"กระทิงดู" สเปน สภาพทีมไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บโดย ดีเอโก้ คอสต้า ดาวยิงตัวเก่งพร้อมลงปิดสกอร์ เกมพบเจ้าภาพ "หมีขาว" รัสเซีย ที่ขอสู้เพื่อจดหน้าประวัติศาสตร์เข้ารอบต่อไป ลุ้นระทึกในศึกฟุตบอลโลก 2018 (รอบ 16 ทีม) คืนวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : TrueSport HD3 และ TV5, เวลา : 21.00 น.
ปรีวิวฟุตบอลโลก 2018
(รอบ 16 ทีมสุดท้าย)
วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2561
สเปน    -    รัสเซีย
ถ่ายทอดสด : TrueSport HD3 และ TV5, เวลา : 21.00 น.

สนาม : ลุชนิกี้ สเตเดี้ยม
    ประเด็นเรื่องตำแหน่งผู้รักษาประตูมือหนึ่ง ยังคงถูกสื่อสเปนนำมาวิจารณ์อยู่ แต่อย่างไรก็ดีนักเตะในทีมทุกคนต่างออกมาปกป้อง ดาบิด เด เคอา พร้อมยืนยันว่าเขาคือคนที่เหมาะสมที่สุดแล้ว ขณะที่ เฟร์นานโด เอียร์โร่ กุนซือของทีมก็ยืนยันเช่นกันว่า มือหนึ่งยังเป็นของ เด เคอา และเขาจะได้ลงสนามในเกมกับรัสเซีย 100%

    ในส่วนของการจัดทัพอื่นๆ กระทิงดุไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ผู้เล่นทั้ง 23 คนอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งเกมนี้มีกระแสออกมาอยากให้เอียร์โร่เปลี่ยนแปลง 11 คนแรกพร้อมกับระบบการเล่น เป็น 4-3-3  และให้โอกาส ซาอูล ญีเกซ มิดฟิลด์ตัวเก่งจากแอต.มาดริดลงมาเป็นตัวจริงบ้าง แต่คาดว่ามีความเป็นไปได้ไม่มากนัก

    ในแนวรับตำแหน่งนายทวารและแผงแบ็กโฟร์จะยังคงเป็นชุดเดิมแน่นอน ดาบิด เด เคอา เฝ้าเสา แบ็กขวา ดานี่ การ์บาฆาล แบ็กซ้าย จอร์ดี้ อัลบา คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ เซร์คิโอ รามอส กับ เคราร์ด ปีเก้ แดนกลาง โกเก้ จะกลับมาเป็นตัวจริงแทน ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่ได้ลงเล่นในเกมเสมอโมร็อกโก 2-2 ส่วนแนวรุก 3 คนยังเป็น อันเดรส อีเนียสต้า, อีสโก้ และ ดาบิด ซิลบา มี ดีเอโก้ คอสต้า ยืนค้ำเป็นหน้าเป้า

    รัสเซียของ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ ปราชัยต่ออุรุกวัย 0-3 ในนัดสุดท้ายของกลุ่มเอ แต่ยังคว้ารองแชมป์กลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

    ความพร้อมล่าสุด อลัน ซาโกเยฟ ลุ้นคืนสนามหลังกลับมาซ้อมเต็มรูปแบบแล้ว โดยเจ้าตัวเจ็บจนไม่ได้ในช่วง 2 เกมหลังสุด

    ขณะที่ อเล็กซานเดอร์ เยโรคิน ที่เจ็บเท้าจนชวดซ้อมก่อนหน้านี้ กลับมาซ้อมตามปกติแล้วเช่นกัน

    อย่างไรก็ดี อิกอร์ สโมลนิคอฟ หมดสิทธิ์ลงเล่นหลังโดนใบแดงไล่ออกในเกมล่าสุด

    อิกอร์ อาคินเฟเยฟ เฝ้าเสาตามเดิม แนวรับจากขวาไปซ้ายเป็น มาริโอ แฟร์นานเดส, อิลย่า คูเตปอฟ, เซอร์เก อิกนาเชวิช และ ยูริ ชีร์คอฟ

    แดนกลางวางใจ โรมัน ซอบนิน กับ ยูริ กาซินสกี้ แผงรุกใช้ อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ, อลัน ซาโกเยฟ และ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน โดย เดนิส เชรีเชฟ ลุ้นเบียดเป็นตัวจริงต่อเนื่อง หน้าเป้าจัด อาร์เต็ม ซิวบา

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

    สเปน (4-2-3-1) ดาบิด เด เคอา-ดานี่ การ์บาฆาล, เซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด ปีเก้, จอร์ดี้ อัลบา-เซร์คิโอ บุสเก็ตส์,โกเก้ - ดาบิด ซิลบา, อีสโก้, อันเดรส อีเนียสต้า - ดีเอโก้ คอสต้า
   
    รัสเซีย (4-2-3-1) : อิกอร์ อาคินเฟเยฟ - มาริโอ แฟร์นานเดส, อิลย่า คูเตปอฟ, เซอร์เก อิกนาเชวิช, ยูริ ชีร์คอฟ - โรมัน ซอบนิน, ยูริ กาซินสกี้ - อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ, อลัน ซาโกเยฟ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน - อาร์เต็ม ซิวบา

    ผู้ตัดสิน : บียอร์น ไคเปอร์ส (ฮอลแลนด์)

ข้อมูลที่น่าสนใจ
- ทั้งสองทีมเคยเจอกันมา 6 ครั้งในทุกรายการ สเปนไม่เคยแพ้ต่อรัสเซียเลย สถิติอยู่ที่ชนะ 4 เสมอ 2
- สองทีมพบกันหนล่าสุดคือเกมอุ่นเครื่องเมื่อปีที่แล้ว ผลปรากฏว่าเสมอกัน 3-3 ฟิโอดอร์ สโมลอฟ ซัดสองลูกให้รัสเซีย อีกประตูได้จาก อเล็กเซ มิรันชุค ส่วนสเปนก็ได้ เซร์คิโอ รามอส ยิงสองประตู และ จอร์ดี้ อัลบา อีกลูก โดยทุกคนที่กล่าวมานี้ล้วนมีชื่ออยู่ในทีมชุดปัจจุบัน
- ทีมกระทิงดุครองสถิติไร้พ่ายมายาวนาน 23 นัดติดต่อกันทุกรายการ แบ่งเป็นชนะ 15 เสมอ 8
- ครั้งสุดท้ายที่สเปนแพ้ต้องย้อนกลับไปในศึกยูโร 2016 ที่ถูกอิตาลีสอย 2-0
- เกมล่าสุดที่รัสเซียแพ้อุรุกวัย 0-3 คือความปราชัยหนแรกของพวกเขาในรอบ 4 นัดล่าสุด ที่เหลือชนะ 2 เสมอ 1
- ทีมหมีขาวเสมอคู่แข่งเพียงหนเดียวจาก 7 เกมหลัง ที่เหลือชนะ 2 แพ้ 4
- มีสกอร์รวมเกิน 2.5 ลูกเกิดขึ้นตลอด 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่มของรัสเซีย