ด้วยการที่มีโปรแกรมเกมยุโรปรออยู่ช่วงกลางสัปดาห์หน้า ทำให้สุดสัปดาห์นี้บรรดาทีมใหญ่พากันมาลงเตะในวันเสาร์ที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมากันหมด และก็ชื่นมื่นกันไป เพราะทั้ง ลิเวอร์พูล, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างคว้าชัยชนะกันได้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และก็แน่นอนว่ามีสถิติที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

- ลิเวอร์พูล เจ๋งสุดในกลุ่ม "ท็อป 6"!!!

นับตั้งแต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือ ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนตุลาคมปี 2015 นั้น "หงส์แดง" ที่ล่าสุดบุกไปเชือด ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-1 คือทีมที่มีสถิติดีสุดยามดวลกับบรรดาทีมในกลุ่ม "ท็อป 6" โดยพวกเขาได้คะแนนเฉลี่ยต่อเกมอยู่ที่ 1.59 แต้ม รองๆ ลงมามีดังนี้

- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1.46 แต้ม
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1.45 แต้ม
- ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1.43 แต้ม
- เชลซี 1.34 แต้ม
- อาร์เซน่อล 0.76 แต้ม

- วันดีๆ ของ ไวจ์นัลดุม

จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์เลือดดัตช์ของ ลิเวอร์พูล เป็นคนโขกทำประตูเปิดหัวให้ทีมบุกพิชิต สเปอร์ส 2-1 โดยประตูดังกล่าวถือเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเยือน (นับรวมสมัยเล่นให้ นิวคาสเซิ่ล ด้วย) ซึ่งก่อนหน้านี้มีความพยายามยิงถึง 54 ครั้ง แต่ไม่เป็นประตูเลย

- ซิลบา อีกหนึ่งตำนาน พรีเมียร์ลีก

ดาบิด ซิลบา ดาวเตะ แมนฯ ซิตี้ กระทุ้งประตูที่สองในเกมเปิดบ้านอัด ฟูแล่ม 3-0 ทำให้เขากลายเป็นนักเตะชาวสแปนิชรายที่สี่ ที่ทำประตูในเวที พรีเมียร์ลีก ถึงหลัก 50 ลูก ต่อจาก เฟร์นานโด ตอร์เรส (85), ดีเอโก้ คอสต้า (52) และ เชส ฟาเบรกาส (50)

นอกจากนี้ ซิลบา ยังกลายเป็นนักเตะ "เรือใบสีฟ้า" คนที่ห้า ที่ทำประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ถึง 50 ลูก ต่อจาก เซร์คิโอ อเกวโร่, ยาย่า ตูเร่, คาร์ลอส เตเวซ และ เอดิน เชโก้

- "เรือใบสีฟ้า" ยุค เป๊ป โคตรโหด!

ราฮีม สเตอร์ลิง ยิงปิดท้ายให้ ซิตี้ ในเกมยำ ฟูแล่ม 3-0 ซึ่งประตูนี้ถือเป็นประตูที่ 200 ใน พรีเมียร์ลีก ของ "เรือใบสีฟ้า" ยุคกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

- เชลซี เทพแห่งการออกสตาร์ต

หลังเปิดบ้านกระซวก คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 4-1 ทำให้ เชลซี ออกสตาร์ตฤดูกาลนี้ด้วยการคว้าชัย 5 นัดรวด และถือเป็นหนที่สี่แล้ว ที่พวกเขาทำแบบนี้ได้ต่อจากฤดูกาล 2005/06, 2009/10 และ 2010/11 ซึ่งมากกว่าทุกๆ ทีม

นอกจาก เชลซี แล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นเพียงทีมเดียวที่ทำแบบนี้ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นในฤดูกาล 2015/16 และ 2016/17

- ซาร์รี่ ไม่ได้มาเล่นๆ

เมาริซิโอ ซาร์รี่ ผู้จัดการทีม เชลซี กลายเป็นกุนซือรายที่สี่ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ออกสตาร์ต 5 เกมแรกในตำแหน่ง และเก็บชัยชนะได้หมด ต่อจาก คาร์โล อันเชลอตติ, เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ เคร็ก เช็คสเปียร์

 - เทพ อาซาร์

เอแด็น อาซาร์ ขึ้นแท่นเป็นนักเตะ เชลซี รายที่สี่ ที่ทำแฮตทริกในเกม พรีเมียร์ลีก ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง หลังกดสามตุงช่วยทีมเปิดบ้านอัด คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 4-1

- ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา 3 ครั้ง
- จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ 3 ครั้ง
- แฟร้งค์ แลมพาร์ด 3 ครั้ง
- อาซาร์ 2 ครั้ง

นอกจากนี้นับตั้งแต่เจ้าตัวเปิดซิงเกมแรกในเวที พรีเมียร์ลีก เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2012 สตาร์ทีมชาติเบลเยียมวัย 27 ปี ถือเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมโดยตรงถึง 114 ประตู (73 ประตู, 41 แอสซิสต์) ซึ่งถือว่ามากกว่าทุกคนในลีก

- จอมส่องไกล ชาก้า

กรานิต ชาก้า ยิงฟรีคิกสุดงามเป็นประตูเปิดหัวให้ อาร์เซน่อล บุกเชือด นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-1 ทำให้เวลานี้เจ้าตัวทำประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ไปแล้วทั้งสิ้น 4 ลูก และทั้งหมดเป็นการยิงจากนอกเขตโทษ

- ลูกากู ขึ้นแท่นตำนานดาวยิง "ปีศาจแดง"!

หลังทำหนึ่งตุงช่วย แมนฯ ยูไนเต็ด บุกเชือด วัตฟอร์ด 2-1 ส่งผลให้ตอนนี้ โรเมลู ลูกากู ทำประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ภายใต้ยูนิฟอร์ม "ปีศาจแดง" ไปแล้ว 20 ลูก จากการลงเล่น 39 นัด โดยที่ก่อนหน้านี้มีแค่สามคนเท่านั้น ที่ยิงถึงหลัก 20 ประตูได้เร็วกว่าเขา ซึ่งนั่นก็คือ รุด ฟาน นิสเตลรอย (26 นัด), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (32 นัด) และ ดไวท์ ยอร์ค (34 นัด)

- ลูกากู เจ๋งกว่า ดร็อกบา???

หากนับรวมทั้งตอนเล่นให้ เชลซี, เอฟเวอร์ตัน และ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน แล้ว เวลานี้ โรเมลู ลูกากู ทำประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ไปแล้วทั้งสิ้น 105 ลูก จากการลงเล่น 225 นัด ซึ่งถือเป็นการยิงแซงหน้า ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ตำนานหัวหอก เชลซี ไปแล้ว ทั้งที่ลงเล่นน้อยกว่า ดร็อกบา ถึง 29 นัด (ดร็อกบา ยิง 104 ลูก จาก 254 นัด)