"ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึกโดยจะส่ง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ลงยิงลุ้นชัยเพื่อหวังคว้าแชมป์แรกในรอบ 9 ปี ขณะที่ "เสือน้อย" ฮัลล์ ซิตี้ เกมนี้พวกเขาจะสู้แบบถวายหัวเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสร ลุ้นระทึกได้ในศึกที่ไม่มีที่ว่างสำหรับผู้แพ้ ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ (รอบชิงชนะเลิศ) คืนวันเสาร์ที่ 17 พ.ค. ศกนี้

ปรีวิวฟุตบอล เอฟเอ คัพ

(รอบชิงชนะเลิศ)

วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม 2557

อาร์เซน่อล - ฮัลล์

ถ่ายทอดสด : ช่อง 7 (เวลา : 23.00 น.)

สนาม : เวมบลีย์

        รอบชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 133 ของฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อาร์เซน่อล ซึ่งผ่านเข้าชิงเป็นครั้งที่ 18 เจอกับ ฮัลล์ ซิตี้ ทีมจากลีกสูงสุดเช่นกันที่ผ่านเข้าชิงครั้งแรก

        อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ เดอะ กันเนอร์ส ทำทีมหมดลุ้นแชมป์ลีกช่วงโค้งสุดท้าย แต่ก็จบอันดับ 4 คว้าตั๋ว แชมเปี้ยนส์ ลีก ตามเป้า โดยมีแต้มตาม แมนฯ ซิตี้ แชมป์แค่ 7 คะแนน

        สภาพทีมต้องเช็กความพร้อม แจ็ค วิลเชียร์ ที่เพิ่งกลับมาจากกระดูกเท้าแตก ลงเป็นตัวสำรองครึ่งชั่วโมงสุดท้ายเกมบุกชนะ นอริช 2-0 เมื่อวันอาทิตย์

        ที่บาดเจ็บต้องรอทดสอบความฟิต อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (โคนขาหนีบ) กับ โธมัส แฟร์มาเล่น (เข่า) ส่วน ธีโอ วัลค็อตต์ กับ แซร์ช กนาบรี พลาดช่วยทีมต่อ

        ผู้รักษาประตูต้องตัดสินใจว่าจะให้ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ มือ 2 ที่เฝ้าเสารายการนี้มาตลอดลงเล่นต่อหรือไม่ หลังพัก วอยเชค เชสนี่ มือ 1 เป็นสำรองเกมลีกนัดสุดท้าย

        กองหน้าตัวเป้าต้องตัดสินใจว่าจะเรียก โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ตัวหลักลงเป็นสิบเอ็ดคนแรกหรือไม่ เพราะ 5 รอบก่อนหน้านี้ไม่เคยลงตัวจริงเลย

        ด้าน ฮัลล์ ซิตี้ คว้าตั๋วลุย ยูโรปา ลีก ฤดูกาลหน้าแล้ว ถ้าแชมป์จะได้เล่นรอบแบ่งกลุ่มทันที แต่ถ้าเป็นรองแชมป์ ต้องไปเล่นรอบคัดเลือก รอบสาม

        หลังจากรอบรองฯ ที่ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 5-3 สมาธินักเตะก็หลุดมาอยู่ที่เกมรอบชิงฯ กันหมดแล้ว ทำให้ผลงานในลีกย่ำแย่ เสมอ 1 แพ้ถึง 4

        กุนซือ สตีฟ บรูซ มีข่าวดีตั้งแต่นัดก่อน อัลลัน แม็คเกรเกอร์ ประตูมือ 1 ที่พักมา 6 สัปดาห์ กลับมาเฝ้าเสาได้แล้ว พร้อมลงตัวจริงเกมสำคัญ

        อีกข่าวดีแบบสุดเซอร์ไพรส์ ร็อบบี้ เบรดี้ ปีกซ้ายที่พักยาวมากว่า 3 เดือน หลังผ่าตัดโคนขาหนีบ ล่าสุดกลับมาซ้อมแล้ว อาจมีชื่ออยู่ในทีม

        อีก 3 คนที่ต้องรอทดสอบความฟิต พอล แม็คเชน (ข้อเท้า), เจมส์ เชสเตอร์ (เอ็นหลังหัวเข่า) และ โซเน่ อาลูโก้ (ข้อเท้า) ก็คาดว่าจะพร้อมทั้งหมด

        แดนหน้าต้องขาด นิคิช่า เยลาวิช กับ เชน ลอง ติดคัพ-ไททั้งคู่ ทำให้ ยานนิค ซักโบ กับ แม็ตตี้ ฟรายแอ็ตต์ ได้รับโอกาสลงเล่นแทน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        อาร์เซน่อล : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, บาการี่ ซานญ่า, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลร็อง กอสซิแอลนี่, นาโช่ มอนเรอัล, มิเกล อาร์เตต้า, อารอน แรมซี่ย์, เมซุต โอซิล, ซานติ กาซอร์ล่า, ลูคัส โพดอลสกี้, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

        ฮัลล์ : อัลลัน แม็คเกรเกอร์, อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้, อเล็กซ์ บรูซ, เคอร์ติส เดวิส, มายนอร์ ฟิเกรัว, เลียม โรซีเนียร์, ทอม ฮัดเดิลสตัน, เจค ลิเวอร์มอร์, เดวิด มายเลอร์, แม็ตตี้ ฟรายแอ็ตต์, ยานนิค ซักโบ

        ผู้ตัดสิน : ลี โพรเบิร์ต

เกร็ดข้อมูลน่าสนใจ
นัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ อาร์เซน่อล - ฮัลล์ ซิตี้
- นับตั้งแต่ฟุตบอลลีกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1888 ในเกมเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ของทุกๆฤดูกาลที่ผ่านมา จะต้องมีทีมจากลีกสูงสุดอย่างน้อย 1 ทีม โดยในฤดูกาลนี้ ทั้ง ฮัลล์ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล เอาชนะทีมจากลีกต่ำกว่ามาเหมือนกันในรอบรองชนะเลิศ
- อาร์แซน เวนเกอร์ พาอาร์เซน่อลเข้าชิงชนะเลิศบลอลถ้วยมาแล้ว 10 ครั้ง และครั้งนี้จะเป็นการชิงเอฟเอ คัพ ครั้งที่ 6 ของเจ้าตัว
- อาร์เซน่อล เข้าชิงฯเอฟเอ คัพ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 18 มีเพียง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเท่านั้นที่ทำได้เทียบเท่า
- ทีม "ปืนโต" ได้แชมเอฟเอ คัพมาแล้ว 10 ครั้ง มี แมนฯ ยูไนเต็ดทีมเดียวเท่านั้นที่ทำได้มากกว่า (11)
- นี่จะเป็นเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรฮัลล์ ซิตี้ ทำให้พวกเขาเป็นทีมที่ 57 ที่ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงดำรายการนี้
- อาร์เซน่อล เอาชนะ ฮัลล์ ซิตี้ ได้ 2 จาก 5 ครั้งที่พบกันในเอฟเอ คัพ (เสมอ 2 แพ้ 1) นอกเหนือจากการพบกันครั้งล่าสุดเมื่อปี 2009 ทั้งสองทีมไม่เคยเจอกันในรายการนี้เลยนับตั้งแต่ปี 1930
- เกมชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ 7 ครั้งหลังสุด มีประตูเกิดขึ้นเพียง 11 ประตูเท่านั้น โดยทั้ง 7 ครั้งที่ผ่านมา เป็นการเฉืนกันด้วยประตูเดียวเท่านั้น
- อาร์เซน่อล ไม่เสียประตูเลยในเกมเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ 3 ครั้งหลังสุด
- อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายชูถ้วยเอฟเอ คัพใน 5 จาก 6 ครั้งหลังสุดที่เข้าชิงฯ
- มีเพียงครั้งเดียวจาก 5 ครั้งหลังสุด ที่ทีมเข้าชิงฯเอฟเอ คัพเป็นครั้งแรกแล้วสามารถคว้าแชมป์มาครองได้เลย ทว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว (วีแกน ชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0)
- อาร์เซน่อล ยิง ฮัลล์ ซิตี้ ได้ 19 ประตู จาก 8 เกมหลังสุดที่พบกันในทุกรายการ
- ฮัลล์ ซิตี้ ยิง อาร์เซน่อล ได้เพียงประตูเดียวจาก 4 นัดหลังสุดที่พบกันในทุกรายการ
- ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ พ่ายเพียงครั้งเดียวจาก 7 นัดหลังสุดที่ลงทำศึกเอฟเอ คัพพบกับทีมจากดิวิชั่นเดียวกัน (ชนะ 5 เสมอ 1)
- 6 เกมของ ฮัลล์ ซิตี้ ในเอฟเอ คัพฤดูกาลนี้ มีประตูเกิดขึ้นรวมกัน 20 ประตู
- "เดอะ ไทเกอร์ส" ชนะเพียง 3 จาก 11 ครั้งหลังสุดที่ทำศึกเอฟเอ คัพ กับทีมจากดิวิชั่นเดียวกัน (เสมอ 1 แพ้ 7)
- นิกิช่า เยลาวิช ยิงได้ 2 ประตูในเกมเอฟเอ คัพรอบ 3 กับคิวพีอาร์สมัยยังเล่นให้เอฟเวอร์ตัน ทำให้ไม่สามารถลงเล่นได้ในเกมนี้เนื่องจากติดคัพไท
- เชน ลอง ยิง 5 ประตู จาก 7 เกมหลังสุดที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในรายการเอฟเอ คัพ ทว่าจะไม่สามารถลงเล่นในเกมนี้ได้เนื่องจากเคยลงเล่นให้เวสต์บรอมวิชไปแล้ว ในฤดูกาลนี้
- แม็ตตี้ ฟรายอัตต์ ยิง 10 ประตู จากการออกสตาร์ทตัวจริง 13 ครั้งในรายการเอฟเอ คัพ รวมถึงการยิง 7 ประตู จาก 8 เกมหลังสุด โดยที่เจ้าตัวยิงประตูในรอบรองชนะเลิศฤดูกาลนี้ได้ด้วย ทั้งๆที่ลงสนามเป็นตัวสำรอง
- โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ยิง 5 ประตู จาก 6 นัดหลังสุดที่ลงทำศึกเอฟเอ คัพ รวมถึง 3 ประตู จาก 4 เกมที่ลงเล่นเป็นตัวสำรองในฤดูกาลนี้
- ลูคัส โพดอลสกี้ ยิง 4 ประตู จากการลงสนามทำศึกเอฟเอ คัพ ให้กับอาร์เซน่อลทั้งหมด 5 เกม
- นิคลาส เบนท์เนอร์ ยิง 3 ประตู จาก 4 เกมที่ลงสนามพบกับฮัลล์ ซิตี้

ปืนมุ่งมั่นแชมป์แรกในรอบ 9 ปี

        เดอะ กันเนอร์ส ปราศจากความสำเร็จมายาวนานถึง 9 ปี หลังจากคว้าแชมป์หนสุดท้ายเมื่อปี 2005 ก็คือถ้วย เอฟเอ คัพ ใบนี้ ที่เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการดวลจุดโทษ 5-4 หลังเสมอในเวลา 120 นาที 0-0

        เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ปืนใหญ่ ใกล้เคียงที่สุดที่จะคว้าแชมป์ ลีก คัพ แต่ก็โดนทีเด็ดของ โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ ช่วงท้ายเกม แพ้ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ รอบชิงชนะเลิศ ที่ เวมบลีย์

เดินหน้าทาบสถิติแชมป์มากสุดเท่าผี

        อาร์เซน่อล ยังเดินหน้าทำสถิติคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มากที่สุด เทียบเท่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ 11 สมัยด้วย หากเอาชนะ ฮัลล์ ซิตี้ วันเสาร์ที่ 17 พ.ค. นี้

        ก่อนหน้านี้ ปืนใหญ่ คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาแล้ว 10 สมัย เป็นรองแค่ ปีศาจแดง ทีมเดียว แต่ทั้งสองทีมเป็นรองแชมป์เท่ากันที่ 7 ครั้ง

        นอกจากนี้ จากการเข้าชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ในฤดูกาลนี้ ทำให้ เดอะ กันเนอร์ส ทำสถิติผ่านเข้าชิงมากที่สุดเท่ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ 18 ครั้งแล้ว

ไม่กลัวหน้าแหก! ปืนทำรถฉลองแชมป์รอ

        อาร์เซน่อล มั่นใจสุดๆ ชนิดไม่กลัวเสียหน้า หลังมีข่าวว่า พวกเขาสั่งทำรถบัส 2 ชั้นเปิดหลังคาฉลองแชมป์ เอฟเอ คัพ เป็นที่เรียบร้อย หลังมีภาพหลุดมาในโลกออนไลน์

        ภาพถ่ายดังกล่าวถูกบันทึกไว้ได้ที่เขตอิสลิงตัน กรุงลอนดอน โชว์ให้เห็นด้านหลังของรถบัสสองชั้นสีแดง ที่มีตราโลโก้สโมสร เดอะ กันเนอร์ส ขนาดใหญ่อยู่ด้านบน โดยมีข้อความข้างใต้ว่า แชมป์เอฟเอ คัพ 2014 พร้อมกับรูปถ้วยสีขาวอยู่ด้านล่าง สำหรับขนขบวนนักเตะและเจ้าหน้าที่สโมสรแห่ฉลองแชมป์ในวันอาทิตย์ทันที

แฟร์มาเล่นมั่นใจปืนซิวเอฟเอคัพ

        โธมัส แฟร์มาเล่น กองหลังกัปตันทีม อาร์เซน่อล มั่นใจทีมของเขาแกร่งพอที่จะคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ฤดูกาลนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของทีมในฤดูกาลต่อๆ ไปด้วย

        แฟร์มาเล่น กล่าวว่า "มันคงจะทำให้เราได้รับการยกย่องอย่างยิ่งใหญ่ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า หากเราสามารถคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้ เรามีศักยภาพฝีเท้าสูงมากอยู่ในทีมชุดนี้ และจะทำให้พวกเขารู้สึกมีความมั่นใจมากสำหรับการเล่นในฤดูกาลต่อๆ ไป"

ฮัลล์หวังเซอร์ไพรส์ซิวแชมป์แรก

        หากเทียบประวัติศาสตร์แล้ว ฮัลล์ ซิตี้ เป็นรองหลายขุม เพราะผลงานที่ดีที่สุดใน เอฟเอ คัพ ของพวกเขาคือการผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศตั้งแต่ปี 1930

        ครั้งเดียวที่ เดอะ ไทเกอร์ส เสนอชื่อตัวเองเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 84 ปีที่แล้ว ซึ่งพวกเขาพ่ายต่อ อาร์เซน่อล ที่ต้องเล่นกันถึงนัดรีเพลย์ ก่อนที่ ปืนใหญ่ จะคว้าแชมป์ในปีดังกล่าวด้วย

        จากประวัติศาสตร์ 110 ปีของ ฮัลล์ เคยคว้าแชมป์รายการใหญ่หนเดียวคือดิวิชั่น 3 (ลีกวันปัจจุบัน) ฤดูกาล 1965-66 นอกนั้นคือแชมป์ดิวิชั่น 3 ตอนเหนือ (นอกลีก) 2 ครั้ง และชนะเพลย์ออฟ แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2007-08

เวนเกอร์ยันอนาคตปืนไม่ขึ้นอยู่ที่เกมนี้

        อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ยืนยันว่า ผลลัพธ์จากเกมเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ไม่ได้เป็นตัวตัดสินอนาคตว่าตนจะตอบตกลงขยายสัญญาอยู่ในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต่อไปหรือไม่

        กุนซือชาวฝรั่งเศส เขียนบทความใน ยูโรสปอร์ต สถานีโทรทัศน์ช่องกีฬาของฝรั่งเศสว่า "ผลการแข่งขันเกมเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ วันเสาร์นี้ จะไม่มีอิทธิพลใดๆ ต่ออนาคตของผมที่ อาร์เซน่อล"

        "ในเมื่อผมเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรแห่งนี้มานานถึง 18 ปี มันจึงเป็นเรื่องไร้เหตุผลเล็กน้อยกับการเอาการตัดสินใจของผมไปขึ้นอยู่กับ เกมแค่นัดเดียว คุณคิดแบบนั้นมั้ยล่ะ? ผมจะเป็นผู้จัดการทีมต่อไปในซีซั่นหน้าหรือเปล่าน่ะเหรอ? ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ"

        "มันยังไม่ได้ข้อสรุปใดๆ แต่มันก็น่าจะเรียบร้อยในที่สุดนะ ผมต้องการให้ลูกทีมคว้าชัยชนะเพื่อตัวของพวกเขาเอง, เพื่อสโมสร, และเพื่อทุกสิ่งที่พวกเขาได้สรรค์สร้างในปีนี้ ผมคิดว่านักเตะชุดนี้มีสปิริตที่น่าทึ่ง พวกเขาได้แสดงให้เห็นแล้วถึงทัศนคติที่ยอดเยี่ยมในช่วงเวลาที่ยากลำบาก"

        "เราเก็บชัยชนะในการพบกับทีมชั้นนำหลายทีมจนทะลุเข้ามาถึง รอบชิงชนะเลิศ อาทิ ท็อตแน่ม, ลิเวอร์พูล, เอฟเวอร์ตัน ดังนั้นนักเตะชุดนี้สมควรที่จะคว้าชัยชนะในรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ แต่พวกเขาต้องผ่านปราการด่านสุดท้ายให้ได้ มันเป็นเรื่องยากที่สุดเสมอและแน่นอนยังมีความสำคัญมากที่สุดอีกด้วย"