์ ในปี 1998 พร้อมทั้งพาทีมซิวดับเบิ้ลแชมป์ได้เช่นกัน

2.พาทีมชาติสหรัฐฯสร้างชื่อในฟุตบอลโลกปี 2010

น่าทึ่งอย่างแรงเมื่อทีมเมืองลุงแซมของกุนซือ บ๊อบ แบรดลีย์ ได้แชมป์ของรอบแบ่งกลุ่มในกลุ่มที่มี อังกฤษ , สโลวีเนีย และ แอลจีเรีย เป็นคู่แข่งโดย สิงโตคำราม เดินตามหลังทีม พญาอินทรี เข้ารอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างน่าเสียดายโดยพ่ายต่อ กาน่า ในช่วงต่อเวลาพิเศษ

และแน่นอนว่า มาร์ช มีส่วนร่วมกับผลงานนี้เนื่องจากหนึ่งปีก่อนหน้าทัวร์นาเมนต์ เวิร์ลคัพ เขาตัดสินใจแขวนรองเท้า และรับบทเป็นมือขวาของ แบรดลีย์

แม้จะร่วมงานกันอย่างประสบความสำเร็จในศึก ฟุตบอลโลก ที่ แอฟริกาใต้ แต่ในปี 2011 ทั้งสองก็ตัดสินใจแยกทางกัน

3.เจ้าของสถิติ เอ็มแอลเอส

หลังอำลาทีมชาติ สหรัฐฯ มาร์ช ก็เริ่มจับงานกุนซือชิ้นแรกกับทีม มอนทรีล อิมแพ็ค

ทีมลูกหนังของ แคนาดา เพิ่งเข้าร่วมฟาดแข้งใน เอ็มแอลเอส และ มาร์ช คุมทีมออกสตาร์ตได้อย่างสวยหรูด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายหลังพาทีมปราชัย 17 จาก 36 นัด เขาก็กระเด็นออกจากทีมในเวลา 16 เดือน

แม้จะเริ่มตั้งไข่ได้อย่างน่าผิดหวัง มาร์ช ก็เริ่มสร้างชื่อได้กับ นิวยอร์ค เร้ด บูลส์ ในอีกไม่กี่ปีต่อมา

กุนซือวัย 48 ปีคว้ารางวัล Supporters' Shield (ทีมที่มีผลงานในฤดูกาลปกติดีที่สุด) ในปี 2015 แถมครองตำแหน่งโค้ชยอดเยี่ยมในปีเดียวกันอีกด้วย

เท่านั้นไม่พอ มาร์ช ยังสร้างสถิติด้วยการพาทีมเก็บแต้มได้มากที่สุดเหนือกว่ากุนซือทุกรายในประวัติศาสตร์ของทีม นิวยอร์ค เร้ด บูลส์ เช่นกันจากผลงานพาทีมกำชัยได้ 76 จาก 151 นัด

4.เป็นลูกมือของ ราล์ฟ รังนิก

มาร์ช รับบทคุมทีม นิวยอร์ค เร้ด บูลส์ จนถึงปี 2018 ก่อนโบกมือลามหานครนิวยอร์คไปเป็นผู้ช่วยของ รังนิก ในทีม ไลป์ซิก

ทั้งคู่ช่วยกันพา แอร์เบ ไลป์ซิก คว้าอันดับสามของ บุนเดสลีกา และผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ เดเอฟเบ โพคาล ซึ่งพวกเขาพ่ายต่อ บาเยิร์น มิวนิค 3-0

มาร์ช หันไปจับงานกุมบังเหียน เร้ด บูลล์ ซัลซบวร์ก ในปี 2019 และชัดเจนว่าสร้างความประทับใจให้กับ รังนิก ซึ่งเคยคิดดึงโค้ชอเมริกันมาช่วยงานอีกรอบในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด

5.ครองความยิ่งใหญ่ใน ออสเตรีย

มาร์ช มีผลงานที่ยอดเยี่ยมกับทีม เร้ด บูลล์ ซัลซบวร์ก ซึ่งเขาพาทีมซิวชัยได้ 64 จาก 94 นัด และพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้สองปีซ้อน

แต่มันไม่ใช่เรื่องที่น่าเซอร์ไพรส์อะไรเลยเมื่อพิจารณาถึงนักเตะในทีมซึ่งประกอบไปด้วย โดมินิค โซบอซไล ดาวเตะฮังการี , ทาคูมิ มินามิโนะ กองหน้า ลิเวอร์พูล ,ฮวาง ฮี ชาน สตาร์ทีม วูล์ฟส์ , แพตสัน ดาก้า หัวหอกทีม เลสเตอร์ และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ศูนย์หน้าทีม ดอร์ทมุนด์

ในซีซั่นแรกของเขา มาร์ช ได้แชมป์ลีกโดยทิ้งห่าง ราปิด เวียนนา ทีมอันดับสอง 12 แต้ม

และในปีต่อมา มันถูกขยายเป็น 15 แต้มจนทำให้กุนซือสัญชาติแยงกี้กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

6.ต่อกรกับ แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ได้อย่างน่ายกย่อง

เร้ด บูลล์ ซัลซบวร์ก มีโอกาสฟาดแข้งกับทีมชั้นยอดของยุโรปหลังได้ร่วมบู๊ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2019

และหนึ่งในเกมรอบแบ่งกลุ่มกับ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ ทำให้ขุนพลของ มาร์ช สร้างชื่อได้อย่างน่าประทับใจ

พวกเขาเริ่มเกมได้อย่างเลวร้าย และตกเป็นรอง 3-0 ตั้งแต่ 36 นาทีแรก

อย่างไรก็ดี ทีมจาก ออสเตรีย ต่อสู้อย่างเต็มที่ และมาได้ประตูจาก ฮี ชาน , มินามิโนะ และ ฮาแลนด์ ตีเสมอเป็น 3-3 ขณะที่เหลือเวลาอีก 30 นาที

จนในที่สุด หงส์แดง ก็แสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่เหนือกว่า และมาได้ประตูชัยจาก โม ซาลาห์ ในช่วงท้ายเกม

จากนั้นอีกสองปีต่อมา มาร์ช ก็หวังสร้างชื่ออีกครั้งเมื่อ แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมจากเมืองเบียร์ได้ปะทะกับ แมนฯ ซิตี้ ในรอบแบ่งกลุ่ม

ตอนที่ทั้งสองทีมบู๊กันที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ในเดือนก.ย.แชมป์เมืองผู้ดีพิสูจน์ให้เห็นว่าแข็งแกร่งกว่าโดยเอาชนะไปได้อย่างท่วมท้น 6-3

อย่างไรก็ดี ไลป์ซิก มีทีเด็ดไม่เบาเนื่องจาก คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู กดแฮททริคพาทีมไล่ตาม 4-3 ได้

แต่ในที่สุด พวกเขาก็หมดโอกาสแบ่งแต้มเนื่องจาก ชูเอา กานเซโล่ กับ กาเบรียล เชซุส สอยตาข่ายพา เรือใบสีฟ้า คว้าชัยไปอย่างขาดลอย

7.กุนซืออเมริกันรายที่สามใน พรีเมียร์ลีก

พรีเมียร์ลีก อาจก่อตั้งมานาน 30 ปีแล้ว แต่ตลอดประวัติศาตร์มีกุนซือชาวแยงกี้ที่เคยรับงานคุมทีมแค่สองรายเท่านั้น

รายแรกคือ บ๊อบ แบรดลีย์ ซึ่งมีผลงานที่น่าผิดหวังได้คุมทีม สวอนซี ซิตี้ แค่ 85 วันเท่านั้น

อันที่จริง การแต่งตั้งเขามีสัญญาณไม่ดีมาตั้งแต่แรกแล้วเนื่องจากกองเชียร์ หงส์ขาว ไม่แฮปปี้

และในเมื่อ แบรดลีย์ สร้างผลงานที่เลวร้าย 11 นัดโดยพาทีมคว้าชัยได้แค่ 2 นัด เสมอ 2 นัด และแพ้ 7 นัด มันจึงไม่น่าแปลกที่กุนซืออเมริกันจะโดนตะเพิดในเวลาแค่สามเดือน

เดวิด ว๊ากเนอร์ ซึ่งเกิดในเยอรมัน แต่ถือสัญชาติอเมริกันเป็นนายใหญ่ยูเอสเอรายที่สองที่คุมทีมใน พรีเมียร์ลีก หลังพา ฮัดเดอร์สฟิลด์ เลื่อนชั้นได้อย่างน่าช็อกในปี 2017

แม้จะเป็นทีมที่มีงบประมาณน้อยที่สุดในลีก เดอะ เทอร์เรียส์ ก็รอดพ้นจากการตกชั้นในปีแรก แต่ไม่อาจสานผลงานต่อได้ในปีต่อมาเนื่องจากพวกเขาหล่นไปเป็นทีมบ๊วยของตาราง

จริงๆแล้ว ว๊ากเนอร์ โดนปลดตั้งแต่เดือนม.ค.2019 แต่สุดท้ายมันก็ไม่ช่วยให้ ฮัดเดอร์สฟิลด์ กลับไปฟาดแข้งใน แชมเปี้ยนชิพ อยู่ดี

กระทั่งล่าสุด มาร์ช กลายเป็นกุนซืออเมริกันรายที่สามที่ได้รับงานใน พรีเมียร์ลีก แต่เมื่อมองดูผลงานของ ยูงทอง แล้ว กุนซือวัย 48 ปีจำต้องแสดงศักยภาพออกมาให้ได้ชนิดเกินร้อยหากหวังเขาพาทีมอยู่รอดในลีกสูงสุดของอังกฤษได้สำเร็จ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • เป็นใคร มาจากไหน?หนูน้อยร่วมฉลองแชมป์คาราบาวคัพกับลิเวอร์พูล (มีคลิป)
    ในระหว่างที่ขุนพล ลิเวอร์พูล ฉลองแชมป์ คาราบาว คัพ กันบนอัฒจันทร์นั้น มีเด็กน้อยคนหนึ่งที่ได้ร่วมฉลองอย่างร่าเริงด้วย ซึ่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็บอกว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของแฟนบอลรายหนึ่ง
  • เฮนโด้ซิวอีกแชมป์ เคลเลเฮอร์ถูกโฉลกดวลเป้า! เกร็ดน่าสน ลิเวอร์พูล ผงาดแชมป์ คาราบาว
    นัดชิงชนะเลิศของ คาราบาว คัพ ประจำฤดูกาล 2021-22 ถือเป็นเกมที่มีความตื่นเต้นตลอดตั้งแต่ช่วงเวลาปกติ, ช่วงต่อเวลาพิเศษ และช่วงดวลจุดโทษ ก่อนที่สุดท้ายจะเป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้แชมป์ไปครองจากการชนะในช่วงดวลเป้าแบบลากยาว 11-10
  • ประทับใจ!เฮนเดอร์สัน-มิลเนอร์ยืนรอปลอบแข้งเชลซี(มีคลิป)
    จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ เจมส์ มิลเนอร์ 2 แข้ง ลิเวอร์พูล รอปลอบนักเตะ เชลซี ในตอนที่ฝ่ายหลังเดินลงมาจากอัฒจันทร์ หลังจากที่เหล่าแข้ง "สิงโตน้ำเงินคราม" รับเหรียญรองแชมป์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  • เมนดี้ โคตรเหนียว, เกปา ลงมาทำไม ! ตัดเกรดแข้ง เชลซี รอบชิงคาราบาว คัพ
    เชลซี พลาดโอกาสที่จะคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ หลังพ่ายการดวลจุดโทษ ลิเวอร์พูล 10-11 หลังเสมอในเวลา 120 นาที 0-0 ในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แมตช์นี้ "สิงโตน้ำเงินคราม" ทำผลงานได้โดดเด่นเหนือ "หงส์แดง" แต่ไม่สามารถเจาะตาข่ายได้ สุดท้ายต้องดวลกันถึงฏีกา และจุดปลี่ยนสำคัญก็คือการส่ง เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ลงมาเฝ้าเสาแทน เอดูอาร์ เมนดี้ ที่ฟอร์มเหนียวหนึบทั้งเกม โดย นายด่านชาวสแปนิช ได้ชื่อว่าเป็นจอมเซฟจุดโทษ แต่กลับตาลปัตรเพราะเจ้าตัวเซฟไม่ได้เลย และยังเป็นคนสุดท้ายที่ยิงข้ามคาน ส่งให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยที่ 9 ในรอบ 10 ปี

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »