บาเยิร์น ของโค้ช โธมัส ทูเคิ่ล ปิดจ๊อบคว้าแชมป์บุนเดสลีกาสมัยที่ 32 ไปครองสุดดราม่า ได้ จามาล มูเซียล่า ตะบันชัย น.89 พาทีมบุกเชือด โคโลญจน์ 2-1 ตามเป้าปาดหน้าคู่แข่งอย่าง ดอร์ทมุนด์ ที่ สะดุดเสมอในนัดสุดท้าย ส่งให้ "เสือใต้" ผงาดชูถาดแชมป์ลีกเมืองเบียร์เป็นสมัยที่ 11 ติดต่อกัน ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า

ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน (นัดสุดท้าย)

วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2566

โคโลญจน์ 1-2 บาเยิร์น มิวนิค

สนาม : ไรน์เอเนอร์กี้สตาดิโอน

ทัพ "แพะบ้า" ของ ชเทฟเฟ่น เบาม์การ์ท ฟอร์มกระเตื้องขึ้นเยอะจนสถานการณ์ลอยตัว ต้องเปิดสนามรับการมาเยือนของ "เสือใต้" ภายใต้การคุมทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล ตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้่ยนส์ ลีก กับ เดเอฟเบ โพคาล และในลีกต้องลุ้นหนักการป้องกันแชมป์เพราะไม่ได้กุมชะตาตัวเอง

เริ่มเกมการแข่งขันมาในนาทีที่ 9  ลีรอย ซาเน่ ได้บอลก่อนจ่ายต่อมาให้ คิงส์เลย์ โกมัน ก่อยเลี้ยงตัดเข้าในกรอบเขตโทษ แล้วยิงด้วยขวาบอลพุ่งเสียบเสาสองเข้าไป ช่วยพา บาเยิร์น มิวนิค บุกนำ โคโลญจน์ 1-0

ต่อมาในนาทีที่ 19 ลีรอย ซาเน่ เก็บตกบอลได้ทางขวา ก่อนจ่ายบอลต่อมาให้ คิงส์เลย์ โกมัน แล้วทำชิ่งให้ เบนฌาแม็ง ปาวาร์ ได้จังหวะเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ แล้วเป็น โธมัส มุลเลอร์ ที่สอดขึ้นมาโหม่งเต็มๆ แต่บอลพุ่งไปชนเสา ก่อนที่กองหลังเจ้าถิ่นจะเคลียร์บอลทิ้งออกไปได้

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 43 แซร์ช นาบรี้ ก่อนจ่ายบอลทะลุช่องให้ ลีรอย ซาเน่ หลุดเดี่ยวเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนได้โอกาสยิงผ่านมือ ดาเนียล ชวาเบ่ เข้าประตูไป ช่วยให้ บาเยิร์น มิวนิค บุกนำ โคโลญจน์ 2-0 ก่อนที่ผู้ตัดสิน วีเอออาร์จะเช็กจังหวะดังกล่าว ก่อนริบสกอร์ไป เนื่องจาก ลีรอย ซาเน่  ทำแฮนด์บอลก่อน ทำให้สกอร์กลับมมาที่ โคโลญจน์ ตามหลัง บาเยิร์น มิวนิค 0-1

ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขนัครึ่งแรก โคโลญจน์ ตามหลัง บาเยิร์น มิวนิค 0-1

เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 58 ทีมเยือนยังเดินหน้าบุกเข้าใส่ก่อนเป็น แซร์ช นาบรี้ ที่ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนเปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ ลีรอย ซาเน่ ที่สอดขึ้นมาโหม่งแต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไป

ต่อมาในนาทีที่ 60 เจ้าถิ่นมีจังหวะลุ้นประตูแบบจะแจ้งก่อนเป็น ดาวี่ เซลเค่ ที่ได้โหม่งแบบเต็มๆ บอลพุ่งตรงกรอบแต่ยังเป็น ยานน์ ซอมเมอร์ ที่ปัดบอลออกหลังไปได้

นาทีที่ 72 เกมต้องหยุดลงชั่วขณะ เนื่องจาก สปริงเกอร์รดน้ำสนามหญ้าเกิดทำงานขึ้นมาในระหว่างแข่งขัน

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 75 ทีมเยือนได้จังหวะสวนกลับ ก่อนเป็น ลีรอย ซาเน่ ที่ได้บอลหลุดเดี่ยวขึ้นมาแล้วหาจังหวะเลี้ยงเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนได้โอกาสยิงแต่บอลหลุดเสาออกหลังไป

นาทีที่ 80 เจ้าถิ่นได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิก จากจังหวะที่ แซร์ช นาบรี้ พยายามกระโดนบล็อคแต่บอลไปโดนมือ ก่อนที่ วีเออาร์จะเช็กจังหวะดังกล่าว แล้วเปลี่ยนเป็นจุดโทษ เนื่องจากแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ ก่อนเป็น เดยัน ลูบิซิช ที่รับหน้าที่ยิงไม่พลาด ช่วยพา โคโลญจน์ ตามตีเสมอ บาเยิร์น มิวนิค 1-

น.89 แซร์ช นาบรี้ พาบอลขึ้นมาทำเกมรุก ก่อนจ่ายต่อมาให้ จามาล มูเซียล่า ได้จังหวะ ยิงจากหน้ากรอบเขตโทษ ส่งบอลโค้งเสียบเสาสองเข้าไป ช่วยพา บาเยิร์น มิวนิค ออกนำ โคโลญจน์ 2-1

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดที่สามารถทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน บาเยิร์น มิวนิค บุกเฉือน โคโลญจน์ 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญมีเพิ่มเป้น 71 คะแนนตามเป้าปาดหน้าคู่แข่งอย่าง ดอร์ทมุนด์ ที่ สะดุดเสมอในนัดสุดท้าย ส่งให้ "เสือใต้" ผงาดชูถาดแชมป์ลีกเมืองเบียร์เป็นสมัยที่ 11 ติดต่อกัน ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า

รายชื่อนักเตะที่ลงสนามของทั้งสองทีม

โคโลญจน์ (4-2-3-1) : ดาเนียล ชวาเบ่ - เบนโน่ ชมิทซ์ (เดนิส ฮูเซลเบซิค น.62), ทิโม ฮือเบอร์ส, ยูเลียน ชาบ็อท, โยนาส เฮคเตอร์ - เอริก มาร์เทิ่ล, เอลเยส ชักรี - เดยัน ลูบิซิช, โฟลเรียน ไคน์ซ (คงลี่ย์ เชลเดอร์ น.62), ลินทอน ไมนา - ดาวี่ เซลเค่ (ยาน ทิลแมน น.62)

บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : ยานน์ ซอมเมอร์ - เบนฌาแม็ง ปาวาร์, มาไตจ์ส เดอ ลิกต์,ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ,นุสแซร์ มาซราอุย- ไรอัน กราเฟนแบร์ก ( เลออน โกเรทซ์ค่า น.71), โยชัว คิมมิช - ลีรอย ซาเน่, โธมัส มุลเลอร์ (ชูเอา กานเซโล่ น.62), คิงส์เลย์ โกมัน (เอริค มักซิม ชูโป-โมติง น.71) -แซร์ช นาบรี้