อุซเบกิสถาน 5 - ไทย 3

(จุดโทษ ในเวลาเสมอ1-1,ต่อเวลา2-2)
 

          ศึกเอเอฟซี ฟุตซอล แชมเปี้ยนชิพ 2016 จากเมืองทาชเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน โดยเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 59 เป็นเกมในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งเตะกันที่สนามอุซเบกิสถาน สเตเดี้ยม คู่แรกทีมฟุตซอลไทย หลังจากที่เอาชนะ ออสเตรเลีย 6-1 ผ่านเข้ามาพบกับเจ้าภาพอุซเบกิสถาน ที่ชนะอิรักเข้ามา 3-0 เกมนี้ได้รับความสนใจจากแฟนบอลเจ้าถิ่นแห่กันเข้ามาชมกันล้นหลามจนเต็มสนามแข่งขัน

          ทางด้านทีมโต๊ะเล็กไทยในช่วงเช้าหลังพักผ่อนกันเต็มที่ก็ลงมาประชุมทีมและศึกษาเกมของอุซเบกิสถาน ในเวลา 12.00 น. ซึ่ง วิคเตอร์ เฮอร์แมน กุนซือของไทยได้เน้นเรื่องการโต้กลับ เนื่องจากอุซเบฯ จะรับแน่น ส่วนเกมรุกจะมีการวางหน้าเป้า 2 คนเพื่อกดดันเจ้าภาพให้มากที่สุด

          คู่แรก เป็นการพบกันระหว่าง อุซเบกิสถาน ทีมเจ้าภาพที่มี ปูปิส อดีตกุนซือทีมชาติไทยและสโมสรชลบุรี บลูเวฟ ทำทีมลงสนามพบกับทีมชาติไทย ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาแล้ว 8 ครั้ง ทีมไทยเป็นฝ่ายเอาชนะมาได้ 6 ครั้ง พ่ายแพ้เพียงแค่ 2 ครั้ง

          เกมในนัดนี้ วิคเตอร์ เฮอร์แมน กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยชุดผู้เล่นแบบชุดเต็มสูบลงสนามเอาตัวเป้าในแดนหน้าลงสนามถึง 2 คน ทั้ง ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กองหน้ายอดดาวยิงที่สังหารประตูฟุตซอลรายการนี้ไปแล้วถึง 10 ประตู พร้อมด้วย เจษฎา ชูเดช กองหน้าซ้ายพิฆาตมารจากสโมสรราชนาวีลงคู่กัน นอกจากนั้นนายทวารเป็น คณิศร ภู่พันธ์, จิรวัฒน์ สอนวิเชียร และ อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ

          เริ่มเล่นเปิดเกมขึ้นมาไทยไม่ประมาทเน้นการตั้งรับแล้วใช้การสวนกลับเข้าตอบโต้เพียงแค่นาทีแรกไทยยิงทักทายแบบมีลุ้นประตูก่อนเมื่อ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ยิงบอลจากนอกเส้นประตูด้านซ้ายลูกพุ่งเลียดไปทางเสาสองนายทวารพุ่งปัดบอลตกหน้าประตูด้านขวา เจษฎา ชูเดช วิ่งเข้ายิงซ้ำหลุดออกเสาสองไป

          การเล่นผ่านไป 3 นาทีเริ่มสนุกขึ้นเมื่อทั้งสองทีมต่างเปิดเกมเข้าแลกกันแบบสนุก น.4 ไทยหวิดได้ประตูนำอีกเมื่อ เจษฎา ชูเดช แทงบอลจากนอกเส้นเขตประตูด้านซ้ายก่อนไหลขวางสนามไปให้ อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ซัดบอลระยะแค่ 4 หลา ลอยข้ามคานไป

          อีก 1 นาทีถัดมา อุซเบกิสถาน หวิดได้ประตูบ้างจากลูกออกด้านขวาก่อนที่จะไหลเข้ามาหน้าประตูให้ โชเลฟ ยิงบอลหน้าประตูหลุดออกข้างเสาไป และ น.5 ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กดบอลเต็มข้อระยะไกลบอลพุ่งไปสามเหลี่ยมมุมขวามือนายทวารดีที่ตบบอลออกไปได้แบบหวุดหวิด

          เข้า น.7 ไทยเริ่มเปลี่ยนทีมสองลงสนามประกอบด้วย วัลลภ ปานสมสวย, วิวัฒน์ ไทยเจริญ, ชัยวัฒน์ แจ่มประจ่าง, ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน ทีมนี้ไทยเน้นรับ ในนาทีเดียวกัน อับดุลมายานอฟ กระชากบอลขึ้นทางด้านขวาก่อนกดบอลมุมแคบนายทวารไทยยังเฉียบเอาตัวขวางการยิงเอาไว้ได้

          น.9 ไทยหวิดได้ประตูอีกครั้งเมื่อ อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ตัดบอลได้จากกลางสนามกระชากขึ้นมาหน้าประตูเห็นกองหลังขวางทางอยู่จึงแทงออกด้านขวาให้ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ยิงบอลพุ่งชนมือนายทวารกระดอนออกหลังประตูไปและในนาทีเดียวกัน ศุภวุฒิ กระชากบอลขึ้นด้านซ้ายก่อนยิงบอลพุ่งชนเสาแรกกระดอนออกมา ก้องหล้า ก้องล้า ยิงบอลซ้ำหลุดข้ามคานไป

          เข้าช่วง 9 นาทีสุดท้ายอุซเบิสถาน พยายามเคลื่อนเกมรุกเข้าใส่ทีมไทยที่หันมาเน้นรับแล้วใช้การสวนกลับเร็วเข้าตอบโต้และหลายครั้งที่ลูกออกทีมอุซเบกิสถานส่งบอลจากด้านข้างของสนามที่เป็นลูกเก่งของกุนซือ ปูปิส ทำเอาทีมไทยหวิดโดนยิงประตูหลายครั้ง

          เข้า น.16 อุซเบกิสถาน หวิดได้ประตูอีกครั้งเมื่อแทงบอลจากริมสนามด้านซ้ายเข้ามาทางเสาสองเข้าเท้า อับดุลมายานอฟ ยิงบอลไม่เต็มข้อบอลพุ่งออกเสาด้านขวามือนายทวารแบบกองเชียร์เจ้าบ้านมีเฮจนกระทั่งจบเกมการแข่งขันในครึ่งเวลาแรกสกอร์เสมอกันอยู่ที่ 0-0

          เปิดเกมในครึ่งเวลาหลังทั้งสองทีมเปิดเกมเข้าแลกแบบทีใครทีมัน น.23 ทีมอุซเบกิสถาน ได้ประตูแรกเมื่อ ราคูมาตรอฟ เตะมุมทางด้านขวาเข้ามาหน้าประตูเข้าเท้า ยูนูรอฟ แทงบอลผ่านผู้เล่นไทยที่ยืนขวางอยู่สองคนเข้าไปตุงตาข่ายให้อุซเบกิสถานขึ้นนำไปก่อน 1-0

          อีก 1 นาทีถัดมา ไทยก็ตีเสมอได้เมื่อ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กระชากบอลขึ้นทางด้านขวาก่อนไหลเข้ามาในให้ เจษฎา ชูเดช กระชากบอลก่อนจิ้มหัวเกือกเข้าเสียบมุมขวามือนายทวารให้ทีมไทยไล่ตีเสมอเป็น 1-1 อย่างรวดเร็ว

          ทีมเจ้าบ้านอุซเบกิสถาน ยังคงใช้ทีเด็ดจากลูกเซตเพลย์เป็นอาวุธสำคัญในการเข้าสังหารประตูทีมไทย ทุกลูกที่ออกด้านข้างทั้งด้านซ้ายและด้านขวาสร้างความกดดันให้กับทีมไทยได้ตลอด แต่ทุกครั้งที่ทีมไทยตัดบอลได้ก็สวนกลับได้อย่างสวยๆ เหมือนกัน

          แม้ทีมอุซเบกิสถานจะเป็นฝ่ายเคลื่อนเกมรุกเข้าใส่ทีมไทยได้มากกว่าแต่ก็ไม่สามารถหาจังหวะในการปิดสกอร์ไม่ได้ จนทีมเจ้าบ้านต้องหันมาเน้นยิงลูกระยะไกลแทนและหลายครั้งที่มีโอกาสยิงบอลระยะงามๆ แต่ คณิศร ภู่พันธ์ นายทวารไทยก็สามารถเซฟลูกอันตรายที่น่าจะเสียประตูเอาไว้ได้หมด

          เหลือแค่ 5 นาทีสุดท้าย ทีมไทยกลับแผ่วลงไปอย่างเห็นได้ชัดทำให้ทีมเจ้าบ้านเป็นฝ่ายโหมรุกกระหน่ำทีมไทยอย่างหนัก น.36 ไทยน่าได้ประตูอีกครั้งเมื่อ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ได้บอลนอกเส้นเขตประตูด้านซ้ายก่อนวางบอลไหลใส่พานให้ วิวัฒน์ ไทยเจริญ ยิงจ่อๆ หน้าประตูลูกพุ่งชนตัวนายทวารชวดได้ประตูนำไปอย่างน่าเสียดายและช่วงก่อนหมดเวลาทีมไทยก็มีลุ้นสร้างความหวาดเสียวแบบน่าได้ประตูนำหลายครั้งชนิดกุนซืออุซเบกิสถานถึงกับหัวเสียจบเกมในครึ่งเวลาหลังทั้งสองทีมเสมอกันไป 1-1

          ต้องต่อเวลาพิเศษหาทีมชนะเพื่อเข้าไปชิงชนะเลิศอีก 2 ครึ่งๆ ละ 5 นาที ครึ่งแรก เปิดเกมได้เพียงแค่นาทีเดียว ศุกภวุฒิ เถื่อนกลาง กระชากบอลขึ้นทางด้านซ้ายก่อนจ่ายบอลเข้ามาหน้าประตูให้ อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ ไขว้ขายิงบอลเข้าไปอย่างสวยงามให้ทีมไทยขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0

          หลังเสียประตูทีมอุซเบกิสถานโหมรุกอย่างหนักหมายยิงประตูแก้คืน แต่ทีมไทยก็เล่นรับได้อย่างเหนียวแน่นพร้อมกับใช้การสวนกลับเร็วเข้าตอบโต้จบเกมช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรกทีมไทยนำอยู่ 1-0

          ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลังไทยยังเน้นรับปล่อยให้ทีมอุซเบกิสถานที่ตามอยู่เป็นฝ่ายรุกเข้าใส่และ น.46 ทีมเจ้าบ้านหันมาเล่นเพาเวอร์เพลย์สร้างความกดดันให้กับนักเตะไทย เข้า น.48 อุซเบกิสถาน ขึ้นบอลออกทางด้านซ้ายก่อนไหลขวางสนามมาหน้าประตูให้ ยูนูรอฟ พุ่งเสียบบอลเข้าไปไล่ตีเสมอทีมไทยเป็น 2-2 จนกระทั่งหมดเวลาการแข่งขันต้องยิงจุดโทษฝ่ายละ 3 ลูกหาทีมชนะ

          ลูกแรกอุซเบกิสถานเป็นฝ่ายยิงก่อน คาราโนนอฟ ยิงเสียบมุมขวามือนายทวารนำไปก่อน 1-0 ทีมไทยส่ง ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ยิงไม่พลาดเลียดเสียบมุมขวาไล่มาเป็น 1-1

          คนที่ 2 ของอุซเบกิสถาน อิริเนฟ ยิงเสียบคานบนนำไปเป็น 2-1 ไทยส่ง จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ยิงนายทวารเซฟได้

          คนที่ 3 ของอุซเบกิสถานให้ บูเวียนอฟ ยิงเข้าไปทำให้ดวลจุดโทษชนะทีมไทยไป 3-1 สกอร์รวมอุซเบกิสถานชนะไป 5-3 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศพบกับผู้ชนะระหว่างอิหร่านกับเวียดนาม ส่วนไทยชิงที่ 3 โดยจะแข่งขันในวันที่ 21 ก.พ.2559 คู่ชิงที่ 3 เวลา 18.00 น. ส่วนเกมคู่ชิงชนะเลิศ เวลา 21.00 น.