อันเดร เชือร์เล่ แข้งคมกริบกดสามตุงช่วย "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน ที่ตาม "ไวกิ้ง" สวีเดน ถึง 0-2 พลิกกลับมาชนะ 5-3 ขณะที่ "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ บุกไล่ต้อน "ไก่งวง" ตุรกี สบาย 2-0 ส่วน "อัซซูรี่" อิตาลี ตามตีเสมอ อาร์เมเนีย 2-2 โดยผลงานของ มาริโอ บาโลเตลลี่ ตัวสำรอง ทั้งนี้ เยอรมัน, ฮอลแลนด์ และ อิตาลี จบที่แชมป์กลุ่มและเข้ารอบสุดท้ายที่บราซิลทั้งสามทีม ในศึกฟุตบอลโลก 2004 (รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มซี.) เมื่อคืนวันอังคารที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอลโลก 2014

(รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มซี.)

วันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2556

สวีเดน 3 - 5 เยอรมัน

สนาม : เฟรนด์ส อารีน่า (โซลนา, สวีเดน)    ผู้ชม : 50,000 คน

        ทีมชาติสวีเดน รองแชมป์กลุ่มซี. ที่คว้าสิทธิ์ไปเล่นรอบเพลย์-ออฟเรียบร้อยแล้ว ลงเล่นในเฟรนด์ส อารีน่า กรุงโซลนา พบ เยอรมัน แชมป์กลุ่ม ที่ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้ายได้สำเร็จ

        เอริค ฮัมเรน กุนซือสวีเดนไม่มี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หัวหอก กัปตันทีมติดโทษแบน ทำให้ โอล่า ตอยโวเน่น ลงเล่นแทน ส่วน โยอัคคิม เลิฟ เทรนเนอร์เยอรมันขาด ซามี่ เคดิร่า มิดฟิลด์เรอัล มาดริด ติดโทษแบน และเกมนี้ มักซ์ ครูเซ่ กองหน้ามึนเช่นกลัดบัคได้ลงสนาม

        เกมครึ่งแรก ผ่านไปเพียง 6 นาที สวีเดนนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว เซบาสเตียน ลาร์สสัน มิดฟิลด์ กัปตันทีมทำทางให้ โทเบียส ไฮเซ่น ซัดเท้าซ้ายในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายตุงตาข่าย

        นาที 12 เยอรมันเกือบได้เฮเมื่อ มาร์เซลล์ ยานเซ่น โยนบอลมาเข้าหัว โธมัส มุลเลอร์ โขกในกรอบเขตโทษฝั่งขวา บอลพุ่งชนคานอย่างจัง

        จากนั้นทีมเยือนบุกหนัก นาที 30 อันเดร เชือร์เล่ ได้บอลจ่ายให้ เมซุต โอซิล ยิงเผาขนไปติด โยฮัน ไวลันด์ นายทวารเซฟได้เยี่ยม

        อย่างไรก็ตามกลับเป็นฝั่ง สวีเดนที่นำห่าง 2-0 นาที 42 ราสมุส เอล์ม ผ่านบอลแม่นยำให้ โทเบียส ไฮเซ่น ซัดเท้าซ้ายหน้าประตูเรียบร้อย นับเป็นประตูที่สองของเขาในนัดนี้

        แต่นาที 45 เยอรมันตีไข่แตกไล่ตามหลังมาที่สกอร์ 1-2 โทนี่ โครส ได้บอลในแดนกลางจ่ายต่อให้ มักซ์ ครูเซ่ เปิดไปให้ เมซุต โอซิล ซัดเท้าขวาระยะ 14 หลา บอลพุ่งเสียบมุมเข้าประตู จบครึ่งแรก สวีเดนนำ 2-1

        มาถึงครึ่งหลัง ทีมเยือนส่ง มาริโอ เกิทเซ่ เล่นแทน โธมัส มุลเลอร์ นาที 46

        จากนั้น เยอรมันตีเสมอ 2-2 นาที 53 เมซุต โอซิลได้บอลเปิดไปถึง มาริโอ เกิทเซ่ มิดฟิลด์ตัวสำรองยิงเท้าขวาหน้าประตูเรียบร้อย

        และนาที 57 เยอรมันพลิกกลับมานำ 3-2 เพอร์ นีลส์สัน เซนเตอร์ฮาล์ฟเจ้าถิ่นจ่ายบอลพลาด และเป็น อันเดร เชือร์เล่ หลุดเข้าไปยิงเท้าขวาในกรอบเขตโทษตุงตาข่าย

        ทีมเยือนนำห่างเป็น 4-2 นาที 66 มิคาเอล อันตอนส์สัน กองหลังเจ้าถิ่นสกัดบอลไม่สำเร็จ มักซ์ ครูเซ่ จ่ายต่อให้ เกิทเซ่ ก่อนมาถึง อันเดร เชือร์เล่ ซัลโวเท้าขวาระยะเผาขนเข้าไป นับเป็นลูกที่สองของเขาในนัดนี้  

        อย่างไรก็ตาม เจ้าถิ่นไล่ตามหลังมาที่สกอร์ 3-4 ในนาที 69 เซบาสเตียน ลาร์สสัน เปิดฟรีคิกเข้ามาหน้าประตูให้ โทเบียส ไฮเซ่น วอลเล่ย์เต็มเท้าซ้ายเข้าไป นับเป็นประตูที่สองของเขาในนัดนี้

        อินทรีเหล็กเดินเครื่องต่อนำห่าง 5-3 โทนี่ โครส ชิ่งบอลให้ อันเดรเชือร์เล่ ซัลโวเท้าขวาระยะไกลเข้าประตู นาที 76 ส่งผลให้ เชือร์เล่ ทำแฮท-ทริค จัดการคนเดียวถึงสามประตูในนัดนี้ จบเกม เยอรมัน บุกมาชนะ สวีเดน 5-3

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

        สวีเดน : โยฮัน ไวลันด์ - ปิแอร์ เบนต์สสัน, เพอร์ นีลส์สัน, มิคาเอล อันตอนส์สัน, มาร์ติน โอลส์สัน - เซบาสเตียน ลาร์สสัน (กัปตันทีม), คิม คัลล์สตรอม, ราสมุส เอล์ม (อันเดอร์ส สเวนส์สัน น.59), อเล็กซานเดอร์ คาคานิคลิช (จิมมี่ ดูร์มาซ น.73) - โทเบียส ไฮเซ่น, โอล่า ตอยโวเน่น (ปอนตุส เวิร์นบลูม น.84)

        ใบเหลือง : มาร์ติน โอลส์สัน น.29

        เยอรมัน : มานูเอล นอยเออร์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม (กัปตันทีม), มัทส์ ฮุมเมลส์, เยโรม บัวเต็ง, มาร์เซลล์ ยานเซ่น - โทนี่ โครส, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - โธมัส มุลเลอร์ (มาริโอ เกิทเซ่ น.46), เมซุต โอซิล (ยูเลี่ยน ดรั๊กซ์เลอร์ น.82), อันเดร เชือร์เล่ - มักซ์ ครูเซ่ (เบเนดิคท์ เฮอเวเดส น.75)

        ใบเหลือง : อันเดร เชือร์เล่ นง32, มัทส์ ฮุมเมลส์ น.64, เบเนดิคท์ เฮอเวเดส น.79

        ผู้ตัดสิน : วิลเลี่ยม คอลลัม (สก็อตแลนด์)

ตุรกี 0 - 2 ฮอลแลนด์

(กลุ่ม ดี.)

สนาม : อาตาเติร์ค สตาดิโอน

        ตุรกี ลงทำศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกนัดสำคัญที่สนาม อาตาเติร์ค สตาดิโอน โดยเกมนี้พวกเขาต้องการผลการแข่งขันเพื่อแย่งตัวเพลย์ออฟในกลุ่มนี้ให้ได้ พบกับ ฮอลแลนด์ ที่เข้ารอบไปเรียบร้อยแล้ววันนี้ปรับทัพหลายตำแหน่งแต่ก็ยังมีสามตัวทีเด็ด อย่าง เวสลี่ย์ ชไนจ์เดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลงสนาม ส่วนทางฝั่งเจ้าถิ่นใช้งาน อูมัต บูลัต จับคู่ เซฟา ยิลมาซ ในแดนหน้า

        เล่นกันมาแค่ 8 นาที อัศวินสีส้ม มาได้ประตูออกนำไปอย่างรวดเร็วจากจังหวะฟรีคิ๊กริมเส้นด้านขวา อาร์เยน ร็อบเบน รับหน้าที่เปิดโค้งเข้าหาประตูมีตัวเข้ามาชาร์จและไม่มีใครเข้าถึงแต่ทิศทาง บอลจาก ร็อบเบน ยังเข้ากรอบโค้งเสียบมุมเข้าไปเลย 1-0

        ถึงนาทีที่ 25 เป็นโอกาสของฝั่ง ตุรกี บ้างจากลูกเตะมุม เชลชุค อินาน ครอสบอลเข้ามาในกรอบโทษเข้าทาง อาร์ด้า ตูราน สอดเข้ามาชาร์จระยะเผาขนแต่หลุดกรอบเหลือเชื่อ

        เป็นโอกาสบุกต่อเนื่องของทีมไก่งวงในอีก 2 นาทีให้หลัง โอเมอร์ โทปรัค โหม่งเช็ดบอลต่อมาถึง อาร์ด้า ตูราน เก็บตกบอลได้บริเวณริมกรอบโทษด้านขวาก่อนซัดเต็มเท้าแต่บอลก็ไปตรงตัว เยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น เซฟไว้ได้

        ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที ฮาซัน อาลี คัลดิริม กรชากบอลขึ้นทางริมเส้นก่อนเปิดโด่งเข้ามาในกรอบ อูมัต บูลัต โฉบเข้ามาโขกเต็มหัวแต่บอลเฉี่ยวสามเหลี่ยมขวาออกไปนิดเดียวเท่านั้น พลาดโอกาสไปสำหรับ ตุรกี

        และก็จบเกมในครึ่งแรกไป ฮอลแลนด์ นำ ตุรกี 1-0

        มาเล่นต่อครึ่งหลังเพียง 2 นาที ฮอลแลนด์ ฉีกหนีเป็น 2-0 เดิร์ก เค้าท์ ตัวสำรองที่ลงมาแทน บรูโน่ มาร์ติน อินดี้ ในช่วงเปิดครึ่งหลังถ่ายบอลมาทางกรอบโทษด้านขวาให้ เวสลี่ย์ ชไนจ์เดอร์ ได้ซัดโล่งๆเข้าไป โดยมิดฟิลด์ตัวเก่งไม่ออกอาการดีใจเป็นการให้เกียรติแฟนบอลเติร์กเพราะตนเอง ค้าแข้งอยู่ในลีกตุรกี

        อาร์เยน ร็อบเบน ได้สับหน้ากรอบโทษระยะ 25 หลา นาทีที่ 51 แต่ก็ไม่ผ่านมือ โวลคาน เดมิเรล

        ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 87 ตุรกี หวิดจะตีไข่แตกได้ โอลคาย ซาฮาน ตัวสำรองที่ลงมาเปิดจากริมเส้นไปให้ เซงค์ โทซุน แข้งสำรองอีกรายโขกกลางกรอบโทษแต่ก็หลุดกรอบ

        และก็จบเกมการแข่งขันไป ฮอลแลนด์ เอาชนะ ตุรกี 2-0 เป็นอันว่าทีมไก่งวงต้องอกหักตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกไปเรียบร้อย

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        ตุรกี : โวลคาน เดมิเรล, เซมีห์ คาย่า, ฮาซัน อาลี คัลดิริม, โกคาน โกนุล, โอเมอร์ โทปรัค, เชลชุค อินาน (เซงค์ โทซุน น.76), อาร์ด้า ตูราน, เมห์เม็ด โทปาล, โอลคาน อาดิน (โกคาน ตอเร่ น.56), อูมัต บูลัต, เซฟา ยิลมาซ (โอลคาย ซาฮาน น.56)

        ฮอลแลนด์ : เยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น, ดาร์ราย แยนมาต, รอน ฟลาร์, บรูโน่ มาร์ติน อินดี้ (เดิร์ก เค้าท์ น.46), ดาเลย์ บลินด์, ยอร์ดี้ คลาซี่, เยเรเมน เลนส์ (เมมฟิส เดปาย น.89), เลอรอย เฟอร์, เวสลี่ย์ ชไนจ์เดอร์, อาร์เยน ร็อบเบน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (เจฟฟรี่ บรูม่า น.46)

อิตาลี 2 - 2 อาร์เมเนีย

(กลุ่ม บี.)

สนาม : ซาน เปาโล

        อัซซูรี่ ตีตั๋วเข้ารอบสุดท้าย เวิลด์คัพ 2014 ในฐานะแชมป์กลุ่มบีไปแล้ว ลงเตะในบ้านนัดสุดท้ายเจอกับ อาร์เมเนีย ทีมอันดับ 5 ที่ยังมีหวังน้อยนิด ต้องบุกชนะแล้วลุ้นผลคู่อื่นๆ ให้เป็นใจด้วย

        เริ่มเกมแค่ 5 นาที อาร์เมเนีย ได้ประตูนำ 1-0 อย่างไว เฮนริค มคิตาร์ยาน พาบอลลุยขึ้นมาแล้วไหลเข้าเขตโทษด้านขวาให้ ยูรา มอฟซิสยาน กดด้วยขวาผ่าน มาร์เค็ตติ เสียบตาข่าย

        เจ้าบ้านเกือบตีเสมอได้เร็วในอีก 3 นาทีต่อมา อินญาซิโอ อบาเต้ เติมเกมขึ้นทางขวาแล้วเปิดเข้ากลาง ปาโบล ออสวัลโด้ ตวัดยิงด้วยซ้ายหลุดเสาออกไป

        นาทีที่ 24 อัซซูรี่ ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ โยนให้ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ โฉบโหม่งเช็ดเสียบเสา เป็นประตูแรกในนามทีมชาติของมิดฟิลด์ โรม่า ด้วย จบครึ่งแรก เสมอ 1-1

        ครึ่งหลัง อิตาลี ต้องส่ง มาริโอ บาโลเตลลี่ ลงแทน ออสวัลโด้ ในนาที 54 ก่อนจะส่ง อันโตนิโอ คันเดรว่า แทน ฟลอเรนซี่ อีกคนในนาที 60

        เจ้าถิ่นบุกมากกว่า แต่กลับเป็น อาร์เมเนีย ที่นำอีกครั้ง 2-1 ในนาที 70 เกวอร์ก กาซาร์ยาน เปิดลูกเตะมุมไปให้ เฮนริค มคิตาร์ยาน โหม่งที่เสาแรกเสียบใต้คานเข้าไป

        อิตาลี เปลี่ยนคนสุดท้ายส่ง จูเซ็ปเป้ รอสซี่ แทน อาควิลานี่ ในนาที 73

        นาที 76 อัซซูรี่ ตามตีเสมอ 2-2 อันเดรีย ปิร์โล่ ชิพบอลให้ มาริโอ บาโลเตลลี่ ตัวสำรอง หลุดไปกระดกนิ่มๆ ข้าม เบเรซอฟสกี้ ซุกก้นตาข่าย

        จบเกม อิตาลี เสมอ อาร์เมเนีย 2-2 อัซซูรี่ จบที่ 1 อยู่แล้ว ส่วนทีมเยือนตกรอบ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


        อิตาลี : เฟเดริโก้ มาร์เค็ตติ, อินญาซิโอ อบาเต้, ดาวิเด้ อัสตอรี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, มานูเอล ปาสกวาล, อันเดรีย ปิร์โล่, ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่, อัลแบร์โต้ อาควิลานี่, อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, ลอเรนโซ่ อินซินเญ่, ปาโบล ออสวัลโด้


        อาร์เมเนีย : โรมัน เบเรซอฟสกี้, วาราซดัต ฮาโรยาน, โรเบิร์ต อาร์ซูมานยาน, ฮราเยอร์ มโคยาน, เลวอน ฮายราเปตยาน, คาร์เลน มเคอร์ตยาน, เกวอร์ก กาซาร์ยาน, เฮนริค มคิตาร์ยาน, อาร์ตูร์ เยดิอาร์ยาน, อาราส ออซบิลิซ, ยูรา มอฟซิสยาน


        ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ (อังกฤษ)




สรุปผลฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2014
  กลุ่ม A
- เซอร์เบีย ชนะ มาซิโดเนีย  5 - 1     
- สกอตแลนด์ ชนะ โครเอเชีย  2 - 0  
- เบลเยียม เสมอ เวลส์   1 - 1   
  กลุ่ม B
- บัลแกเรีย แพ้ สาธารณรัฐเช็ก  0 - 1     
- เดนมาร์ก ชนะ มอลต้า  6 - 0  
- อิตาลี เสมอ อาร์เมเนีย  2 - 2    
  กลุ่ม C
- ไอร์แลนด์ ชนะ คาซัคสถาน  3 - 1   
- หมู่เกาะแฟโร แพ้ ออสเตรีย  0 - 3    
- สวีเดน แพ้ เยอรมัน  3 - 5
  กลุ่ม D
 - ฮังการี ชนะ อันดอร์ร่า  2 - 0   
- โรมาเนีย ชนะ เอสโตเนีย   2 - 0      
- ตุรกี แพ้ ฮอลแลนด์  0 - 2 
  กลุ่ม E
- นอร์เวย์ เสมอ ไอซ์แลนด์   1 - 1  
- สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ สโลวีเนีย  1 - 0
- ไซปรัส เสมอ แอลเบเนีย 0 - 0    
  กลุ่ม F
- โปรตุเกส ชนะ ลักเซมเบิร์ก   3 - 0 
- อิสราเอล เสมอ ไอร์แลนด์เหนือ  1 - 1    
- อาเซอร์ไบจาน เสมอ รัสเซีย  1 - 1    
  กลุ่ม G
- กรีซ ชนะ ลิกเตนสไตน์  2 - 0 
- ลิทัวเนีย แพ้ บอสเนีย  0 - 1   
- ลัตเวีย เสมอ สโลวาเกีย  2 - 2     
  กลุ่ม H
- ซาน มาริโน่ แพ้ ยูเครน   0 - 8    
- มอนเตเนโกร แพ้ มอลโดวา   2 - 5 
- อังกฤษ ชนะ โปแลนด์   2 - 0
  กลุ่ม I
- ฝรั่งเศส ชนะ ฟินแลนด์    3 - 0 
- สเปน ชนะ จอร์เจีย   2 - 0

..........................................
- กานา ชนะ อียิปต์  6 - 1