ผ่านพ้นไปกับศึกฟุตบอลถ้วยของเอเชียที่ตัวแทนของไทยได้ทำศึกด้วย ทั้งรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก และ เอเอฟซี คัพ ในรอบแบ่งกลุ่มนัดแรกที่ผ่านมา  โดยในถ้วยเล็ก "ฉลามชล" เกือบเจ๊งเมื่อเป็นฝ่ายไปเยือน ย่างกุ้ง ยูไนเต็ด ของพม่า ทั้งที่เกมดีกว่ามีโอกาสยิงมากกว่าแต่สุดท้ายการไปเยือนพม่าได้แค่ 1 แต้มเท่านั้น     
     
          สกอร์ 1-1 ที่ว่า ช่างกระฉากใจทั้งเจ้าถิ่น ย่างกุ้ง ยูไนเต็ด เจ้าของดับเบิลแชมป์พม่า ฤดูกาล 2011 และ ชลบุรี ได้ดีแท้

          ที่สนาม ตูวุนนา รังเหย้าของยอดทีมแห่งย่างกุ้ง ทีมดังในเนชั่นแนลลีก พม่า ชลบุรี ที่ผ่านเวทีบอลถ้วยเอเชียมา 3 หนที่มีปัญหาแบ็กซ้ายอย่าง ณัฐพงษ์ สมณะ กับ อนุชา กิจพงษ์ศรี เจ็บไม่ได้ร่วมทัพมา โดย "ฉลามชล" บุกได้มากกว่า แต่ปิดสกอร์ไม่ได้ ก่อนจะเป็นเจ้าถิ่นที่เน้นตั้งรับแน่นโต้กลับเร็ว โดยใช้หัวหอกที่จี๊ดจ๊าด อย่าง มิลาน โยวาโนวิช เล่นงานแนวรับ ชลบุรี สุดท้ายหัวหอกเซอร์เบีย รายนี้ก็แผลงฤทธิ์ ใน น.42 ซัดให้กองเชียร์ "เดอะ ไลอ้อนส์" ได้เฮไปก่อนใน 45 นาทีแรก

          จุดเปลี่ยนที่ทำให้ ชลบุรี เอฟซี โกงความตายต้องกลับไทยแบบมือเปล่า อยู่ที่ น.93 ทดเจ็บนาทีสุดท้าย ที่ กองกลางตัวสำรองทีมเยือนอย่าง คยี ลิน หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดเหน่งๆ แต่เป็น สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่ออกมาเซฟช่วยให้ทีมไม่โดนฝังสนิทไว้ได้ก่อนที่อีกไม่กี่อัดใจต่อมา "เจ้าตี๋" จะเปิดบอลมาให้ อดุล หละโสะ แทงต่อให้ คาซูโตะ คูชิดะ จ่ายแบบเหมาะเหม็งให้กับ ตัวสำรอง อย่าง สุกรี อีแต ไม่ทำให้เพื่อนผิดหวังพาทีม "ฉลามชล" โกงความตาย ยิงเข้าไปเป็นประตูตามตีเสมอให้ ชลบุรี ก่อนผู้ตัดสินจะเป่าจบเกม คู่นี้ลงเอยด้วยผลเสมอ แฟนๆ ย่างกุ้ง ไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าทีมตัวเอง พลาด 3 แต้มไปได้ไง

            ชลบุรี ได้ 1 แต้มเกมนี้กลับออกมาได้ ต้องยอมรับว่าเหลือเชื่อ
            "โค้ชเฮง" บอกว่า "ไม่ไหวจริงๆ ลูกทีมผมเล่นกันได้แย่มาก ต่ำกว่ามาตรฐาน ทุกคนไม่มีความมุ่งมั่นขาดความกะตือรือร้นไม่น่าเชื่อนั้นหมายถึงขาดความเป็นมืออาชีพเราน่าจะชนะเขาได้ในเกมนี้ เพราะมีโอกาสยิงมากกว่า แต่ได้แค่ประตูตามตีเสมอเท่านั้น ผมอยากเห็นลูกทีมเรียนรู้ความเป็นมืออาชีพให้มากขึ้นกว่านี้เพื่อตัวเขาเองและทีมชลบุรีจะได้ดีกว่าเดิม หากทุกคนเล่นกันแบบไร้ความเป็นมืออาชีพเช่นนี้เราคงไปถึงคำว่าแชมป์ทั้ง เอเอฟซีคัพ และรายการอื่นๆ ลำบากแน่นอน"

 
           ส่วนอีกถ้วยคือฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2012 "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนหนึ่งเดียวจากประเทศไทยที่ได้สิทธิ์ผ่านเข้ามาเล่นในรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติในฐานะแชมป์สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก ที่เปิดบ้านรับ คาชิว่า เรย์โซล จากญี่ปุ่น

 
           ส่วน ก่อนเกมจะเริ่มขึ้นหลายคนรู้ดีว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นรองพอสมควร ถึงขนาดที่ราคาตามเว็บไซต์การพนันให้ผู้มาเยือนเป็นต่อถึง 1 เม็ด และบางจังหวะไหลเป็น เม็ดควบ แต่เมื่อ ราฟเชน มาริตอฟ ผู้ตัดสินชาวอุซเบกิสถานเป่านกหวีดเริ่มเกมการแข่งขัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำเกมสู้กับ แชมป์เจลีกได้แบบไม่เป็นรอง ก่อนที่ จิรวัฒน์ มัครมย์ จะมาซัดประตูให้ทีมขึ้นนำไปก่อน 1-0 ใน น.10 เล่นเอาเสียงเชียร์ของแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และแฟนฟุตบอลชาวไทยที่เข้ามาชมเกมในสนามนัดนี้ ดั่งลั่นไปทั้งสนามเท่านั้นยังไม่พอช่วงท้ายครึ่งแรกใน น.39 อัสก้า จาเดลอฟ ก็มาโชว์ลูกยิงสุดสวย จากการปั่นบอลด้วยเท้าขวา ระยะ 25 หลาบอลโค้งพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม ให้สกอร์ของบุรีรัมย์ ขยับหนีห่าง 2-0 พร้อมกับจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

   
          ส่วนแต่ครึ่งหลังทางด้าน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาผ่อนเกมทำให้โดน คาซิว่า เรย์โซล ยิงคืนทีเดียว 2 ประตู ไล่มาเป็น 2-2 จากฝีเท้าของ ตานากะ น.54 และ ซากิ ฮิโรกิ น.63 แต่สุดท้ายแล้วตัวแทนของประเทศก็ไม่ทำให้คนไทยทั้งชาติผิดหวัง เมื่อ จิรวัฒน์ มัครมย์ ทำชิง 1-2 กับ อาเชียมปง ก่อนหลุดเข้าไปซัดบอลแสกหน้าผู้รักษาประตูทีมเยือนให้ทีมขึ้นนำ 3-2 พร้อมกับเป็นประตูชัยให้กับทีมคว้า 3 คะแนนในเกมนี้ 

  
          ส่วนหลังจบเกมนักเตะ สตาฟฟ์โค้ช ร่วมไปถึง "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ปธ.สโมสร ก็อยู่ในความรู้สึกเดียวกันนั้นก็คือ ดีใจและสะใจที่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ว่างไว้สำเร็จ โดยเฉพาะ "โค้ชแต๊ก" อรรพล ปุษปาคม ที่น่าจะได้เคดิสกับความสำเร็จในเกมนี้ไปแบบเต็มๆ

 
         ส่วน ขุนพล "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่า "แชมป์เซราะกราว" ทีมนี้ก้าวไปสู่ระดับเอเชียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเป้าหมายของ "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ที่เคยบอกไว้ว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะติดท็อปไฟว์ของเอเชียให้ได้ คงไม่ใช้เรื่อง "ขายฝัน" อีกต่อไป