ทีมชาติไทย พ่ายอิรักอย่างน่าเสียดาย 1-2 ศึกคัดบอลโลกที่ราชมังคลากีฬาสถาน หลังโดนจุดโทษท้ายเกม น.83 โดยนัดนี้ ขุนพลช้างศึก ต้องเล่น 10 คนในช่วงเกือบ 20 นาทีท้าย จากการที่ นิว ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ รับใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดง ชวดนัดสุดท้ายที่มีคิวไปเยือน ออสเตรเลีย แน่นอน

ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย

ประจำวันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม 2560

ไทย 1 - 2 อิรัก

"เจ" คืนทัพรอบ 155 วันผนึกเกมรุกกับ "มุ้ย"

    11 ผู้เล่นของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ในการลงเล่นเกมที่ 9 ของศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี ซัดกับ อิรัก ทาง มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชของทีมวางระบบ 4-2-3-1

    ให้ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เป็นผู้รักษาประตู แบ็กซ้ายเป็นหน้าที่ของ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ฟากขวาใช้ อดิศร พรหมรักษ์ เซนเตอร์ฮาล์ฟเป็นการจับคู่กันของ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว และ พรรษา เหมวิบูลย์ ซึ่งเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกันของคู่นี้ ภายใต้การทำทีมของ มิโลวาน ราเยวัช แดนกลางใช้ วัฒนา พลายนุ่ม ตัดเกมคู่กับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์

    นอกจากนี้ปีกขวาใช้ มงคล ทศไกร และดัน "โก๋อุ้ม"ธีราทร บุญมาทัน ขึ้นมาเป็นปีกซ้าย โดยเพลเมกเกอร์จัด "เมสซี่เจ"ชนาธิป สรงกระสินธ์ ลงบู๊ ซึ่งเป็นการเล่นให้กับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ในรอบ 155 วัน หลังจากเกมล่าสุดที่บู๊คือนัดบุกไปแพ้ ญี่ปุ่น 0-4 ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ปล่อยให้ "กัปตันมุ้ย"เป็นหัวหอกตัวเป้า

    ทีมชาติไทย อยู่ชุดสีดำ เจอกับ อิรักในเสื้อสีขาวทั้งชุด  นาทีที่ 2 ธีราทร บุญมาทัน หลุดไปทางด้านซ้าย แต่ยิงไม่ดี ลูกเรียดเข้ามือ โกล์อิรักสบาย

    นาทีที่ 5 ไทยน่าขึ้นนำสุดๆ จากจังหวะแทงทะลุช่อง ของธีรศิลป์ ให้ชนาธิปหลุดเดี่ยว แต่จังหวะดวลกับโกล์ ยิงไม่ผ่าน ทำให้อดนำอย่างน่าเสียดาย

     นาที 16 อิรักก็น่าขึ้นเช่นกัน จากลูกยิงเต็มข้อด้วยซ้าย ของอาลี อัดนาน บอลพุ่งแรงเป็นจรวด ชนคานเด้งตกพื้น ก่อนที่กองหลังไทยจะรีบเคลียร์ออกไป แบบเส้นยาแดงผ่าแปด

    นาทีที่ 24 ไทยได้โอกาสสวยๆอีกครั้ง เมื่อชนาธิป จ่ายบอลมายังที่ว่างให้ พีระพัฒน์ เติมขึ้นมา และได้ยิงด้วยซ้าย แต่ด้วยมุมที่แคบเกินไปทำให้ไปติดนายทวาร คาซิด ของอิรักอีก

    ไทยได้ฟรีคิก ระยะได้ลุ้น 20 หลา หน้ากรอบเขตโทษ ธีราทร บุญมาทัน วิ่งมาปั่น บอลแฉลบกำแพงเปลี่ยนทาง เกือบเข้าเหมือนกัน แต่หลุดกรอบออกไปนิดเดียว

     แต่แล้วนาทีที่ 34 อิรักกลับขึ้นนำ ซะอย่างนั้น เมื่อได้ลุยขึ้นมาในเขตโทษ อาลี อัดนาน ยิงจังหวะแรกติดบล็อก บอลไหลมาเข้าทาง จัสติน มีรัม อัดเต็มๆ แฉลบตุงตาข่ายเข้าไปเลย อิรักนำ 1-0  

      ทั้งนี้ จัสติน กลายเป็นคนที่มายิง "ช้างศึก"ในสนามราชมังคลากีฬาสถานอีกครั้ง หลังจากเคยทำได้ใน น.34 เช่นเดียวกันให้ทีมนำ 1-0 ก่อนที่จะจบผลเสมอ 2-2 ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก รอบสอง กลุ่ม เอฟ เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2015 หรือเกือบ 2 ปีที่มาทำสกอร์ในรังเหย้าของช้างศึก

    เปิดครึ่งหลัง ไทยโหมบุกหนักทันที นาที 48 ธีรศิลป์ แดงดา ยิงไกลนอกเขตโทษ บอลติดบล็อก มาถึงมุ้ยอีกครั้ง คราวนี้แฉลบแนวรับออกหลังไป

    นาที 52 ไทยน่าตีเสมอเหลือเกิน เมื่อมุ้ย จ่ายบอลออกข้างให้ มงคล แต่มงคลไม่ยอมยิง กลับเลือกจ่ายให้มุ้ยคืนอีกครั้ง จนโดนบล็อกออกหลัง

    เข้าสู่นาทีที่ 63 แฟนช้างศึกเฮลั่น ไทยตีเสมอ 1-1 ครึ่งหลัง น. 63 เมื่อ พีระพัฒน์ ตัดบอลได้แล้วเติมขึ้นซ้ายเปิดข้ามให้ ทริสตอง โด ตัวสำรองวอลเล่ย์เน้นๆ อาห์เหม็ด อิบราฮิม ผู้เล่นอิรักพยายามสกัด กลายเป็นทำเข้าประตูตัวเองไป

     น.72 ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ โดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดง ทำให้ไทยเหลือ 10 คน แถมเกมไปเยือน ออสเตรเลีย วันที่ 5 กย ยังโดนแบนอีกด้วย ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี จะเข้ามาแทนที่ 

     นาทีที่ 83 เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ไปดึงเสื้อไอเมน ฮุสเซน ในจังหวะที่กำลังจะยิงประตูในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษทันที ก่อนที่จะเป็น ซาอัด อับดุลลาเมียร์ กัปตันทีมซัดไม่พลาด เสียบมุมเข้าไป โดยสินทวีชัยพุ่งไปคนละทาง อิรักนำ 2-1

     จากนั้น ราเยวัช ส่ง สุภโชค สารชาติ ลงแทน ชนาธิป ก่อนที่ทั้งสองทีมจะทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกมการแข่งขันทีมชาติไทย ปราชัยต่อ อิรัก 1-2 โดยเกมที่ 10 จะออกไปเยือน ออสเตรเลีย วันที่ 5 ก.ย.นี้

    สำหรับความพ่ายแพ้ของ ทีมชาติไทย ให้กับ อิรัก ครั้งนี้ เป็นการแพ้ในบ้านของตัวเองรอบ 45 ปีเลยทีเดียว หลังจากที่ผ่านมา ชนะ 2 เสมอ 4 ใน 6 เกม ประกอบด้วย วันที่ 30 มิ.ย.1972 ไทย เสมอ อิรัก 1-1 (ห) เอเขียน คัพ (รอบแบ่งกลุ่ม), วันที่ 22 ก.ย.2001 ไทย เสมอ อิรัก 1-1 (ห) ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

    วันที่ 16 ก.พ.2006 ไทย ชนะ อิรัก 4-3 (ห) อุ่นเครื่อง, วันที่ 7 ก.ค.2007 ไทย เสมอ อิรัก 1-1 (ห) เอเชียน คัพ (รอบแบ่งกลุ่ม), วันที่ 25 พ.ค.2008 ไทย ชนะ อิรัก 2-1 (ห) อุ่นเครื่อง และวันที่ 8 ก.ย.2015 ไทย เสมอ อิรัก 2-2 (ห) ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก
    นอกจากนี้ยังส่งผลให้ “ช้างศึก” ไม่รู้จักคำว่าชนะใครในบ้านตัวเองอีกครั้งในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสุดท้าย หลังจากในปี 200 2เคยทะลุเข้าไปถึงรอบ 10 ทีม ทว่าไม่สามารถเก็บ 3 แต้มในรังเหย้าตัวเองได้ ประกอบด้วย วันที่ 1 ก.ย.2001 เสมอ อิหร่าน 0-0, วันที่ 15 ก.ย.2001 แพ้ ซาอุดิอาระเบีย 1-3, วันที่ 22 ก.ย.2001 เสมอ อิรัก 1-1 และวันที่ 16 ต.ค.2001 เสมอ บาห์เรน 1-1

     รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม

     ไทย : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล,อดิศร พรหมรักษ์,เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว,พรรษา เหมวิบูลย์,พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา(สิโรจน์ ฉัตรทอง น.65),วัฒนา พลายนุ่ม,ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์,มงคล ทศไกร(ทริสตอง โด น.61),ธีราทร บุญมาทัน,ชนาธิป สรงกระสินธ์(สุภโชค สารชาติ น.83),ธีรศิลป์ แดงดา

     อิรัก : โมฮัมเหม็ด คาซิด,วาลีด ซาลิม,อาห์เหม็ด อิบราฮิม,ไอเมน ฮุสเซน(ซูอัด นาจี น.87),อาลี อัดนัน,มาห์ดี้ คาลิล,ฮุสเซน อัล เซดี้,จัสติน บีรัม, อัล อัซซาวี่,อัมเจ๊ด อัตต์วาน (อับดุลราฮีม คาร์รา น.76),ซาอัด อัลดุลลาเมียร