เอเอฟซี เตรียมออกกฎบังคับใช้ให้ทุกทีมที่เข้าร่วมโม่แข้ง เอเอฟซี ชปล. ต้องมีคลับไลเซนซิ่ง ในฤดูกาล 2013 รอบอร์ด เอเอฟซี เซย์เยส ทุกอย่างเริ่มดำเนินการทันที

คณะกรรมการพัฒนาฟุตบอลอาชีพแห่งสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ได้มีประชุมใหญ่หารือแนวทางของคุณสมบัติของสโมสรต่างๆ ที่เป็นชาติสมาชิกที่เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย "เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

ด้าน มร.ซาบูโระ คาวาบูชิ ประธานในที่ประชุมได้ชี้แจงและสรุปแนวทางต่างๆ ดังนี้

จะไม่มีการตัดโควตาลีกในประเทศสมาชิกที่ไม่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกตามมาตรฐานการจัดรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี แต่จะใช้ระบบการนับคะแนนเข้ามาช่วยแทน

อย่างไรก็ตาม มาตรฐานฟุตบอลลีกในประเทศสมาชิกนั้น จำเป็นต้องทำคะแนนลีกมาตรฐานให้ได้ 600 คะแนนขึ้นไป (จากคะแนนเต็ม 1,000 คะแนน) จึงจะมีสิทธิ์ในการพิจารณาเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลรายการดังกล่าว

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คะแนนมาตรฐานด้านเทคนิค (ความมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในด้านความสามารถ) จำนวนผู้ชม หรือขนาดของธุรกิจจะไม่ถูกนำมาคำนวนเพื่อหาคะแนนเบื้องต้น (600 คะแนน) ดังกล่าว

โดยจำนวนทีมที่สามารถเข้าร่วม เอเอฟซี ชปล. 2014 ได้นั้น จะประเมินจากคะแนนของลีก กล่าวคือ

ลีกที่มีคะแนนสูงสุด 2 ลีก (ทั้งเอเชียฝั่งตะวันตก และเอเชียตะวันออก) จะได้สิทธิ์ 4 ทีมเข้าร่วมอัตโนมัติ

ลีกที่มีคะแนนเป็นอันดับ 3 จะได้สิทธิ์ 3 ทีมอัตโนมัติ+1 ทีมเพลย์ออฟ, ลีกที่มีคะแนนเป็นอันดับ 4 จะได้สิทธิ์ 2 ทีมอัตโนมัติ+1 ทีมเพลย์ออฟ, ลีกที่มีคะแนนเป็นอันดับ 5 จะได้สิทธิ์ 1 ทีมอัตโนมัติ+1 ทีมเพลย์ออฟ ส่วนลีกที่เหลือจะได้สิทธิ์เพลย์ออฟลีกละ 1 ทีม

ในขณะเดียวกัน ระบบคลับไลเซนซิ่ง ของ เอเอฟซี จะมีผลบังคับใช้สำหรับสโมสรฟุตบอลที่ประสงค์จะเข้าร่วมการแข่งขัน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ตั้งแต่ฤดูกาล 2013 เป็นต้นไป โดยสโมสรฟุตบอลดังกล่าวจะต้องได้รับใบอนุญาตจากทางสมาคมฟุตบอลภายในประเทศนั้นๆ (ที่สโมสรฟุตบอลสังกัดอยู่) ภายในเดือนตุลาคม ปี 2012 เป็นต้นไป

โดยในที่ประชุมยังได้มีการพูดคุยเรื่องการแข่งขันรายการดังกล่าวอื่นๆ เพิ่มเติมในเรื่องของวันเริ่มต้นการแข่งขัน, ช่วงเวลา, การจัดการแข่งขันพร้อมกันในรอบสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม, การเป็นเจ้าภาพในรอบชิงชนะเลิศ และอื่นๆ

อนึ่ง แนวทางและสรุปการประชุมดังกล่าวนี้จะต้องได้รับการรับรองขั้นสุดท้ายจากบอร์ดบริหารของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี จึงจะมีผลบังคับใช้ต่อไป