ผลจับสลากรอบแบ่งกลุ่มของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2022-23 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าไฮไลท์สำหรับหลายคนคงจะหนีไม่พ้นกลุ่ม ซี ที่ประกอบไปด้วย บาเยิร์น มิวนิค, บาร์เซโลน่า, อินเตอร์ มิลาน และ วิคตอเรีย พิลเซ่น แชมป์ของลีกเช็ก จนสามารถเรียกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่านี่เป็น กรุ๊ป ออฟ เดธ

อย่างไรก็ตาม กลุ่มอื่นๆ ก็ถือว่าน่าสนุกในระดับหนึ่งเหมือนกัน และผลจับสลากที่ออกมาก็ทำให้มีเกร็ดที่น่าสนใจออกมาหลายอย่างด้วย โดยวันนี้เราจะมายกตัวอย่างกันสักหน่อย

สงครามครั้งแรกของ ลิเวอร์พูล – เรนเจอร์ส

แม้ว่าทั้ง 2 ฝ่ายต่างจะเป็นทีมใหญ่ในประเทศของตัวเองจนได้แชมป์มากมายก่ายกอง แต่เชื่อหรือไม่ว่านี่จะถือเป็นการเจอกันในเกมแบบมีความหมาย (หมายถึงไม่นับรวมเกมอุ่นเครื่อง) ครั้งแรกของพวกเขา

ทั้งนี้ ทีมจากแดนวิสกี้ที่ ลิเวอร์พูล เคยดวลด้วยในถ้วย ยูโรเปี้ยน คัพ/ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มีเพียง อเบอร์ดีน เมื่อฤดูกาล 1980-81 โดยตอนนั้นเป็นการเจอกันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แถม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังเป็นกุนซือของ อเบอร์ดีน ในตอนนั้นด้วย ซึ่งครั้งนั้น ลิเวอร์พูล ชนะด้วยสกอร์รวม 2 นัด 5-0 ก่อนจะเดินหน้าซิวแชมป์ไปครองในบั้นปลาย

แมนฯ ซิตี้ ไม่กลัวผู้มาเยือนจากเมืองเบียร์

แม้ว่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะไม่ใช่งานง่ายสำหรับ แมนฯ ซิตี้ แต่ใน 8 เกมหลังสุดที่พวกเขาได้เปิดบ้านเจอกับทีมจากเมืองเบียร์ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น “เรือใบสีฟ้า” เก็บชัยชนะได้ครบทั้ง 8 เกม แถมยังยิงได้ถึง 30 ประตูด้วยกัน และเสียไปเพียง 9 ลูกเท่านั้น

ทั้งนี้ หากนับเฉพาะการเจอกับ ดอร์ทมุนด์ นั้น แมนฯ ซิตี้ เอาชนะอีกฝ่ายได้ 2 เกมจากทั้งหมด 4 นัด ส่วนที่เหลือแบ่งเป็นการเสมอกับแพ้อย่างละ 1 เกม อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี้ ก็ไม่เคยเก็บคลีนชีทในการเจอกับ “เสือเหลือง” ได้เลยเหมือนกัน

มิลาน – เชลซี กินกันไม่ลง

ก่อนหน้าจะถูกจับให้มาจ๊ะเอ๋กันในกลุ่ม อี ของฤดูกาลนี้นั้น เอซี มิลาน กับ เชลซี เคยดวลกันในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก แค่รอบแบ่งกลุ่มของฤดูกาล 1999-2000 เท่านั้น ซึ่งตอนนั้นมันก็จบลงที่การเสมอกันทั้ง 2 เกม อย่างไรก็ตาม ครั้งนั้น มิลาน ก็ตกรอบในฐานะบ๊วยของกลุ่ม ต่างกับ เชลซี ที่ได้เข้ารอบต่อไปในฐานะแชมป์กลุ่ม

งูไม่กลัวเสือ

แน่นอนว่าหากมองตามสภาพขุมกำลังในตอนนี้นั้น บาเยิร์น อาจจะดูดีกว่า อินเตอร์ อยู่บ้าง แต่ถ้าดูที่ด้านสถิติก็ต้องบอกว่า อินเตอร์ ชอบเจอกับ บาเยิร์น ในระดับหนึ่ง เพราะพวกเขาไม่เคยแพ้ “เสือใต้” ในเกมถ้วยยุโรปนัดที่เตะกันนอกบ้านของตัวเองเลย แบ่งเป็นการชนะ 3 เกมกับเสมอ 1 หน ซึ่งหนึ่งในนัดที่ชนะก็คือเกมชิงดำของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2009-10 ที่ “งูใหญ่” พิชิตอีกฝ่าย 2-0 ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปนนั่นเอง

งานยากของ บาร์ซ่า ?

ด้วยความที่ทั้งคู่ต่างก็เป็นทีมใหญ่ ทำให้ บาร์เซโลน่า กับ บาเยิร์น มิวนิค มักจะได้เจอกันในเกมถ้วยยุโรปบ่อยมากถึง 13 ครั้งด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว บาเยิร์น เป็นทีมที่ได้เฮบ่อยกว่าจากการชนะได้ 9 ครั้ง ขณะที่ บาร์เซโลน่า เก็บชัยชนะได้เพียง 2 หนเท่านั้น โดย 2 เกมที่ว่าเกิดขึ้นเมื่อปี 2009 กับ 2015 ส่วนที่เหลืออีก 2 นัดคือการเสมอกัน

ชัคตาร์ พาโชค

นี่นับเป็นครั้งที่ 4 เข้าไปแล้วที่ เรอัล มาดริด ได้อยู่กลุ่มเดียวกับ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค ในรอบแบ่งกลุ่มของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งนี่มักจะเป็นลางดีสำหรับพลพรรค “ราชันชุดขาว” เพราะในจำนวนนั้นมี 2 ครั้งที่พวกเขาไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้ นั่นคือฤดูกาล 2015-16 กับ 2-021-22

สำหรับอีกครั้งหนึ่งนั้นเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2020-21 ซึ่งถึงแม้ มาดริด จะไม่ได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์ แต่พวกเขาก็ยังไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะต้องตกรอบด้วยฝีมือของ เชลซี ซึ่งในเวลาต่อมา “สิงโตน้ำเงินคราม” ก็คว้าแชมป์ไปเชยชมได้