เราคาดหวังอะไรได้จากนักเตะใหม่ในวัยเกินหลักสาม?

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เช่นกัน หลังจากรายงานข่าวหลายสำนักเปิดเผยตรงกันว่าเตรียมเซ็นสัญญา 1 ปีคว้า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช แบบไม่มีค่าตัวจากปารีส แซงต์-แชร์กแมง

แต่ถึงจุดนี้ดูจะมีเสียงสนับสนุนมากกว่าคัดค้าน

พอล สโคลส์ ตำนานจอมทัพพูดน้อยสอยหนักได้ออกตัวชื่นชมว่าที่แข้งใหม่ปีศาจแดงไปก่อนแล้วทั้งในแง่ ''แคแรกเตอร์'' และ ''บารมี''

ขณะที่ เรเน่ มอยเลนสทีน อดีตสตาฟฟ์โค้ชชาวดัตช์ของแมนฯ ยูไนเต็ด ร่วมนิยามให้อีกแรงว่า ''เหมาะสมสุดๆ'' ตามสถิติในนามผู้ชนะตัวจริง

ด้าน ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ถึงกับยกให้ อิบรา ''เกิดมาเพื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด'' เลยทีเดียว!

ชัดเจนเพียงพอแล้วว่า อิบราฮิโมวิช สั่งสมชื่อเสียงมาขนาดไหน บุคลิกบางแง่มุมของเขาช่างคล้ายคลึงกับ เอริก คันโตน่า หากแต่ดาวยิงสวีดิชดูจะพกความมั่นใจเกินพิกัดยิ่งกว่า (ฮ่า)

เหนือสิ่งอื่นใด เฮียซลาตันยังคุ้นเคยกับโทรฟี่ยิ่งกว่าอะไรดี โดยได้สัมผัสถ้วยแชมป์ลีกดัตช์กับอาแจ็กซ์ตั้งแต่ก่อนที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด จะโตพอเรียนหนังสือเสียอีก

อิบรา ยังได้รับความไว้วางใจจาก โชเซ่ มูรินโญ่ เจ้านายซึ่งเขาอ้างว่าพูดคุยกันทางโทรศัพท์ ''ทุกวัน'' และน่าจะเป็นปากเสียงแทนกุนซือโปรตุกีสในห้องแต่งตัวปีศาจแดง ตลอดจนฝากฝังทัศนคติสู้เพื่อนายไปยังเพื่อนร่วมทีมใหม่ทุกคน

สายตาลูกหนังส่วนใหญ่ได้อนุมานเปรียบเทียบกับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ในตอนที่ มูรินโญ่ ดึงกลับมาเชลซีในปี 2014 ก่อนที่หอกเก๋าชาวไอวอรี่โคสต์มีส่วนร่วมในทีมชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก แม้เพียงน้อยนิดก็ตาม

อย่างไรก็ดี แมนฯ ยูไนเต็ด ในสถานภาพปัจจุบันย่อมปรารถนาให้ อิบรา มีอย่างอื่นมานำเสนอมากกว่าแค่ 4 ประตูและอิทธิพลในห้องแต่งตัวแบบ ดร็อกบา จากซีซั่นดังกล่าว

แล้วภายในไม่กี่เดือนจะอายุครบ 35 (เกิด 3 ต.ค.) อิบราฮิโมวิช ยังพอมีดีอะไรมาช่วยเหลือต้นสังกัดใหม่ได้บ้าง?

ก่อนอื่นต้องขออนุญาตให้แฟนผีทุกคนตัดความกังวลเรื่องฟอร์มขาลงไปซะ ในเมื่อหัวหอกติสต์แตกเพิ่งฝากผลงานพังตาข่ายดีที่สุดในอาชีพ ยิงรวม 50 ลูกจาก 51 เกมทุกรายการให้เปแอสเช มากกว่าสถิติดีที่สุดเดิมถึง 15 ประตู

นอกเหนือจากผ่านพ้นฤดูกาลที่ดีสุด สถิติผลงานของเขายังสะท้อนอื่นใดไปเสียมิได้นอกจากคำว่า ''คงเส้นคงวา'' โดยทำสกอร์เลยหลัก 30 ลูกได้ตลอด 5 ฤดูกาลล่าสุด อีกทั้งยังยิง 20 ประตูขึ้นไปได้ 9 ซีซั่นซ้อนกับ 4 สโมสรที่แตกต่างกัน!

บางเสียงย้อนแย้งไปยังความอ่อนชั้นของลีก เอิง แล้วยังเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ซลาตัน พลาดใส่สกอร์ทั้ง 2 เกมที่เจอคู่แข่งพิกัดพอฟัดพอเหวี่ยงอย่าง ลียง และ โมนาโก ในรอบ 12 เดือนหลัง ทว่ากลับกันฟอร์มในแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ลบล้างข้อสงสัยไปจนหมดสิ้น

อิบราฮิโมวิช เป็นทั้งตัวท็อปสกอร์ และราชาถวายพานของเปแอสเชในเวทียูซีแอล โดยยิงได้ 3 จาก 4 เกมที่เจอคู่แข่งอังกฤษ รวมถึง 2 นัดไป-กลับบู๊เชลซีในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ตัวเลขความสม่ำเสมอทั้งหมดที่ว่านี้ได้ส่งผลให้เขาเหมาะสมกับการเสริมทัพระยะสั้น ตอกหมุดย้ำความเชื่อมั่นได้ด้วยจำนวนประตูไม่เคยตกหล่นยามสังกัด 7 สโมสรใน 5 ประเทศ (มัลโม่ ; สวีเดน, อาแจ็กซ์ ; ฮอลแลนด์, ยูเวนตุส, อินเตอร์, เอซี มิลาน ; อิตาลี, บาร์เซโลน่า ; สเปน และเปแอสเช ; ฝรั่งเศส)

การมาของ อิบรา น่าจะช่วยตอบโจทย์ทำสกอร์ที่ขาดแคลนไปในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีแข้งอสูรแดงคนใดพอฝากผีฝากไข้ได้นอกจากดูโอดาวรุ่งอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

แค่นั้นมันไม่พอกินแน่นอนในเกมระดับสูง!

อย่างไรก็ดีสถิติสกอร์สม่ำเสมอของ อิบราฮิโมวิช อาจไม่ช่วยอะไรในเมื่อปัญหาแท้จริงของยูไนเต็ดภายใต้บังเหียน หลุยส์ ฟาน กัล นั้นคือการสร้างสรรค์โอกาสที่ติดชาร์ตเหนือ 3 อันดับล่างอย่างเส้นยาแดงผ่าแปด

อายุขัยเพิ่มขึ้นสวนทางความเคลื่อนไหวในสนามซึ่งจำกัดพื้นที่ยิ่งขึ้น สตาร์กัปตันทีมชาติสวีเดนจะต้องปรับตัวเพื่อซื้อเวลาโชว์ฝีเท้าในสนามไปด้วย

เอาเข้าจริง อิบราฮิโมวิช เองก็ปรับตัวเป็นเหมือนกัน ถอยต่ำเล่นบทบาทเบอร์ 10 ทำแอสซิสต์ไป 13 ครั้งในลีก เอิง ฤดูล่าสุด เป็นรองแค่ตัวเลข 18 ของทีมเมตเด็กเก่าผีอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย

แต่ในทางกลับกัน เขากลับไม่ยอมถ่างออกไปเก็บบอลด้านข้าง ตามค่าเฉลี่ย 48 เปอร์เซ็นต์จากสัมผัสบอลตรงโซนกลางในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2015-16

ว่าง่ายๆ ก็มักจะพึ่งพาใช้บริการเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ออกไปเก็บบอลให้มากกว่า และนั่นจะทำให้เขาเจองานยากลำบากในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่ต่างจาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ใน 2 ขวบปีท้าย

อย่างไรก็แล้วแต่ อิบราฮิโมวิช เกิดมาเพื่อตำแหน่งหน้าเป้าเข้ากับสไตล์ มูรินโญ่ ซึ่งต้องการดาวยิงสายแข็งปักหลักเป็นแกนนำ ถึงจะน่าตื่นตาตื่นใจที่มีศูนย์หน้าวัยหนุ่มตัวจี๊ดๆ อยู่ด้วยแล้วก็ตามแต่

ย้อนไปยังสมัยหวนรั้งบังเหียนเชลซี กุนซือชาวโปรตุกีสเปิดปากบ่นตั้งแต่วันแรกว่าไม่มีกองหน้าก่อนจะคว้า ดีเอโก้ คอสต้า ในซัมเมอร์ 2014

อดีตหัวหอกแอต.มาดริด กลายเป็นคีย์แมนสำคัญนำพาโทรฟี่พรีเมียร์ลีก แต่ก็ต้องย้ำเตือนกันอีกกระทอกว่า คอสต้าไม่ได้สร้างโอกาสทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว แต่มาจากแข้งดังรายล้อมรอบข้างต่างหาก

เรื่องดังกล่าวฟ้องด้วยสถิติ 16 จากทั้งหมด 20 ประตูของ คอสต้า ในฤดูกาลแชมเปี้ยน 2014-15 มาจากการรับบอลจ่ายทะลุช่องมาให้ และจนทุกวันนี้ก็ยังยิงประตูนอกเขตโทษให้เชลซีไม่ได้ทั้งที่เปลี่ยนนายไปต่อไหนถึงไหน

นี่แหละคือบทบาทที่ ''เฮียมู'' รู้สึกเชื่อมั่นอยู่ลึกๆ ว่า อิบรา จะทำได้ในการรีเทิร์นร่วมงานที่โรงละครแห่งความฝัน

แน่นอนว่ากุญแจสำคัญในการสร้างทีมสู่ความสำเร็จคือหาตัวทำสกอร์ดีๆ เข้ามา แต่องค์ประกอบรอบข้างก็ต้องเกื้อหนุนกันด้วย

การ (น่าจะ) มาของ อิบรา จึงไม่ใช่จิกซอว์ชิ้นสุดท้าย เป็นชิ้นแรกซะมากกว่า

ที่สุดแล้ว นายใหม่ปีศาจแดงได้คลายปมไปเปลาะหนึ่งบนความขาดแคลนตัวจบสกอร์ท็อปคลาส ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมอย่างอาร์เซน่อลขาดหายไปจนส่งผลสู่เป้าหมายล่าแชมป์

เหนือสิ่งอื่นใดคือครั้งหนึ่งการพราก อิบราฮิโมวิช ออกจากกรุงปารีส เคยถูกนิยามเป็น ''มิสชั่น อิมพอสซิเบิล'' ทว่าวันนี้ มูรินโญ่ กลับทำได้

แบบไม่ต้องจ่ายค่าตัวสักเพนนีเดียวอีกต่างหาก!