"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มเฉียบขาด บุกซัด "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ คาถิ่น 2-1 เก็บสามแต้มยึดบัลลังก์จ่าฝูงต่อไปอย่างเหนียวแน่น ด้วยสถิติชนะรวด 100% ขณะที่เจ้าถิ่น ถือเป็นความปราชับติดต่อกันสองนัดเข้าไปแล้ว

     บิ๊กแม็ตช์พรีเมียร์ลีกประจำวันเสาร์ 15 ก.ย. ระหว่าง สเปอร์ส กับ ลิเวอร์พูล นัดนี้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จัดทัพคลับไก่โดยเปลี่ยน 3 ตำแหน่งจากชุดพ่าย วัตฟอร์ด โดยให้ แดนนี่ โรส, แฮร์รี่ วิงค์ส และ เอริก ดายเออร์ คืนตัวจริงแทน ดาวิซอน ซานเชซ, เบน เดวิส และ เดเล่ อัลลี่ ที่เจ็บ ส่วน ซน ฮึง มิน เป็นแค่สำรอง หลังกลับมาจากกช่วยทีมชาติเกาหลีใต้คว้าแชมป์ เอเชี่ยน เกมส์
 
    ด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ ปรับแค่ตำแหน่งเดียวจากชุดชนะ เลสเตอร์ ก่อนเบรกทีมชาติ โดยให้ นาบี เกอิต้า แทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ส่วนแนวรุก นำโดย โม ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เช่นเดิม
 
    เพียงนาทีแรก หงส์แดงเกือบออกนำจากการบุกครั้งแรกทางกราบเปิดเข้าไปให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ สะกิดบอล โดยมี ซาดิโอ มาเน่ ที่ยืนล้ำหน้าพยายามพุ่งเข้าหาบอล ลูกผ่านมือ มิเชล ฟอร์ม เข้าไปตุงตาข่าย อย่างไรก็ตาม แข้งทีมเยือนต้องเฮเก้อ เพราะไลน์แมนยกธงล้ำหน้าไปแล้ว ซึ่งจากภาพช้า ฟีร์มิโน่ ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าแต่อย่างใด

     ลิเวอร์พูล ดุดันเหลือเกิน น.2 ขึ้นเกมทางขวา ก่อน เจมส์ มิลเนอร์ แทงให้ ฟีร์มิโน่ ยิงแฉลบหลุดกรอบนิดเดียวเท่านั้น จากนั้น เกมแลกหมักกันสนุกเหลือเกิน โดย 25 นาทีแรก เป็นฝั่งทีมเยือนที่ดูดีกว่า

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในน.21 กองหลังเจ้าถิ่นจ่ายพลาดหวิดโดนลงโทษ โม ซาลาห์ หลุดเข้าไปยิง แต่ติดเซฟ ฟอร์ม หลังถูก แยน แฟร์ทองเก้น วิ่งมาบีบมุม

    สเปอร์ส เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ น.27 คริสเตียน เอริกเซ่น เรียกฟรีคิกในระยะอันตรายได้ ก่อนลุกขึ้นมายิงเอง ทว่า อลีสซง ล้มตัวรับติดมือหนึบ

    ไก่เดือยทอง ครองบอลได้เหนือกว่าชัดเจน แต่จังหวะสุดท้ายไม่คมพอ กระทั่ง น.39 แฟนหงส์ได้เฮลั่น จากจังหวะเตะมุมด้านซ้ายเปิดเข้ามา ฟอร์ม พุ่งมาชกไม่พ้นอันตราย เอริก ดายเออร์ โหม่งเคลียร์ไม่ขาดเลยโดน จินี่ ไวจ์นัลดุม โขกเน้นๆ แม้ ฟอร์ม จะพยายามควักออกมาได้ ทว่าโกล์ไลน์เทคโนโลยีก็ชี้ชัดว่าลูกข้ามเส้นไปแล้ว เป็นประตูส่ง ลิเวอร์พูล ทะยาน 1-0 ในครึ่งแรก

    ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมลุยใส่กันเต็มเหนี่ยว น.50 หงส์แดงหวิดบวกสกอร์เพิ่มได้ ซาลาห์ ลากบอลเข้ากรอบเขตโทษแล้วไหลให้ มาเน่ กลับตัวยิงเต็มข้อ ทว่า ฟอร์ม โชว์ซูเปอร์เซฟทุบทิ้งออกมาได้

     นาทีต่อมา เป็นโอกาสทองของ สเปอร์ส บ้าง เมื่อ ลูกัส มูร่า โชว์สเต็ปเท้าลากเลาะเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนกดด้วยขวาเน้นๆ กะให้เข้าเสาแรก แต่บอลพุ่งชนเสานอกออกไป

     ผ่านมาถึง น.54 ลิเวอร์พูล หนีห่าง 2-0 จากจังหวะที่ มาเน่ ลากถึงเส้นหลังด้านซ้ายแล้วตบเข้ากลาง แฟร์ทองเก้น พยายามแหย่เท้าสกัด แต่บอลดันเด้งไปชนเสาแล้วกลับมาเข้าทาง ฟีร์มิโน่ ซัดง่ายๆ ไม่เหลือซาก

     โปเช็ตติโน่ นั่งไม่ติด ครบหนึ่งชั่วโมงของเกม กุนซืออาร์เจนไตน์ก็ขยับส่ง เอริก ลาเมล่า ลงแทน เด็มเบเล่ เพื่อเติมเกมรุก แต่เกือบโดนเพิ่มจากจังหวะโต้กลับ มาเน่ ไหลออกซ้ายให้ เกอิต้า แปเน้นๆ แต่ ฟอร์ม ปัดข้ามคานได้หวุดหวิด

     สเปอร์ส พยายามโหมหนัก แต่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา เข้าสู่ 20 นาทีท้าย ฟีร์มิโน่ โดนมือ แฟร์ทองเก้น เหวี่ยงไปโดนใบหน้า ต้องเข้ารับการปฐมพยาบาล ก่อนถูกเปลี่ยนให้ เฮนเดอร์สัน ลงแทน ส่วน เจ้าถิ่นส่ง ซน ฮึง มิน แทน วิงค์ส

     น.80 หงส์แดง น่าบวสกอร์เพิ่ม เมื่อ ซาลาห์ ได้บอลในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนโยกเข้าในแล้วปั่นด้วยซ้ายกะให้เข้าเสาสอง แต่ยังไม่ผ่าน ฟอร์ม จากนั้นในนาทีต่อมา มือกาวดัตช์ต้องออกแรงเซฟลูกยิงของ มาเน่ อีก

    คล็อปป์ ส่ง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ แทน เกอิต้า ส่วน โปเช็ตติโน่ ให้ วิคเตอร์ วานยาม่า แทน ดายเออร์ ก่อนที่ ลาเมล่า จะยิงเฉียดเสาหวุดหวิด ขณะที่ เคน ก็โหม่งย้อยๆ เข้ามือ อลีสซง ก่อน หงส์แดง จะส่ง โฌเอล มาทิป แทน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

    สเปอร์ส ได้ประตูปลอบใจในช่วงทดเจ็บ 5 นาที จาก ลาเมล่า ที่วอลเล่ย์มุมแคบเข้าไป ท้ายเกม ซน โดนฟาวล์แต่ผู้ตัดแต่ก็ไม่ทัน จบเกม ลิเวอร์พูล บุกคว้าชัย 2-1 ทำสถิติชนะรวด 100% ยึดบัลลังก์จ่าฝูงเหนียวแน่น