มันเป็นเรื่องธรรมดาที่พอนักเตะคนไหนเล่นได้แย่แล้วนั้น เขาก็ควรจะต้องถูกดร็อปแล้วเปิดโอกาสให้คนอื่นลงเล่นแทน แต่มันถือเป็นเรื่องที่คนเป็นผู้จัดการทีมต้องคิดหนักพอตัวถ้าเกิดคนที่เล่นได้แย่คนนั้นดันเป็นแข้งระดับกำลังสำคัญของทีม

นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับ ลิเวอร์พูล ในตอนนี้ เพราะมันเริ่มมีการตั้งประเด็นกันแล้วว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ควรจะดร็อป โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกชาวอียิปต์ดีรึเปล่า สำหรับเกมลีกนัดที่ต้องเปิดรัง แอนฟิลด์ เจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคมนี้ เพราะฤดูกาลนี้ ซาลาห์ ฟอร์มไม่โดดเด่นเหมือนซีซั่นก่อน ซึ่งวันนี้เราจะมาลองวิเคราะห์ทั้ง 2 ทางเลือกกัน

- ทำไมถึงควรดร็อป

ซาลาห์ กรำศึกหนักมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีก่อนแล้ว โดยในซีซั่น 2017-18 เขาลงเล่นในทุกรายการไปถึง 52 เกม แล้วยังต้องมารับใช้ทีมชาติอียิปต์ในศึก ฟุตบอลโลก 2018 อีก ส่วนในฤดูกาลนี้เขาก็ลงเล่นไปแล้ว 10 นัดจากทุกรายการ (หรือจะนับเป็น 9 ก็ได้ ถ้าไม่นับรวมเกม คาราบาว คัพ ที่ลงเล่นไปเพียงราว 3 นาที) ซึ่งนั่นส่งผลกับสภาพร่างกายของเขาพอตัว

จริงอยู่ว่าเขาอาจจะได้พักมาในระดับหนึ่งหลังเสร็จสิ้นภารกิจการรับใช้บ้านเกิดกับทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลก 2018 ที่ รัสเซีย เป็นเจ้าภาพ แต่มันดูเหมือนว่าจะยังไม่เพียงพอ แถมยังมีความเป็นไปได้ว่า ซาลาห์ จะยังมีอาการปวดตรงไหล่ซ้ายที่ได้รับจากเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ เมื่อฤดูกาลก่อนด้วย ดังนั้นการดร็อปเขาบ้างก็น่าจะเป็นผลดีต่อสภาพร่างกายของแข้งชาวอียิปต์ไปในตัว

นอกจากนี้ มันจะเป็นการทำให้ ซาลาห์ ได้ผ่อนคลายสภาพจิตใจด้วย เพราะช่วงที่ผ่านมาเขาเหมือนจะเครียดพอตัวกับการที่โดนเอาไปเปรียบเทียบกับ ซาดิโอ มาเน่ ปีกเพื่อนร่วมทีมชาวเซเนกัล แถมยังเคยไปวุ่นกับเรื่องนอกสนามอีกต่างหาก หลังจากเขาเปิดสงครามกับสมาคมฟุตบอลอียิปต์ (อีเอฟเอ) อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ดูไม่มีสมาธิกับการเล่นมากเท่าที่ควร

- ทำไมถึงไม่ควรดร็อป

การพักแข้งระดับตัวความหวังของทีมมันหมายความว่าคนเป็นกุนซือต้องมั่นใจว่านักเตะรายอื่นๆ จะก้าวขึ้นมารับบทบาทแทนซูเปอร์สตาร์คนนั้นได้ คำถามคือสภาพแนวรุกของของ ลิเวอร์พูล ในตอนนี้ ดีพอที่จะพาทีมคว้าชัยชนะเมื่อไร้เงาของ ซาลาห์ ได้หรือไม่ ?

ไม่มีใครปฏิเสธว่า มาเน่ ทำผลงานได้น่าประทับใจในช่วงต้นฤดูกาลนี้ หลังจากที่เขาทำประตูในลีกได้ 4 ลูก จากการลงเล่น 7 นัด (ซาลาห์ ทำได้ 3 ประตู จากการลงเล่นเท่ากัน) แต่ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาเล่นได้อย่างโดดเด่นนั้น เป็นเพราะแนวรับของคู่แข่งมักจะไปประกบ ซาลาห์ ชนิดเป็นเงาตามตัวมากกว่าฤดูกาลก่อน เพราะรู้ถึงพิษสงของอดีตแข้ง อาแอส โรม่า เป็นอย่างดี

นั่นหมายความว่าการดร็อป ซาลาห์ จะทำให้แนวรับของ แมนฯ ซิตี้ หันไปไล่ประกบ มาเน่ ได้แบบเต็มที่ และจะทำให้ ลิเวอร์พูล เล่นได้ยากทันที โอเค หลายคนอาจจะบอกว่า เซอร์ดาน ชากิรี่ น่าจะเป็นตัวเลือกที่พอช่วยทีมได้ แต่ถ้าไม่หลอกตัวเองจนเกินไป มันก็ต้องยอมรับว่าคุณภาพของ ชากิรี่ เทียบกับ ซาลาห์ ไม่ได้ ต่อให้จะเป็นในสภาพปัจจุบันที่ปีกทีมชาติอียิปต์ไม่ได้ฟอร์มฮอตเหมือนเก่าก็ตาม

นอกจากนี้ ซาลาห์ ยังถือเป็นฝันร้ายของ แมนฯ ซิตี้ ด้วย เพราะเขาสามารถทำได้ถึง 3 ประตู จากเกมแบบมีความหมาย (หมายถึงไม่นับรวมเกมอุ่นเครื่อง) ทั้งหมด 4 นัดที่เจอกับ "เรือใบสีฟ้า" ภายใต้สีเสื้อของ ลิเวอร์พูล

บทสรุป : ถ้าเป็นเกมที่เจอกับทีมเล็กๆ ก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ถือเป็นเกมที่มีความสำคัญต่อการลุ้นแชมป์ลีกอย่างมาก เพราะทั้ง 2 ทีมต่างก็มี 19 คะแนนเท่ากัน ดังนั้น คล็อปป์ จึงยังไม่ควรดร็อป ซาลาห์ ในเกมวันอาทิตย์นี้ และควรจะเลือกปรับเปลี่ยนแท็คติกเพื่อช่วยให้ ซาลาห์ โชว์ฟอร์มเก่งออกมาให้ได้มากกว่าอีเวอร์เซ่น, ยอห์น คาริว และ ทอเร่ อันเดร โฟล