คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ฟอร์มกำลังสดหลังซัดคนเดียวสามลูก ช่วยให้ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด บุกมาถล่ม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ถึงถิ่น 4-1 เก็บชัยสองนัดติดต่อกัน มี 6 แต้มเต็มนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ดี ในศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันพุธที่ 3 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

(รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2)

วันพุธที่ 3 ตุลาคม 2555

(กลุ่ม ดี.)

อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) 1 - 4 เรอัล มาดริด (สเปน)

สนาม :อัมสเตอร์ดัม อารีน่า

 
        อาแจ็กซ์ แชมป์พรีเมียร์ ดัตซ์ ไม่มี โคลเบนน์ ซิกธอร์สสัน กองหน้าวัย 22 ปี ชาวไอซ์แลนด์ ที่มีอาการบาดเจ็บหัวไหล่อย่างหนัก จนต้องพักยาวอย่างน้อย 4 เดือนเต็ม รวมทั้งขาด มิราเล็ม สุไลมานี, โลเรนโซ่ เอเบซิลิโอ, ธูลานี เซเรโร่ กับ นิโคไล บอยเลเซ่น ที่บาดเจ็บทั้งหมด
 
        แผงมิดฟิลด์เกมนี้ให้ คริสเตียน โพลเซ่น, คริสเตียน เอริคเซ่น และ เซียม เดอ ยอง ช่วยกันปั้นเกมและไล่ตัดเกม ในแดนหน้าวาง โทเบียส ซาน่า, เดิร์ค บัวริกเตอร์ และ ไรอัน บาเบิ้ล เข้าขยี้ตาข่าย
 
        ทางด้าน "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เปิดบ้านเอาชนะ แมนฯซิตี้ จากอังกฤษ มาได้อย่างสนุก 3-2 ในรอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก
 
        เกมนี้ให้ ไมเคิล เอสเซียง ลงเล่นเป็นตัวจริงในแดนกลางประสานงานกับ ชาบี อลอนโซ่ และ กาก้า
 
        สามประสานแนวรุกต้องพึ่งพา โฆเซ่ กาเยฆอน, คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ช่วยกันกระทุ้งตาข่าย
 
        ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้ประมาณ 4 นาที มาร์เซโล่ แบ็คซ้ายของเรอัล จ่ายให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กดด้วยขวาเน้นๆ บอลหลุดเสาซ้ายไป
 
        หลังจากนั้นสิบนาที กาก้า จ่ายให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จับบอลแล้วซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟของ เคนเน็ธ แฟร์เมียร์ ผู้รักษาประตูของอาแจ็กซ์
 
        เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 16 ทีมเยือนครองบอลบุกเข้าใส่น่าจะได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ กาก้า สับไกติดเซฟ เคนเน็ธ แฟร์เมียร์ นายทวารอาแจ็กซ์ปัดไว้ได้บอลมาทาง เบนเซม่า ตามมาตะบันซ้ำด้วยขวามุมแคบ ทว่า แฟร์เมียร์ ยังปัดไว้ได้อีก
 
        ผ่านมา 23 นาที เจ้าถิ่นมีลุ้นบ้าง เซียม เดอ ยอง ลองสับไกจากนอกเขตโทษบอลข้ามคานออกไป
 
        มาดริด เกือบได้ประตูขึ้นนำในนาที 38 คาริม เบนเซม่า แทงบอลให้ มาร์เชโล่ หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายก่อนสับไกติดเซฟของ แฟร์เมียร์
 
        อย่างไรก็ตาม ราชันชุดขาว มาได้ประตูชัยจนได้ในนาทีที่ 42 จากจังหวะที่ คาริม เบนเซม่า พาบอลทะลุขึ้นมาทางสุดเส้นหลังด้านซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางติด โพลเซ่น บอลทะลักมาถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จิ้มด้วยขวาจ่อๆเข้าประตูไปให้เรอัล มาดริด นำก่อน 1-0 เมื่อหมดครึ่งแรก
 
        มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่ 3 นาที ทีมเยือนได้ประตูที่สองหนีห่างออกไปจากจังหวะที่สวนเร็วขึ้นมาทาง มาร์เซโล่ ลากมาทางด้านซ้ายแล้วเปิดข้ามมาทางขวาให้กับ กาก้า ดูดบอลลงแล้วตักข้ามมาเสาสองให้กับ คาริม เบนเซม่า ที่วิ่งตามขึ้นมาตีลังกายิงด้วยขวาเข้าไปสุดงามให้ เรอัล มาดริด หนีไปเป็น 2-0 แล้ว
 
        นาทีที่ 56 อาแจ็กซ์ ไล่มาเป็น 1-2 จากลูกเตะมุมทางซ้าย คริสเตียน อีริคเซ่น เปิดมาเสาสองให้กับ นิคลาส มอยซานเดอร์ กองหลังดันขึ้นมาโหม่งกดลงพื้นเข้าไป
 
        ล่วงมาถึงนาทีที่ 61 เรอัล มาดริด เปลี่ยนเอา อังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนติน่า ลงมาเล่นแทน กาเยฆอน
 
        นาทีต่อมา ดาลี่ย์ บลินด์ ของอาแจ็กซ์ เปิดบอลให้กับ เดิร์ค บัวริกเตอร์ กดด้วยซ้ายหลุดกรอบไป
 
        เกมเป็นเรอัล บุกเข้าหา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จ่ายบอลให้กับ อังเคล ดิ มาเรีย กดด้วยซ้ายเน้นไปติดเซฟของ เคนเน็ธ แฟร์เมียร์ จอมหนึบของอาแจ็กซ์อีกครั้งในนาทีที่ 64
 
        สี่นาทีต่อมา อาแจ็กซ์ น่าได้ประตูตีเสมอจริงๆ จากจังหวะที่ ไรอัน บาเบิ้ล ฉีกตัวออกมาโยนบอลจากทางด้านขวาไปเสาสอง แดนนี่ โฮเซ่น เข้ามาชาร์จด้วยซ้ายจ่อๆข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ
 
        นาทีที่ 69 อาแจ็กซ์ เปลี่ยนเอา ฟาเบียน สปอร์คสเลเด้ ลงมาเล่นแทน คริสเตียน โพลเซ่น
 
        อย่างไรก็ตาม เรอัล มาดริด มาได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ คาริม เบนเซม่า ผ่านบอลจากซ้ายให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปั่นด้วยขวาจากหน้ากรอบเขตโทษระยะประมาณ 25 หลาบอลเลี้ยวเข้าประตูไปอย่างสุดสวยช่วยให้ราชันชุดขาวนำ 3-1 ในนาทีที่ 79
 
        สองนาทีต่อมา ทีมเยือนมาได้ประตูที่สี่จากจังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลุดเดี่ยวเข้าไปตักด้วยซ้ายข้ามตัวของ เคนเน็ธ แฟร์เมียร์ นายทวารอาแจ็กซ์เข้าไปอย่างสุดคลาสสิคให้ ราชันชุดขาว นำกระจาย 4-1 และเป็นการทำแฮตทริกของ โรนัลโด้ ในเกมนี้
 
        เวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มอีกไม่ได้ จบเกม เรอัล มาดริด บุกมาเอาชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ได้ถึงรัง 4-1 เก็บชัยสองนัดติดต่อกัน มี 6 แต้มเต็มนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ดี

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
อาแจ็กซ์ : เคนเน็ธ แฟร์เมียร์ - ริคาร์โด้ ฟาน ไรจ์น, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, นิคลาส มอยซานเดอร์, ดาลี่ย์ บลินด์ - เซียม เดอ ยอง (กัปตันทีม), คริสเตียน โพลเซ่น, คริสเตียน เอริคเซ่น - โทเบียส ซาน่า, ไรอัน บาเบิ้ล, เดิร์ค บัวริกเตอร์
สำรอง : ยาสเปอร์ ชิลเลสเซ่น (ผู้รักษาประตู) - ลาสเซ่ โชน, ดาเนี่ยล โฮเซ่น, โจดี้ ลูโกกิ, โจเอล เวลต์มาน, มิตเชลล์ ไดจ์คส์, ฟาเบียน สปอร์คสเลเด้

เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ รามอส, เปเป้, มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ไมเคิล เอสเซียง, ชาบี อลอนโซ่, กาก้า - โฆเซ่ กาเยฆอน, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
สำรอง :อันโตนิโอ อาดาน (ผู้รักษาประตู) - ราฟาแอล วาราน, ซามี เคดิร่า, เมซุต โอซิล, ลูก้า โมดริช, กอนซาโล่ อิกวาอีน, อังเคล ดิ มาเรีย

ผู้ตัดสิน :โยนาส อีริคส์สัน (สวีเดน)

สรุปผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่ม เอ
- ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) ชนะ ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย) 2-0
- ปอร์โต้ (โปรตุเกส) ชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส) 1-0
กลุ่ม บี
- อาร์เซน่อล (อังกฤษ) ชนะ โอลิมเปียกอส (กรีซ) 3-1
- ชาลเก้ (เยอรมัน) เสมอ มงต์เปลลิเย่ร์ (ฝรั่งเศส) 2-2
กลุ่ม ซี
- เซนิต เซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก (รัสเซีย) แพ้ เอซี มิลาน (อิตาลี) 2-3
- อันเดอร์เลชท์ (เบลเยียม) แพ้ มาลาก้า (สเปน) 0-3
กลุ่ม ดี
- แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) เสมอ ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน) 1-1
- อาแจ็กซ์ (ฮอลแลนด์) แพ้ เรอัล มาดริด (สเปน) 1-4