แมนฯ ซิตี้ ตกเป็นข่าวร่วมวงทาบทาม เดแคลน ไรซ์ มิดฟิลด์ทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แล้วหลังจาก อาร์เซน่อล ยื่นข้อเสนอขอซื้อตัวเขาเป็นหนที่สอง แต่ยังถูก ขุนค้อน ปฏิเสธ

เท่าที่ผ่านมา สตาร์วัย 24 ปีตกเป็นเป้าหมายเบอร์หนึ่งของ มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม ปืนใหญ่ และเชื่อกันว่ากุนซือสแปนิชจะได้ตัวสตาร์ทีมชาติ อังกฤษ ไปเสริมทัพอย่างแน่นอน

กระนั้นก็ดี มีการตีแผ่ออกมาว่า เดอะ กันเนอร์ส สู้อุตส่าห์เสนอค่าตัว ไรซ์ รอบสองสูงถึง 90 ล้านปอนด์ แต่ เวสต์แฮม ยังไม่ใยดีโดยเชื่อว่าพวกเขากระหายรับทรัพย์ 100 ล้านปอนด์เท่ากับที่ แมนฯ ซิตี้ ซื้อ แจ็ค กรีลิช ไปจาก แอสตัน วิลล่า

จนในที่สุด เรือใบสีฟ้า ถูกแฉว่าเปิดฉากดึง ไรซ์ มาเป็นสมาชิกใหม่ แถมมีแววสมหวังด้วยจากที่สื่อหลายเจ้ากะเก็ง

หากเป็นอย่างนั้น ก็หมายความว่า แมนฯ ซิตี้ ตามจ้องล้างจองผลาญ อาร์เซน่อล อีกหนหลังจากซีซั่นก่อนพวกเขาสร้างความผิดหวังให้กับ เดอะ กันเนอร์ส ด้วยการเร่งเครื่องแซงหน้าคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปครอง

สำหรับกรณีที่ แมนฯ ซิตี้ เป็นฝ่ายได้ ไรซ์ ไปร่วมสังกัดแทนที่จะเป็น อาร์เซน่อล นี่คือ 4 เหตุการณ์ที่เชื่อว่าจะบังเกิดขึ้นโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

1. แมนฯ ซิตี้ สร้างสถิติใหม่

หลังประกาศศักดาคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ แมนฯ ซิตี้ ถูกยกให้เป็นเต็งจ๋าที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นหน้าตามระเบียบจากการกำหนดอัตราต่อรองของบริษัทรับพนันทุกเจ้า

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านาทีนี้คือยุคทองที่ แมนฯ ซิตี้ พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าเกรงขามอย่างแท้จริง และไม่จำเป็นต้องเสียเงินก้อนโตซื้อ ไรซ์ มาเสริมทัพ พวกเขาก็เป็นเต็งหามที่จะได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นหน้าอยู่แล้ว

ด้วยเหตุนี้ หากกัปตันทีม เวสต์แฮม เก็บกระเป๋ามาใช้ชีวิตกับสังเวียนแข้ง เอติฮัด สเตเดี้ยม แทนที่จะเป็น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต่อให้ปิดตาเล่น ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะได้แชมป์ลีกอิงลิชไปครองอย่างแน่นอนที่สุด

และหากเป็นเช่นที่ว่า เรือใบสีฟ้า จะสร้างตำนานบทใหม่ด้วยการเป็นสโมสรแรกที่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก สี่ปีซ้อนทำลายสถิติสามปีที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมร่วมเมือง และพวกเขาเองทำได้เช่นกัน

2. แฟน อาร์เซน่อล ตั้งแง่การจ่ายตลาด

เท่าที่ผ่านมา สาวก อาร์เซน่อล พึงพอใจการทำงานของ เอดู ผู้อำนวยการกีฬาที่เดินเรื่องเสริมทัพได้อย่างราบรื่น

จนกระทั่งซีซั่นที่ผ่านมา แฟนบอล ปืนใหญ่ เริ่มคลางแคลงใจการจ่ายตลาดของทีมโปรดขึ้นมาซะแล้วเนื่องจากมีบางดีลที่ล้มเหลว และตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำให้กับทีมคู่แข่ง

โดยเฉพาะในรายของ มิไคโล มูดริค ปีกทีมชาติ ยูเครน ซึ่งตกเป็นเป้าหมายของ อาร์เซน่อล และเชื่อกันว่าทีม ปืนใหญ่ เป็นเต็งจ๋าที่จะได้ดาวดังทีม ชัคตาร์ โดเน็ตสค์ มาร่วมชายคา

แต่ท้ายที่สุด กลายเป็นว่า เชลซี คู่แข่งร่วมกรุงลอนดอนปาดหน้าคว้า มูดริค ไปเสริมทัพได้ในนาทีสุดท้ายของตลาดช่วงปีใหม่

ฉะนั้นแล้ว หากเผอิญว่า อาร์เซน่อล พลาดได้ ไรซ์ เพิ่มอีกราย แฟนบอล ปืนใหญ่ คงไม่แคล้วรุมถล่มสโมสรแน่โทษฐานมีบทเรียนสำคัญมาแล้วแท้ๆ แต่กลับไม่คิดจำใส่ใจ

3.  คัลวิน ฟิลลิปส์ ต้องหาทีมใหม่

ฟิลลิปส์ ย้ายจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด มาค้าแข้งกับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อซัมเมอร์ที่แล้วด้วยค่าตัว 45 ล้านปอนด์

แต่แล้วกองกลางทีมชาติ อังกฤษ ไม่อาจยึดตำแหน่งในทีมตัวจริงของ เรือใบสีฟ้า ได้ แถมยิงประตูไม่ได้แม้แต่เม็ดเดียวอีกด้วย

เป็นซะอย่างนี้หาก ไรซ์ ย้ายมาร่วมทีมแชมป์ พรีเมียร์ลีก จริง ก็เห็นทีว่า ฟิลลิปส์ จำเป็นต้องย้ายสโมสรสถานเดียวหากเขานึกอยากได้ลงสนามเพื่อสำแดงความสามารถ

มองจากสภาพความเป็นจริง แมนฯ ซิตี้ มี เควิน เดอ บรอยน์ กับ โรดรี้ เป็นหัวใจสำคัญในแผงกลางอย่างเห็นได้ชัด และแม้ อิลคาย กุนโดกัน จะย้ายไปค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ กวาร์ดิโอล่า จะวางใจส่งอดีตสตาร์ทีม ยูงทอง ลงบู๊เป็น 11 คนแรกหากเขาได้กองกลางชั้นยอดของ เดอะ แฮมเมอร์ส ย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่

4. ไกเซโด้ คำตอบสุดท้าย

ก่อนจะตกเป็นข่าวให้ความสนใจ ไรซ์ อาร์เตต้า กระหายดึงตัว มอยเซส ไกเซโด้ กองกลางทีม ไบรท์ตัน มาตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดปีใหม่แล้ว

แม้จะรับประทานแห้วเนื่องจาก นกนางนวล กล่อมสตาร์ทีมชาติ เอกวาดอร์ ให้ต่อสัญญาได้ แต่หลังจากสโมสรตีตั๋วไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปเป็นผลสำเร็จ กุนซือ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ก็อนุมัติให้พ่อค้าแข้งละตินย้ายทีมได้เช่นเดียวกับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่ผละไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล เรียบร้อยแล้ว

ท้าวความกลับไปเมื่อเดือนม.ค. อาร์เซน่อล พยายามติดต่อขอซื้อ ไกเซโด้ ถึงสองรอบ แต่โดน ไบรท์ตัน ปฏิเสธแม้จะได้รับข้อเสนอ 70 ล้านปอนด์

อย่างไรก็ดี หากเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ได้ลายเซ็นของ ไรซ์ อาร์เซน่อล ก็สมควรหวนกลับไปทาบซื้อ ไกเซโด้ อีกหน หากแต่คราวนี้พวกเขาน่าจะต้องยอมจ่ายไม่ต่ำกว่า 80 ล้านปอนด์จากที่ เดอะ ไทม์ส ระบุ