เนวิน ชิดชอบ จัดหนักวรวีร์ มะกูดี ผ่านรายการตอบโจทย์ว่ากำลังทำให้องค์กรอย่างฟีฟ่าต้องมัวหมอง พร้อมไม่เชื่อไทยจะถูกแบนเพราะคัดค้านธรรมนูญใหม่เพียง 2 ข้อ

เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาเป็นแขกรับเชิญในรายการตอบโจทย์ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่ในฐานะแกนนำคนสำคัญของฝั่งต่อต้านนายวรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลคนปัจจุบัน

นายใหญ่แห่งเซราะกราว เริ่มต้นโดยการยอมรับว่าตนเองคือผู้อยู่เบื้องหลังเก้าอี้้ประมุขลูกหนังไทยของนายวรวีร์เมื่อ 2 ปีก่อนพร้อมเรียกตัวเองว่าเป็นคนบาปของวงการฟุตบอลไทย

“เมื่อ 2 ปีก่อนผมคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการล้มประชุม ผมใช้วิธีต่างๆทางการเมืองเพื่อให้คุณวรวีร์ชนะ ซึ่งถ้าผมไม่ทำคุณวิรัช (ชาญพานิชย์) เป็นผู้ชนะไป 100 กว่าเสียงแล้ว และผมเฝ้ารอมา 2 ปีว่าคุณวรวีร์จะใช้ประโยชน์จากการเป็นบอร์ดฟีฟ่านำสิ่งดีๆเข้ามาให้ไทยเหนือกว่าประเทศอื่นๆในอาเซียนหรือเอเชีย ซึ่งมันกลายเป็นความคิดที่ผิดของผม"

นายเนวิน ยังตั้งข้อสังเกตุถึงการบริหารสมาคมฟุตบอลว่าไม่มีความโปร่งใสโดยยกตัวอย่างค่าใช้จ่ายในการจัดการทีมชาติว่ามีตัวเลขที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างนักเตะและโค้ช

“ผมทำบุรีรัมย์ทุกคนรู้ดีว่าเป็นทีมที่วิ่ง 90 นาทีไม่มีหมด แต่ทำไมพอไปเล่นทีมชาติกลับวิ่งไม่ได้ ผมอยากให้ไปดูตัวเลขงบดุลของสมาคมฟุตบอลฯเมื่อปี 2555 เบี้ยเลี้ยงทีมชาติเงินสำหรับนักเตะทั้งทีมรวมกันแค่ 15 ล้านบาท แต่ผู้ฝึกสอนได้ 34 ล้านบาทต่อปี นักบอลทั้งทีมยังได้ค่าตอบแทนไม่เท่าโค้ชคนเดียวแล้วเด็กจะไปมีใจเล่นได้อย่างไร แล้วการจ้างโค้ช 34 ล้านบาทต่อปีผลงานมันต้องดีกว่านี้"

นอกจากนี้ "บิ๊กเน" พูดถึงเรื่องธรรนนูญของฟีฟ่าที่กำลังถกเถียงกันอยู่เวลานี้ว่าจริงๆแล้วกว่า 90% ตนเองและฝั่งตรงข้ามกับนายวรวีร์ยอมรับได้มีเพียง 2 ข้อที่ขัดกับกฏหมายของไทยพร้อมเชื่อมั่นว่าฟีฟ่าได้รับข้อมูลเรื่องนี้ไม่ครบถ้วนพอ

“ธรรมนุญของฟีฟ่า 81 ข้อผมรับได้หมดแต่ที่รับไม่ได้อยู่ 2 ข้อคือวาระการดำรงตำแหน่งที่เพิ่มจาก 2 ปีเป็น 4 ปีซึ่งขัดกับกฏหมายปัจจุบันของไทย แต่ภายหลังมีการเพิ่มบทเฉพาะกาลข้อ 84 ไปในธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งแสดงว่ามันแก้ไขได้ แต่ทำไมอีกข้อคือจำนวนเสียงโหวตเลือกนายกจำเป็นต้องเป็น 72 เสียงซึ่งมันเป็นการตัดสิทธิ์สมาชิกที่ผิดประมวลกฏหมายแพ่งและพานิชย์ ข้อนี้ทำไมคุณวรวีร์ไม่ทำเป็นบทเฉพาะกาลเหมือนกับวาระการดำรงตำแหน่ง"

“ผมมั่นใจว่าฟีฟ่าไม่ได้เป็นผู้วิเคราะห์เองเรื่องนี้ หากฟีฟ่าวิเคราะห์เองเขาต้องครอบคลุมโครงสร้างการบริหารงานทั้งหมดต้องมีผู้โหวตจากฟุตบอลหญิง ฟุตซอล หรือตัวแทนผู้ตัดสินด้วย ผมไม่คิดว่าฟีฟ่าจะมาซีเรียสอะไรกับ 72 เสียงขนาด 2 ปี 4 ปีเขายังไม่ซีเรียสมีแต่คุณวรวีร์นั่นแหละที่ซีเรียส และผมมั่นใจว่าหากเราเลือกตั้งนายกก่อนภายในวันที่ 23 ก.ค.นี้ จากการที่สโมสรเข้าชื่อเพื่อขอเปิดประชุมจากนั้นก็ชี้แจงกับฟีฟ่าเขาจะต้องฟังเรา"

“ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ฟีฟ่ารู้หรือไม่ว่าคุณวรวีร์ที่เป็นบอร์ดฟีฟ่ากำลังทำให้ฟีฟ่าซึ่งเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือที่สุดในความคิดของแฟนบอลชาวไทยกลายเป็นองค์กรที่ถูกด่ามากที่สุดจนถึงขนาดที่ว่าบางคนบอกอยากจะแบนก็แบน ส่วนตัวผมหากถามว่าถ้าฟีฟ่าแบนประเทศไทยแล้วบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะไม่ได้เล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ต่อจะเป็นอย่างไร ผมบอกได้เลยว่าผมยอมเพราะชาติต้องมาก่อน" เนวิน ชิดชอบ กล่าว