ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ลั่นวาจาหนักแน่นแข้งไทยไม่มีทางเลือกอื่นวันนี้(7ธ.ค.) ต้องชนะอินโดฯ สถานเดียวเพื่อการันตีสู่รอบรองฯ ศึกซูซูกิ คัพ 2010 ทีมชาติไทยจะใส่ชุดน้ำเงินทั้งชุดเหมือนในเกมแรกที่เสมอลาว 2-2 ช่อง 7 สียิงสดเหมือนเคย 19.30 น. งานนี้ ธนาธิป อุปัติศฤงค์ เอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา พร้อมคนไทยที่จาการ์ตาเตรียมร่วมเชียร์ถึงขอบสนาม

     วิศรุต มีบำรุง ผู้สื่อข่าวสยามกีฬาและฟุตบอลสยาม พร้อมด้วย คะนองเดช สุขกากิจ ช่างภาพฟุตบอลสยาม และ ชรัตน์ เบ็ญรัศซอ ช่างภาพสยามกีฬาทีวี  รายงานความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทยในศึกเอเอฟเอฟ  ซูซูกิ คัพ 2010 รอบแรก ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 1-7 ธ.ค. 53 โดยโปรแกรมนัดสุดท้ายทีมชาติไทยจะต้องเอาชนะทีมชาติอินโดนีเซียในวันนี้ให้ได้สถานเดียวเพื่อที่จะตามอินโดนีเซียผ่านเข้าสู่รอบรองฯ ต่อไป 
      

ร็อบสันไม่มีทางเลือกลั่นต้องชนะ

     ด้านความเคลื่อนไหวล่าสุดเมื่อช่วง 11.00 น. วันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงานแถลงข่าวมีต เดอะ เพรส ก่อนเกมที่ทีมชาติไทยจะลงสนามพบกับอินโดนีเซีย ในวันนี้ (7 ธ.ค.) ขึ้นที่ห้องรับรองโรงแรมสุลต่าน โดยทีมชาติไทยแม้ว่ายังอยู่อันดับที่ 2 ของตารางคะแนน มีเพียงแค่ 2 คะแนน หากนัดนี้ไทยไม่สามารถเก็บชัยชนะได้แล้วอีกคู่ระหว่าง มาเลเซีย กับ ลาว มีผลแพ้ชนะขึ้นมาจะทำให้ไทยตกรอบแรกทันที

       โดยงานนี้ ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือใหญทีมชาติไทย  มาเปิดเผยความพร้อมในงานมีต เดอะ เพรส ว่า "สำหรับผมเองไม่ได้หวั่นเกรงแต่อย่างใดอีกทั้งยังได้ประกาศชัดเจนต่อสื่อมวลชนว่า เกมสุดท้ายที่จะพบกับอินโดนีเซียแน่นอนว่าถือเป็นเกมนัดสำคัญที่สุดของตัวผมเองรวมถึงแฟนฟุตบอลไทยทุกคนที่คาดหวังกับทัวร์นาเมนต์นี้ไว้สูง ดังนั้นคงไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องเอาชนะอินโดนีเซียให้ได้ และมั่นใจว่านักเตะคงจะทำผลงานได้อย่างแน่นอน"      

เน้นแนวรับประกบติดศูนย์หน้าชวา

       พร้อมกันนั้น ไบรอัน ร็อบสัน เปิดเผยต่อด้วยว่าหลังจากการที่ได้ไปซุ้มดูฟอร์มการเล่นของอินโดนีเซียมาใน 2 นัดที่ผ่านมาพร้อมกับได้มีการวิเคราะห์ว่า ผมได้เห็นอะไรหลายๆ กับระบบการเล่นของทีมอินโดนีเซีย ทีมชุดนี้ถือว่ามีแนวรุกที่เป็นตัวอันตรายหลายคน โดยเฉพาะแนวรุกที่โอนสัญชาติมาทั้ง คริสเตียน กอนซาเลซ และ อิฟราน บราดิม ที่ช่วยกันสร้างเกมรุกได้ดี โดยเฉพาะกับ 11 ประตูที่อินโดนีเซีน ทำได้ใน 2 เกมแรกทั้ง 2 คนมีส่วนกับประตูที่เกิดขึ้น แต่เท่าที่ทราบมานักเตะตัวหลักหลายรายของเจ้าถิ่นจะถูกพักเพื่อเก็บไว้ใช้งานในรอบรองฯ นั่นถือเป็นเรื่องดีสำหรับเรา แต่ผมคงจะไม่ประมาท      

ใช้ 4-1-3-2 จับสุทธินันท์ยืนกลางรับ

     ในส่วนของ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่า ไบรอัน ร็อบสัน จะส่งลงสนามในเกมดังกล่าว ซึ่งอาจจะการเปลี่ยนแท็กติกด้วยการหันมาใช้ระบบ 4-1-3-2 แทน 4-4-2 โดยตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับที่ยืนอยู่เหนือแผงกองหลังน่าจะเป็นโอกาสของ สุทธินันท์ พุกหอม แนวรับที่สามารถขยับขึ้นมายืนเป็นมิดฟิลด์ และน่าจะทำให้ทีมชาติไทยมีเกมรุกที่หลากหลายจากผู้เล่นตัวรุก 5 คนที่วางไว้

     สำหรับ 11 ผู้เล่นของทีมชาติไทยที่คาดว่าน่าจะลงสนาม ประกอบด้วย ผู้รักษาประตูยังคงเป็น สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, แนวรับ 4 คนจากขวาไปซ้าย สุรีย์ สุขะ, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ภานุพงศ์ วงศ์ษา, ณัฐพงษ์ สมณะ ส่วนมิดฟิลด์ตัวรับน่าจะเป็นทางด้าน สุทธินันท์ พุกหอม ขณะที่มิดฟิลด์เกมรุกอีก 3 รายจะประกอบไปด้วย ดัสกร ทองเหลา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว และ สุเชาว์ นุชนุ่ม ด้านคู่ศูนย์หน้ายังคงเป็น ศรายุทธ ชัยคำดี และ ธีรศิลป์ แดงดา โดยมีตัวสอดแทรกอย่าง กีรติ เขียวสมบัติ ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนาม   
      
อิเหนาพักตัวหลักบู๊ไทย

     หลังเสร็จสิ้นการแถลงของทีมชาติไทยถึงคิวที่ทีมชาติอินโดนีเซีย พร้อมให้สื่อมวลชนได้รับทราบ โดยงานนี้มีทางด้าน โวล์ฟกัง ปิกัล ผู้ช่วยฯ ของ อัลเฟรด รีดเดิ้ล ขึ้นมาเปิดเผยว่า ตอนนี้เราเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม เอ ไปแล้ว แน่นอนว่าเราจะไม่เสี่ยงส่งผู้เล่นตัวหลักรวมถึงพวกที่ติดใบเหลืองลงสนามในเกมนี้ และจะเปิดโอกาสให้กับนักเตะสำรองหลายๆ คนได้มีโอกาสลงไปสัมผัสสนาม โดยเฉพาะ บัมบัง ปามุงกัส ศูนย์หน้าจอมเก๋าที่อาจจะได้แทนตำแหน่งของ คริสเตียน กอนซาเลซ ศูนย์หน้าชาวอุรุกวัยที่โอนสัญชาติมา รวมถึงในรายของ อิฟราน บราดิม ปีกขวาเชื้อสายฮอลแลนด์ที่น่าจะได้พักในเกมนี้ทั้งคู่      

จับตา 4 แข้งช้างศึกฟอร์มน่ากลัว

     พร้อมกันนั้น โวล์ฟกัง ปิกัล ได้พูดถึงฟอร์มการเล่นของ 4 นักเตะทีมชาติไทยที่สามารถโชว์ฟอร์มได้เป็นที่เข้าตาของทีมสตาฟฟ์ของอินโดนีเซีย ประกอบด้วย ดัสกร ทองเหลา เพลย์เมกเกอร์ที่มีความอันตรายในทุกรูปแบบเมื่อบอลอยู่ที่เท้าของเขา รวมถึง "โจ้ 5 หลา" ศรายุทธ ชัยคำดี ศูนย์หน้าที่ยิงดี, "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่มักจะยิงประตูอินโดนีเซียได้บ่อย โดยในรายการนี้ล่าสุดเมื่อปี 2008 เจ้าตัวยิงประตูในเกมรอบรองฯ นัดแรกที่สนามแห่งนี้ และรายสุดท้ายอย่าง สุรีย์ สุขะ แบ็กขวาที่สามารถเติมเกมรุกได้ดีแถมยังมีระเบียบวินัยในเกมรับ      

ส่งสำรองแต่หวังปิดกล่อง 9 แต้มเต็ม

     แม้จะยืนยันชัดเจนแล้วว่าอินโดนีเซียจะส่งผู้เล่นสำรองลงเยอะในเกมที่พบกับทีมชาติไทย และปิกัลได้ประกาศชัดว่าต้องเอนเทอร์เทนแฟนบอลที่ให้การสนับสนุนกันอย่างล้นหลาม พร้อมกับได้กำชับลูกทีมทุกคนที่จะได้ลงสนามว่าจะต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่ทีมชาติไทยพร้อมกับเอา 3 แต้มมาฝากแฟนบอลให้ได้ ที่สำคัญหากชนะไทยได้จะเป็นการลบสถิติเก่าๆ เพราะอินโดนีเซียไม่เคยชนะไทยในเกม 90 นาทีได้เลยใน 7 เกมที่พบกัน      

ช่วงเย็นติวแท็กติกขั้นสุดท้าย

     จากนั้นในช่วงเย็น คณะนักเตะทีมชาติไทยได้เดินทางจากโรงแรมสุลต่าน ซึ่งเป็นโรงแรมที่พักมายังสนามฝึกซ้อมฟุตบอลของสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงแรมที่พัก ซึ่งทางด้าน ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ติวแท็กติกในเรื่องทีมเวิร์กรวมถึงจังหวะจบสกอร์ไม่ว่าจะเป็นลูกกลางอากาศและลูกเจาะตามช่องที่ดูจะเน้นมากเป็นพิเศษ โดยกินเวลาในการฝึกซ้อมประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเดินทางกลับที่พักต่อไป      

เสี่ยแฮ๊งค์ชี้เกมนี้เหมือนนัดชิงฯ

     หลังเสร็จการฝึกซ้อมทางด้าน "เสี่ยแฮ๊งค์" อนุชา นาคาศัย ผจก.ทีมชาติไทย เผยว่า ตอนนี้เรามีความพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตัวผู้เล่นทุกคนมีความสมบูรณ์มากและพร้อมกับเกมนี้ แน่นอนว่าเราจะต้องเอาชนะอินโดนีเซียให้ได้เพื่อการันตีในการผ่านเข้าสู่รอบรองฯ ซึ่งมันเปรียบเสมือนเป็นเกมนัดชิงฯ สำหรับพวกเราทุกคน หากเราผ่านจุดนี้ไปได้ผมเองเชื่อเลยว่าถ้วยแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ จะต้องมาอยู่ที่ประเทศไทยอย่างแน่นอน     

ตี๋เตือนศูนย์หน้าอิเหนาโคตรคม

     ขณะที่ "ซูปเปอร์ตี๋" สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมชาติไทยในรายการนี้  เปิดเผยก่อนเกมที่จะพบกับอินโดนีเซียในฐานะที่เคยมาค้าแข้งลีกอาชีพที่นี่ว่า ครั้งที่ผมเคยมีประสบการณ์มาค้าแข้งกับสโมสรเปอร์ซิม บันดุง ในลีกอินโดนีเซีย ยอมรับเลยว่านักเตะในตำแหน่งศูนย์หน้าที่มีดีกรีทีมชาติของพวกเขานั้นค่อนข้างที่จะมีพิษสงอยู่พอสมควร ยิ่งเป็นการทำประตูในกรอบ 18 หลาแล้วด้วยนั้นยิ่งอันตรายสุดๆ แต่ผมเองรู้แล้วว่าจะเตรียมรับมือกับเรื่งนี้อย่างไร       

ช่อง 7 สียิงสดหนึ่งทุ่มครึ่ง

     สำหรับเกมคู่ระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติอินโดนีเซีย ในวันที่ 7 ธ.ค. นี้ คงมีการถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมจากสนามเจโลร่า บังคลาโน่ ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ให้แฟนฟุตบอลไทยทั่วประเทศได้รับชมในเวลา 19.30 น. ทางช่อง 7 สี ขณะที่อีกหนึ่งคู่ระหว่าง มาเลเซีย พบ ลาวจะแข่งขันในเวลาเดียวกันที่สนามศรีวิจาย่า สเตเดี้ยม เมืองปาเลมบัง      

ไทยกลับมาใส่ชุดน้ำเงินดวลชวา

     ในส่วนชุดแข่งขันที่ทีมชาติไทยจะสวมใส่ลงดวลแข้งกับอินโดนีเซีย ได้รับการยืนยันออกมาจากเอเอฟเอฟออกมาแล้วว่า ทีมชาติไทยจะกลับไปใส่ชุดแข่งสีน้ำเงินทั้งชุดเหมือนในเกมที่เสมอลาว 2-2 ขณะที่อินโดนีเซียจะอยู่ในชุดเก่งอย่าง เสื้อแดง, กางเกงขาว, ถุงเท้าแดง       

สถิติเก่าพบกัน 7 หนไทยเฮถึง 6

     สำหรับสถิติการพบกันของทีมชาติไทยกับอินโดนีเซียเฉพาะในรายการนี้ทั้งคู่พบกับ 7 ครั้ง ปรากฏว่าทีมชาติไทยเอาชนะไปได้ถึง 6 เกมประกอบด้วย ไทเกอร์คัพ 1998 เวียดนาม (รอบแรก) ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 3-2 (กฤษดา เพี้ยนดิษฐ์ น.62 , เทิดศักดิ์ ใจมั่น น.86 - เบาโด้ เบนโต้ น.52, อาจิ ซานโตโซ่ น.84 , เมอซิด เอฟเฟ่นดี้(ยิงเข้าประตูตัวเองในเกมอัปยศ น.90),ไทเกอร์คัพ 2000 ไทย (รอบแรก) ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 4-1 (วรวุฒิ ศรีมะฆะ น.25, น.49, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง น.52, ดุสิต เฉลิมแสน น.79 - โดนี คริสเตียนวาน น.57), (รอบชิงฯ) ไทย ชนะอินโดนีเซีย  4-1 (วรวุฒิ ศรีมะฆะ น.14, น.18, น.32, ทนงศักดิ์ ปะจักกะตา น.65 - อุสตัน นาวาวี่ น.20), ไทเกอร์คัพ 2002 อินโดนีเซีย&สิงคโปร์ (รอบชิงฯ-อินโดฯ) ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 6-4 (เสมอในเวลา 2-2 ก่อนชนะจุดโทษ 4-2) (ชูเกียรติ หนูสลุง น.26, เทิดศักดิ์ ใจมั่น น.38 - จาริด ริยาดี้ น.46, โดนี คริสเตียนวาน น.79) และ ซูซูกิ คัพ 2008 อินโดนีเซีย&ไทย (รอบรองฯ นัดแรก) อินโดนีเซีย แพ้ ไทย  0-1 (ธีรศิลป์ แดงดา น.6) (รอบรองฯนัดสอง) ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 2-1(ธีรเทพ วิโนทัย น.73, รณชัย รังสิโย น.89 - โนว่า อารินโต้ น.9)
   
     ส่วนเกมเดียวที่ไทยแพ้ให้กับอินโดนีเซียนั้นคือศึกไทเกอร์ คัพ 1998 เวียดนาม (ชิงที่ 3) อินโดนีเซีย ชนะ ไทย  8-7 (เสมอในเวลา 3-3 ก่อนชนะจุดโทษ 5-4) (ดีวี้ ยูริลันโต้ น.16, อาจิ ซานโตโซ่ น.33, ยูซุฟ เอ็นโคโดโน่ น.89 - ชายชาญ เขียวเสน น.18, วรวุฒิ ศรีมะฆะ น.42, โกวิทย์ ฝอยทอง น.44)       

ท่านทูตไทยเตรียมร่วมเชียร์

     สืบเนื่องมาจากที่คณะนักฟุตบอลทีมชาติไทยได้เดินทางเข้าพบและเยี่ยมเยียน ธนาธิป อุปัติศฤงค์ เอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา พร้อมร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพรเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ โดยท่านทูตเผยด้วยว่า ตนเองร่วมถึงพี่น้องประชาชนชาวไทยหลายส่วน เตรียมตัวกันไปร่วมให้กำลังใจนักเตะทีมชาติไทยในเกมที่จะพบกับอินโดนีเซียที่สนามเจโลร่า บังคลาโน่ ด้วยเช่นกัน