แมนฯ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล สองทีมคู่ปรับเปิดฉากทำศึกวันแดงเดือดที่กทม.ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วต่อหน้าสาวกแฟนบอลชาวไทย 50,248 ชีวิต
   
งานนี้บอกได้เลยว่า เอริค เทน ฮาก กุนซือคนใหม่ของ ผีแดง เปิดตัวได้สวยด้วยการพาทีมถล่ม หงส์แดง ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไปได้อย่างขาดลอยเหลือเชื่อ

อย่างไรก็ดี กุนซือดัตช์ส่งนักเตะชุดใหญ่ลงสนามกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาภายใต้ระบบ 4-2-3-1 สวนทางกับผู้จัดการทีมชาวเยอรมันซึ่งเลือกใช้งานดาวรุ่งหลายรายอย่าง ไอแซ็ค มาบาย่า , ลุค แชมเบอร์ส , ไทเลอร์ มอร์ตัน และนักเตะใหม่ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ผสมผสานกับตัวหลักอย่าง อลิสซง , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , หลุยส์ ดิอาซ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

และจากผลลัพธ์ 4-0 ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด กำชัยไปอย่างขาดลอยจากฝีเท้าของ เจดอน ซานโช่ , เฟร็ด ,อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ นี่คือ 6 ผู้แพ้และผู้ชนะจากเกมที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน

-ผู้ชนะ

-เจดอน ซานโช่

ซานโช่ ปีกทีมชาติ อังกฤษ ประสบกับซีซั่นแรกที่ยากลำบากในชุดสีเสื้อของ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัวมหาศาล 75 ล้านปอนด์

และด้วยผลงานที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย ซานโช่ จึงไม่อาจยึดตำแหน่งตัวจริงในทีม ปีศาจแดง ได้ไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คุมทีม ตามด้วยการเข้ามารับงานขัดตาทัพของ ราล์ฟ รังนิก

กระทั่งในเกมแดงเดือดขยี้ ลิเวอร์พูล หงายเก๋ง ดาวเตะวัย 22 ปีโชว์ความอันตรายสอยตาข่ายให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 12 เป็นการเบิกร่องสกอร์แรกในยุคของกุนซือชาวเมืองทิวลิป และส่อเค้าว่าเขาน่าจะมีซีซั่นหน้าที่สดใส

- อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

กลับสู่ต้นสังกัดตามระเบียบหลังย้ายไปเล่นให้ เซบีย่า ทีมใน ลา ลีกา แบบยืมตัวช่วงครึ่งหลังของซีซั่นที่ผ่านมา และไม่มีการยื่นข้อเสนอขอซื้อตัวโดยดาวเตะเฟร้นช์แมนสร้างผลงานเลวร้ายอย่างต่อเนื่องจากการคลำเป้าได้ตุงเดียวในการลงสนาม 12 นัด

แน่นอนว่าไม่มีใครสงสัยในความสามารถของ มาร์กซิยาล ทั้งฝีเท้าที่จัดจ้าน สปีดที่สามารถเอาชนะคู่ต่อกรได้ ตลอดจนการยิงประตูที่เฉียบคม แต่เป็นทัศนคติ และความทุ่มเทของเขาเท่านั้นที่แลดูมีปัญหา

อย่างไรก็ดี ในเกมแดงเดือด เขาพิสูจน์ตัวเองได้อีกครั้งจากการซัดลูกที่สามให้ ปีศาจแดง ในจังหวะหลุดไปชิพบอลข้าม อลิสซง จนทำเอากองเชียร์ เร้ด อาร์มี่ ในโลกโซเชี่ยลดี๊ด๊ากันยกใหญ่ด้วยการยืนยันว่าสโมสรไม่ต้องการ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกแล้ว

-หลุยส์ ดิอาซ

ปีกทีมชาติ โคลอมเบีย เปิดฉากร่ายเพลงเตะกับ หงส์แดง ได้อย่างน่าฮือฮาหลังย้ายมาจาก ปอร์โต้ เมื่อเดือนม.ค.ด้วยค่าตัว 37.5 ล้านปอนด์ และพังประตูให้ทีมของ คล็อปป์ ได้หกลูก

สำหรับเกมแดงเดือดนัดล่าสุด แม้ดาวเตะวัย 25 ปีจะได้อยู่ในสนามแค่ครึ่งชั่วโมง แต่เขาสร้างปัญหาให้กับ ดีโอโก้ ดาโลต์ แบ็คขวา ผีแดง ได้หลายหน แถมหาจังหวะซัลโวได้ด้วยจนทำเอา ดาบิด เด เคอา ต้องออกแรงกระโจนปัดให้หลุดกรอบ

-ผู้แพ้

-มาร์คัส แรชฟอร์ด

เป็นเหมือนกับดาวเตะ ปีศาจแดง หลายรายที่ตกระกำลำบากจากซีซั่นก่อนโดยดาวยิงผิวสีสอยตาข่ายได้แค่ 5 ลูกเท่านั้นจาก 32 นัดซึ่งชี้ให้เห็นว่าทั้งฟอร์มการเล่น และความมั่นใจของเขาตกลงไปมากถึงขนาดหลุดโผทีมชาติ อังกฤษ และไม่แน่ว่าจะถูก แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ ทรี ไลอ้อนส์ หนีบไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายหรือเปล่า

ด้วยเหตุนี้ แรชฟอร์ด จึงมีหน้าที่ต้องพิสูจน์ตัวเองครั้งใหญ่ในยุคของกุนซือคนใหม่ และแม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะขยี้ ลิเวอร์พูล ได้อย่างงดงาม 4-0 แต่สตาร์วัย 24 ปียังต้องทำงานอีกเยอะเนื่องจากยังเรียกฟอร์มอันฉกาจฉกรรจ์ที่หายสาปสูญไปนานกลับคืนมาไม่ได้

-โจ โกเมซ

เท่าที่ผ่านมา โกเมซ เป็นตัวเลือกในอันดับโหล่ของตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเลยก็ว่าได้เนื่องจากเขาเป็นรองทั้ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ , โฌแอล มาติป และ อิบราฮิมา โกนาเต้

ฉะนั้นแล้ว เขาจึงได้รับโอกาสในเกมปรีซีซั่น แต่ในเวลาครึ่งชั่วโมงแรก หงส์แดง เสียประตูไปมากถึงสามเม็ดโดยเม็ดที่สองเป็นความผิดพลาดของ โกเมซ ซะด้วยเนื่องจากเคลียร์บอลไปเข้าทาง เฟร็ด

-เจอร์เก้น คล็อปป์

เป็นเรื่องเสี่ยงอยู่แล้วที่เลือกใช้งานนักเตะหนุ่มในเกมใหญ่ แม้จะเป็นเพียงนัดกระชับมิตรก็ตาม

และด้วยขุมกำลังอย่าง ไอแซ็ค มาบาย่า , ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ และ ฯลฯ เร้ด แมชีน จึงโดนถล่มเละถึงสามแผลก่อนที่ คล็อปป์ จะเปลี่ยนตัวแบบยกชุด และทำให้ทีมต่อกรกับ ผีแดง ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อมากขึ้น

ถึงตรงนี้ กุนซือด๊อยทช์จึงต้องหวังว่าสกอร์ที่ปราชัยอย่างขาดลอยจะไม่บั่นทอนความเชื่อมั่นของดาวเตะวัยละอ่อนซึ่งถูกวางตัวให้เป็นอนาคตของสโมสร